เครดิตภาพจาก: เฟซบุ๊ก Apple Yin Yang
สิ้นแล้ว “รศ.นพ.สภา ลิมพาณิชย์การ” ปิดตำนาน “หมอห้าบาท” เปิดคลินิกคิดค่ารักษาในราคาแสนประหยัด หรือถ้ามีไม่พอให้ เท่าไหร่ก็เท่านั้น ขณะลูกศิษย์เผยอาจารย์เคยบอกว่า ผมจะขออยู่จนในหลวงจากไป
วันนี้ 10 พ.ย.2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รศ.นพ.สภา ลิมพาณิชย์การ ผู้ได้รับฉายา “หมอห้าบาท” สิ้นใจอย่างสงบที่ รพ.ศิริราช เมื่อวานนี้ (9 พ.ย.) เวลา 21.57 น. โดยจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ตั้งแต่วันที่ 12-16 พ.ย. 59 ณ วัดเจ้าอาม ศาลา 2 บางขุนนนท์ กทม.
คุณหมอสภา หรือ รศ.นพ.สภา จบการศึกษา แพทยศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาโรงเรียนเวชนิทัศน์ หน่วยงานในสถานเทคโนโลยีการศึกษาแพทย์ศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล โดยจะเดินทางมาทำงานที่ศิริราชตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ จนถึง 5 โมงเย็น ก่อนจะขับรถไปเปิดคลินิกที่ซอยระนอง 1 ถนนพระราม 5 ให้การรักษาผู้ป่วยโรคพื้นฐาน เป็นไข้ ปวดหัว ตัวร้อน คิดค่ารักษาตั้งแต่ 5 บาทไปจนถึงสูงสุด 70 บาท โดยเปิดเพียงวันละ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ระหว่างเวลา 18.00-20.00 น. และในวันอาทิตย์ (ปิดวันเสาร์) คุณหมอได้ช่วยเหลือคนจนผู้ยากไร้มาเป็นเวลานาน ซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในละแวกซอยระนอง 1 โดยคิดค่ารักษาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จนได้รับฉายา “หมอห้าบาท” จนถึงทุกวันนี้
...
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับเรื่องคิดค่ารักษาถูกนี้ คุณหมอเคยเล่าว่า ไม่ใช่เป็นเพราะอุดมการณ์ใดๆ แต่มาจากการที่ขณะที่คุณหมอยังเด็ก คุณหมอไม่สบายอยู่บ่อยๆ ตอนอายุ 3-4 ขวบ เป็นโรคคอตีบ โตขึ้นมาหน่อยเป็นไทฟอยด์ ต่อมาก็เป็นปอดบวม คุณแม่จึงพาคุณหมอไปรักษาที่โรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ เวลาไปโรงพยาบาลเห็นคุณแม่เสียเงินเยอะ ก็คิดว่าเราป่วย ซึ่งก็แย่อยู่แล้ว ทำไมเรายังต้องเสียเงินเยอะอีก ดังนั้นอะไรที่คิดถูกได้ก็คิดถูก
"เวลาคิดเงินก็จะดูจากยา ว่ายาถูกหรือยาแพง แต่ถ้าคนไข้ไม่มีจริงๆ ก็ไม่คิด แต่คนไข้ที่มาหาเดี๋ยวนี้เขาก็สงสารเรา ไม่อยากให้รักษาฟรี หรือบางทีเขามีไม่พอก็บอกว่าไม่ต้องก็ได้ แต่พอเขามีเขาก็มาจ่ายทีหลัง คนไข้คนจนๆ เป็นคนซื่อตรงมาก “ถ้ารักษากับผมไม่ต้องเอามาเกินใบละร้อย แต่บางทีก็มีแหย่คนไข้บ้าง อย่างบางคนเขามีมา 20 บาท ก็แกล้งหลอกเล่นๆ ว่าค่ารักษา 30 บาท เขาก็หน้าซีด แต่จริงๆ ก็คิดไม่ถึงหรอก” คุณหมอเล่า และกล่าวอย่างอารมณ์ดี
สมาชิกเฟซบุ๊ก Apple Yin Yang ได้เขียนถึงอาจารย์สภา ไว้ตอนหนึ่งใจความว่า ในชีวิตเห็นหมอมาก็เยอะ แต่ไม่เคยมีหมอคนไหน ทำให้รู้สึกศรัทธาได้เท่ากับ อ.หมอสภา เมื่อครั้งที่ตามอาจารย์ไปที่คลินิกสำนักงานแพทย์ ซอยระนอง 1 รู้สึกสะเทือนหัวใจเป็นที่สุด คลินิกอาจารย์เก่ามากๆ ข้าวของเครื่องใช้ก็ทรุดโทรม รวมถึงป้ายที่ประกาศเตือนหรือให้ความรู้คนไข้นั้น อาจารย์เขียนด้วยลายมือตัวเอง แปะตามผนังเต็มไปหมด ช่วงนั้นอาจารย์เริ่มป่วย เราจึงคิดไปช่วยท่านเพื่อเปิดคลินิก ไปได้ไม่กี่วันเรายังท้อเลย มันเหนื่อยและรถติด เรานั่งเฉยๆ นะ แกเป็นคนขับให้เรานั่ง พอไปถึงคลินิกมีคนนั่งรออยู่หน้าคลินิกเต็มไปหมด เราก็งกๆ เงิ่นๆ เพราะอาจารย์ไม่ใช้ให้เราทำอะไรเลย ได้แต่บอกให้เราไปเอาเก้าอี้มานั่ง อาจารย์คงไม่รู้ตัวว่า อาจารย์กำลังทำตัวอย่างให้เราดู และคิดสำนึกได้เอง โดยมิต้องพูดพร่ำสอนอะไรทั้งสิ้น เราซึมซับได้เองถึงการทำตัวเป็นคนทำงานเพื่อคนอื่น ถึงคำว่า เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว อาจารย์ทำให้เรารู้จักความละอายต่อการทำผิดและรู้จักคุณค่าของวิชาชีพ
“ท่านเป็นผู้ปราศจากกิเลส ความต้องการอยากมีอยากได้ใดๆ ท่านไม่เคยเอ่ยปากขอความช่วยเหลือใดๆ จากใคร มีแต่ความเกรงใจผู้อื่น มีแต่จะหยิบยื่นให้เรา ซื้ออะไรไปฝากก็ให้ของกลับมาอีก ไม่รู้ว่าชาตินี้จะได้เจอหมอหรือใครที่เหมือนอาจารย์หมอสภาได้อีก เราจำกันได้ว่า...อาจารย์บอกว่า "ผมจะขออยู่จนในหลวงจากไป ขอให้ได้อยู่เห็นพระองค์ตลอดไปก็พอแล้ว" ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากร้องไห้ออกมาดังๆ คนที่ดีที่สุด ที่รักที่สุดมาจากไปในเวลาใกล้เคียงกัน ไม่รู้จะเอ่ยคำใดให้เพียงพอกับความรู้สึกที่เป็นอยู่ และอยากจะขอบคุณผู้ดูแลอาจารย์มาตลอด”.
...