เจ้าของร้านขายของชำ ร้องชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เหตุโจรขึ้นบ้าน 6 ครั้ง แจ้งความ สน.โคกคราม 3 ครั้งคดีไม่คืบ ซ้ำถูกตร. ย้อนกลับ หากจะให้ดำเนินการทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย ตัดสินใจหอบเอกสาร-วงจรปิด ร้องเรียน หวั่นก่อเหตุซ้ำ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 พ.ย. ที่ สน.โคกคราม นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย นายอ๊อด นุ่มสำลี 41 ปี อาชีพค้าขาย อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.เคหะธาณี 3 ซอยนวมินทร์ 74 แยก 3 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ทัสสุมิ ยอดประทุมวัน รอง ผกก.สส.สน.โคกคราม พ.ต.ท.สุวรรณ ผลอินทร์ รอง.ผกก.(สอบสวน) สน.โคกคราม เพื่อขอให้เร่งรัดติดตามคดีกลุ่มคนร้ายลักทรัพย์ภายในบ้านของนายอ๊อดมากกว่า 6 ครั้ง
นายอ๊อด กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า บ้านของตนเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้าบ้านติดถนนไม่มีรั้วกั้น ด้านล่างเปิดร้านขายของชำ ชื่อร้านใบตอง โดนลักทรัพย์มาแล้ว 6 ครั้ง แต่เลือกที่จะเข้าแจ้งความเพียง 3 ครั้ง แจ้งความครั้งแรกเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว มีทรัพย์สิน เงินสด เหล้าบุหรี่หลายลัง เป็นต้น ครั้งที่สอง ถูกลักทรัพย์ประมาณ 1 ปีที่แล้ว เป็นรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นโรดิโอ สีน้ำเงินเข้ม ทะเบียน ลว158 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่ข้างบ้าน และครั้งนี้ครั้งที่สาม เกิดเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา มีคนร้ายเข้าไปงัดบ้านนำทรัพย์สิน อาทิ เครื่องคิดเงิน เหล้า บุหรี่ เงินสด มูลค่ารวมหลายแสนบาท
"ทั้ง 3 ครั้งผมได้เดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า มีความหวาดกลัวว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรหากไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้จึงได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายครั้ง แต่ตำรวจกลับตอบมาว่า "หากจะให้ดำเนินการทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย" ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ อย่างไรก็ตามในวันนี้ได้นำหลักฐานเป็นภาพกล้องวงจรปิด ภาพนิ่ง และทะเบียนรถของตนที่ถูกขโมยไปมาให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ" นายอ๊อด กล่าว
...
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดด้วยตนเองทราบว่าลักษณะคนร้ายน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรืออาสา เนื่องจากคนร้ายใส่รองเท้าผ้าใบและถุงมือ มีความชำนาญในการก่อเหตุ หากเป็นโจรทั่วไปจะใส่รองเท้าแตะไม่ใส่ถุงมือ อย่างที่ปรากฏตามคลิป
พ.ต.ท.ทัสสุมิ กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้สายตรวจนำกล่องแดงไปติดตั้งที่หน้าบ้าน เพื่อให้นายอ๊อดรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอีกระดับ ทั้งนี้สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการพูดจาเชิงมีการเรียกรับเงิน จะต้องทำการตรวจสอบ หากพบว่ามีพฤติกรรมดังกล่าวก็จะดำเนินการตามมาตรการทันที สำหรับคดีดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ จะรีบดำเนินการติดตามคนร้ายมาลงโทษให้เร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพจากกล้องวงจรปิด เวลา 01.50 น. วันที่ 6 พ.ย. สามารถจับภาพคน 2 คน ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปจอดฝั่งตรงข้ามของบ้านเพื่อสังเกตการณ์คนในบ้านและรอบนอก จากนั้นมีคนร้าย 1 คน ขับรถเก๋งมาจอดหน้าบ้าน แล้วลงมืองัดประตูเหล็กม้วน เข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้าน โดยมีคนร้ายสวมหมวกนิรภัยวิ่งมาช่วยขนของขึ้นรถเก๋ง แล้วหลบหนีไป โดยใช้เวลา 10 นาที