สุดยอดรถเบนซ์หนึ่งเดียวในสยาม ติดเหรียญตั้งแต่ ร.4-ร.9 ประมาณ 500 รุ่น กว่า 3 หมื่นเหรียญ มูลค่าเหรียญแพงกว่าราคารถ เจ้าของเป็นหลานท่านขุน สะสมเหรียญทุกรุ่นทุกรัชกาล แพงสุดเหรียญแต้เม้ง ราคา 3 ล้าน พระกรุเก่ากำแพงเพชรอีกเพียบ...
วันที่ 11 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้ไปที่บ้านเลขที่ 23 ถนนกำแพงเพชร ต.ในเมือง อ.เมืองกำแพงเพชร บ้านของนายชัยฤทธิ์ โสภณโภไคย อายุ 56 ปี นอกจากเปิดเป็นร้านขายหนังสือแล้ว อีกด้านเปิดเป็นห้องกระจก จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ขุนโสภณโภไคย ซึ่งเก็บสิ่งที่มีค่า และเปิดให้เข้าชมฟรี และสิ่งหนึ่งที่อยู่ในนี้คือ รถเบนซ์ รุ่น 300 ดี ปี 2527 ประดับด้วยเหรียญชนิดต่างๆ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลที่ 9 จำนวน 500 รุ่น รวมประมาณ 30,000 เหรียญ นอกจากรถและเหรียญที่ประดับรถแล้ว ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีของเก่าแก่โบราณ รวมทั้งพระกรุเก่าแก่สมัยเชียงแสน สุโขทัย อู่ทองเรื่อยลงมามากมาย
นายชัยฤทธิ์ เปิดเผยถึงที่มาของรถเบนซ์คันนี้ว่า น้าสาวตนเป็นพยาบาลอยู่ที่อเมริกา ซื้อไว้ในราคา 230,000 บาท เมื่อปี 2527 หลังจากใช้งานที่อเมริกาได้ 4 ปี ก็ขายต่อให้แม่ของตนชื่อนางสุรีย์ โสภณโภไคย โดยส่งเข้ามาในประเทศไทย จากนั้นนำมาจดทะเบียนเมื่อปี 2532 ได้ทะเบียน กข 574 กำแพงเพชร และใช้อยู่ที่ จ.กำแพงเพชรมาตลอด
...
ขณะเดียวกัน ด้วยเหตุที่คุณตาคือ ขุนโสภณโภไคย มีเหรียญเก่าเก็บไว้บ้าง ต่อมาแม่ของตนได้เก็บสะสมเหรียญทุกชนิดต่ออีกนานกว่า 70 ปี จึงทำให้มีเหรียญมากกว่า 100,000 เหรียญ มีตั้งแต่เหรียญของรัชกาลที่ 4 จนถึงเหรียญของรัชกาลที่ 9 มีทุกรุ่นทุกแบบทุกราคาทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะเหรียญที่เป็นจักรพรรดิของเหรียญ คือเหรียญแต้เม้งป้อ สร้างในรัชกาลที่ 4 ทางกรมธนารักษ์บอกว่าราคาเหรียญนี้เหรียญเดียว ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท และเหรียญที่บอกหายากทุกเหรียญของรัชกาลที่ 5 ที่แห่งนี้มีหมด แต่สมบัติทั้งหมดนี้ ไม่เคยขายแม้แต่เหรียญเดียว เพราะถือว่าเป็นของสะสมของบรรพบุรุษมีค่ามากกว่าเงินทอง
ทายาทท่านขุนฯ กล่าวต่อว่า เมื่อปี 2556 ตนอยากทำอะไรที่ให้คนรู้จักคุณค่าของเหรียญต่างๆ จนเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556 จึงเริ่มนำเหรียญมาติดกับรถเบนซ์ โดยคิดรูปแบบเอง แต่ด้วยเหตุที่ไม่ใช่ช่างศิลป์ จึงไม่ได้ร่างแบบที่ตัวรถก่อน ค่อยๆ ติดทีละเหรียญ โดยที่ฝากระโปรงรถติดเป็นตัวเลข ๑ ไทย และติดเป็นอักษรว่า ในสยาม ส่วนที่ฝากระโปรงท้ายรถติดเป็นตัวอักษรว่า เรารักในหลวง และรอบคันก็ติดเหรียญจนเต็ม
"ที่ยากที่สุดคือบนหลังคาซึ่งติดวนเป็นก้นหอย หลังจากที่ติดไป 1 เหรียญก็ต้องมายืนเล็งว่าตรงหรือไม่ และไม่ใช่ติดเหรียญมั่ว ต้องคัดเลือกให้เข้ากับหมวดหมู่ของเหรียญตามยุคสมัยด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก และต้องติดอย่างละ 2 เหรียญทั้งด้านหน้าและด้านหลัง บางวันใช้เวลาในการกินอยู่นอนกับรถคันนี้ไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง เพราะทำเพียงคนเดียว ในที่สุดก็ติดเสร็จเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม รวมทั้งสิ้นใช้เวลา 6 เดือนเต็มๆ"
นายชัยฤทธิ์ เผยอีกว่า มั่นใจว่าเป็นรถที่ติดเหรียญมากที่สุดหนึ่งเดียวในประเทศถึงประมาณ 30,000 เหรียญ รวม 500 รุ่น แต่เป็นคันที่ 2 ของโลก คันแรกอยู่ในประเทศซาอุดีอาระเบีย ติด 50,000 เหรียญ แต่เป็นเหรียญรุ่นเดียวกันทั้งหมด แต่ถ้าจะนับมูลค่ารถคันนี้คงตอบไม่ได้ เพราะมูลค่าเหรียญมากกว่าราคารถหลายเท่าตัว ส่วนผู้ที่จะเข้าศึกษาสามารถติดต่อได้ที่พิพิธภัณท์ขุนโสภณโภไคย ร้านสุรีย์สานส์ หรือจะให้นำรถไปที่โรงเรียนให้เด็กๆ ได้ศึกษาก็ได้ เพราะเป็นพิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่
...
ทั้งนี้ นอกจากรถเบนซ์และเหรียญแล้วภายในห้องนี้ยังมีวัตถุโบราณต่างๆ รวมทั้งพระกรุเก่าแก่หลายสมัย โดยเฉพาะพระกรุเก่าแก่ของ จ.กำแพงเพชร แทบทุกแบบ ซึ่งคุณแม่ซึ่งเป็นคนกำแพงเพชรเก็บสะสมไว้ทุกอย่างในช่วงที่มีกรุพระแตกใน จ.กำแพงเพชร และแม่ยังได้นำพระทองคำทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อคราวที่พระองค์เสด็จมาบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อปี 2510 ที่ จ.กำแพงเพชร พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งต่อมาทางสำนักพระราชวังได้ส่งรูปมาให้ด้วย
"แรงจูงใจที่นำรถเบนซ์มาติดเหรียญ เนื่องจากคุณแม่สะสมเหรียญไว้นับแสนเหรียญ เก็บไว้ชื่นชมคนเดียวก็เสียดาย จึงนำมาติดรถเพื่อให้น่าสนใจมากขึ้น เพราะเหรียญทุกเหรียญเล่าเรื่องของประวัติศาสตร์ไทยได้ จึงอยากให้เด็กๆ ได้ศึกษาความเป็นมาไว้" นายชัยฤทธิ์ หนุ่มใหญ่ชาวกำแพงเพชรที่ร่ำรวยทั้งทรัพย์สมบัติและรวยน้ำใจ กล่าวในที่สุด.