ชาวไทยน้ำใจทะลักส่งสิ่งของช่วยโรงทานสนามหลวง ทั้งจัดตักบาตรนำอาหารแห้งส่งเข้ากรุง ชาวพบพระร่วมกันบริจาคผักผลไม้ 6 รถบรรทุกส่งไปช่วย ขณะที่ส่วนอื่นทำความดีถวายพ่อหลายพื้นที่ รวมทั้งหมอฟันนักดนตรีเปิดคลินิกบริการตรวจและถอนฟันฟรี ตามด้วยหนุ่มเจ้าของร้านทำป้ายจัดพิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์แจกให้กับคนที่ต้องการไปบูชา 99,999 รูป ขณะที่อดีต ผอ.รพ.ปลื้มในหลวงรับสั่ง “ฉันไว้ใจเธอ”
พสกนิกรทั่วประเทศยังระลึกพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมใจแสดงความอาลัยทุกวัน รวมทั้งจัดพิธีทำบุญและจัดกิจกรรมจิตอาสาทำประโยชน์ให้สังคมทั้งแจกอาหารฟรี ช่วยกันทำความสะอาดบริการย้อมผ้าดำฟรีเพื่อถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9
ตักบาตรนำอาหารส่งโรงทาน
สำหรับบรรยากาศแสดงความอาลัยและการทำบุญในต่างจังหวัดยังมีอย่างต่อเนื่อง เริ่มจาก จ.พิจิตร เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 26 ต.ค. ที่หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองพิจิตร นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.พิจิตร นำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน กลุ่มพลังมวลชน นักเรียน นักศึกษาร่วมตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์ 89 รูปเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยนายอนุชา ศรีสุทธิรักษ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองพิจิตร เปิดเผยว่า ข้าวสารอาหารแห้งที่ได้จากการตักบาตรจะนำไปบริจาคเพื่อจัดตั้งโรงทานในนามชาวพิจิตรที่บริเวณสนามหลวง เพื่อทำอาหารแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ไปกราบพระบรมศพต่อไป หลังเสร็จพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแล้วสมาชิกกลุ่มไม่อายทำดีนำโดยนายนฤภัทร ไทยเจริญ เปิดบริการย้อมผ้าสีดำให้กับประชาชนทั่วไปฟรี
ชาวพบพระส่งผักผลไม้ช่วย
ที่ศูนย์โอทอป อ.พบพระ จ.ตาก นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.ตากสั่งการนายประสงค์ หล้าอ่อน นอภ.พบพระในนามจังหวัดตากพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทหารชุดควบคุม ฉก.ร 14 ปล่อยคาราวานรถบรรทุกผักผลไม้ 6 คัน มุ่งหน้าสนามหลวงเพื่อใช้ปรุงอาหารเลี้ยงประชาชนที่มาแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สำหรับผักผลไม้ดังกล่าวชาวบ้านร้านค้าและเกษตรกรชาวอำเภอพบพระร่วมกันบริจาค โดยนายประสงค์ กล่าวว่า อำเภอพบพระปลูกผักผลไม้เหมือนเป็นครัวประเทศ ของทั้งหมดประชาชนร่วมกันบริจาคให้กับจังหวัดตากและให้อำเภอพบพระเป็นผู้รวบรวมเพื่อนำส่งไปที่ท้องสนามหลวงโดยมีเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมดูแลไปรวมทั้งสิ้น 25,000 กก. และจะรวบรวมจากผู้บริจาคส่งไปเป็นระลอกจนกว่างานจะเสร็จสิ้น
...
สมภาร-กศน.จับมือเปิดย้อมผ้า
ส่วนที่วัดบางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม นายพีระฉัตร อนุวงศ์ ผอ.กศน.บางเลน นายอภิวัฒน์ เค้าภูไทย นายกเทศมนตรีตำบลบางเลนและพระครูเกษมถาวรคุณ เจ้าคณะตำบลไผ่หูช้างเจ้าอาวาสและเจ้าอาวาสวัดบางเลน ร่วมกันเปิดบริการย้อมผ้าสีดำฟรีและมีประชาชนมาใช้บริการไม่ขาดสาย สอบถามพระครูเกษมถาวรคุณ กล่าวว่า หลังกระทรวงศึกษาธิการประกาศให้ กศน.ทั่วประเทศเปิดรับย้อมผ้าดำฟรีให้แก่ประชาชน เนื่องจากเสื้อสีดำขาดตลาดและราคาแพงจึงร่วมกับ กศน.บางเลนจัดย้อมผ้าดำขึ้นและจะไม่มีการนำน้ำย้อมผ้าไปทิ้งในคลองสาธารณะจะนำกลับหมุนเวียนใช้ต่อไป นอกจากนี้ยังได้นำไข่ไก่ 5,000 ฟองไปมอบให้กับคณะทำครัวสำหรับนำทำเมนูอาหารเลี้ยงประชาชนที่ไปถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์และแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่พระบรมมหาราชวังด้วย
เทคนิคฯพ่อคูณทำความดีเพื่อพ่อ
ขณะที่สำเร็จ วงศ์ศักดา ผอ.วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า วิทยาลัยหลวงพ่อคูณฯ ได้จัดกิจกรรม “ทำความดีเพื่อพ่อ” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายใต้โครงการศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชนโดยมอบหมายให้นายวิริยะ พัฒนาวิเศษฐ์ รอง ผอ.นำนักศึกษาจัดตั้งเต็นท์ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า หน้าที่ว่าการอำเภอด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เปิดบริการซ่อมยานพาหนะ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอื่นๆฟรี รวมทั้งสอนย้อมผ้า รับย้อมผ้าและสอนทำริบบิ้นฟรีกับประชาชนทั่วไป
ลิเกกาแฟโบราณแจกรอบเมือง
ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายพรชัย ลาภนิล อดีตพระเอกลิเกและเจ้าของร้านลิเกกาแฟโบราณข้างวิหารพระมงคลบพิตร อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดบริการให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวดื่มกาแฟโบราณฟรี หรือแล้วแต่ลูกค้าจะบริจาค นอกจากนี้ยังได้เข็นรถของร้านไปรอบเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาเพื่อให้ประชาชนกินฟรี โดยนายพรชัยเปิดเผยว่า ปกติตนจะแต่งลิเกขายกาแฟทุกวันที่ข้างวิหารพระมงคลบพิตร แต่พอทราบว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สวรรคต รู้สึกเสียใจมากและตั้งใจว่าต้องทำอะไรเพื่อในหลวง ร.9 จึงตั้งใจที่จะตกแต่งรถเข็นบรรยายถึงความรู้สึกและมีภาพพระราชกรณียกิจติดรอบรถแล้วนำกาแฟมาบริการประชาชน
รถสองแถวจัดวิ่งบริการฟรี
นายดำรงค์ นพรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ร่วมเป็นสักขีพยานหลังจากที่นายชัยภูมิ อินทร์สอาด ประธานสหกรณ์เดินรถอุทัยธานี ได้จัดรถสองแถวรับส่งผู้โดยสารฟรีจากตัวอำเภอหนองฉางไปตัวจังหวัดอุทัยธานี ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนที่กำลังโศกเศร้าในการสวรรคตของในหลวง ร.9 โดยนายชัยภูมิ กล่าวอีกว่า ประชาชนในพื้นที่ต่างเศร้าโศกเสียใจ อีกทั้งประชาชนส่วนใหญ่เดินทางไปกราบพระบรมศพกันอย่างเนืองแน่นจึงจัดให้มีรถสองแถวเตรียมรอรับส่งผู้โดยสารบริเวณหน้าที่ทำการอำเภอหนองฉางตลอดระยะทางกว่า 25 กม.ฟรี ตามปกติจะเก็บค่าโดยสารคนละ 25 บาท ระหว่างทางยังแจกลูกอม ยาดมให้กับประชาชนที่ใช้บริการด้วย
หมอนักดนตรีแต่งเพลงเพื่อพ่อ
ด้าน จ.อุบลราชธานี ทันตแพทย์โมฮัล ศกภูเขียว หรือฉายาคุณหมอศิลปินเสียงน้ำผึ้งพระจันทร์ เจ้าของคลินิกทันตกรรมทันตแพทย์โมฮัล เลขที่ 119 ถนนชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี และเจ้าของผลงานเพลง “ภาพติดตา” ที่แต่งและร้องขึ้นเพื่อแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโดยจะขับร้องเพลงให้ผู้ที่มารักษาฟันได้ฟังก่อนการรักษา แต่ละคนเมื่อได้ฟังเพลงภาพติดตาจากเสียงอันไพเราะของคุณหมอที่กินใจต่างร้องไห้ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ “เป็นคนชอบร้องเพลงลูกทุ่งและหมอลำ ก่อนเปิดคลินิกเคยร้องเพลงอยู่วงดนตรีหมอลำมาก่อน ระหว่างรักษาคนไข้จะร้องเพลงให้คนไข้ฟังเพื่อผ่อนคลาย พอทราบในหลวงสวรรคตรู้สึกเสียใจมากระหว่างที่นั่งเศร้าเลยเขียนเพลงถึงพระองค์ใช้เวลาเพียง 30 นาที คือเพลงภาพติดตา ที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับที่พระองค์ทรงงานหนักเพื่อประชาชนมาโดยตลอด
...
เปิดคลินิกตรวจ-ถอนฟันฟรี
ทันตแพทย์โมฮัล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนยังเปิดให้บริการทันตกรรมด้วยการตรวจสุขภาพฟันและถอนฟันฟรีแก่ประชาชนทั่วไป เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยเปิดให้บริการฟรีสัปดาห์ละ 9 คน ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 5 ธ.ค.2560 ผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับบริการได้ที่คลินิกทันตกรรมทันตแพทย์โมฮัล เลขที่ 119 ถนนชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี หรือติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-2554-2519 หรือ 0-4524-4542
สานใจปลูกป่า 27,000 ต้น
นอกจากนี้ ที่เขาภูดรห้วยมะหาด ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง กลุ่มประชาชน นักเรียนโรงเรียนบ้านฉางกาญจนกุลวิทยา โรงเรียนชุมชนบ้านเขา-ห้วยมะหาด สำนักงานป่าไม้ระยอง สถานีควบคุมไฟฟ้าเขาชะเมา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาชีโอน หน่วยบัญชาการต่อสู่อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 1 กองทัพเรือ สภ.บ้านฉาง และกลุ่มบริษัท ทีโอซี ไกลคอล จำกัด บริษัท พีทีที โกลบอล เคมีคอลและเครือข่ายได้ร่วมกันทำกิจกรรมปลูกป่า 27,000 ต้น เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในป่าชุมชนบ้านภูดร-ห้วยมะหาดเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง ร.9 โดยมีนายวิบูลย์ ชูชีพชื่นกมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีโอซี ไกลคอล เป็นประธานเปิดงานร่วมกับนายอนุศักดิ์ นิจรัญ รองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านฉาง
แจกรูปในหลวงฟรี 99,999 ใบ
นายกิตติศักดิ์ หรือช่างมิตร ดำน้อย เจ้าของร้านบ้านฝีมือรับทำป้าย ตั้งอยู่เลขที่ 42/1 ซอยศรีสุริยะ ข้างโรงเรียนกฤษณา ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมนางสมบูรณ์ ดำน้อย ภรรยา ลูกสาวและลูกเขยต่างช่วยกันตัดรูปพระบรมฉายาลักษณ์จากเครื่องพิมพ์สี่สีขนาดใหญ่เพื่อติดลงบนแผ่นพลาสติกแข็งจำนวนมากอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย หากมีใครเดินผ่านหน้าร้านจะเรียกมารับพระบรมฉายา ลักษณ์ในพระอิริยาบถต่างๆหลายแบบให้เลือก โดยนายกิตติศักดิ์ หรือช่างมิตร เปิดเผยว่า ตั้งแต่ทราบข่าวว่าในหลวง ร.9 เสด็จสวรรคต รู้สึกเสียใจมาก และตลอด 10 วันที่ผ่านมาคิดอยู่ตลอดว่าจะทดแทนพระมหากรุณาธิคุณอย่างไร จึงได้ปรึกษากับครอบครัวว่าน่าจะพิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์แจกจ่ายให้กับประชาชนไว้บูชา เพราะร้านมีเครื่องพิมพ์อยู่แล้ว เลยตกลงพิมพ์ภาพออกมาแจกจ่ายอย่างต่อเนื่องและจะผลิตให้ครบ 99,999 ภาพ
...
ป้ายไวนิลขนาดใหญ่อีก 10 แผ่น
“ภาพทุกภาพมีความหมาย สามารถเก็บไว้ได้นาน เพราะเป็นการพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์อย่างดีจากประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งพิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์บนแผ่นไวนิลขนาดใหญ่ช่วงที่พระองค์เสด็จพระราช ดำเนินทรงงานและเยี่ยมราษฎรขนาดใหญ่จำนวน 10 แผ่น มอบให้ สภ.สะเดา ติดตามสถานีสายตรวจย่อยต่อไป ผมได้เดินตามรอยเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงมาโดยตลอดจนสามารถสร้างครอบครัวและธุรกิจได้ ผมมีความสุขในการตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้และดีใจที่ได้เกิดมาในแผ่นดินของพระองค์” นายกิติตศักดิ์กล่าว
ชาวไทยภูเขาลงนามไว้อาลัย
ส่วนที่หน้าศูนย์หัตถกรรมเครื่องชาวเขาคลองเตย หมู่ 9 บ้านคลองเตย ต.คลองลานพัฒนา อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร นายบุญธรรม ทองพิจิตร นอภ.คลองลาน นายบรรจง รุจนยุทธ นายกเทศมนตรีตำบลคลองลานพัฒนา นายสมนึก แก่นไม้หอม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านคลองเตยและชาวไทยภูเขาเผ่าอิ๋วเมี่ยน หรือเผ่าเย้าจาก 6 ชุมชน รวม 900 คน ร่วมกันลงนามแสดงความไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 9 นาที ก่อนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ร่วมกันน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งดวงพระวิญญาณสู่สวรรคาลัยและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเคยให้หน่วยงานกรมป่าไม้จัดที่ดินทำกินและพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยภูเขา ในพื้นที่ราบตามหมู่บ้านต่างๆ ใน อ.คลองลาน อ.ปางศิลาทองและ อ.เมืองกำแพงเพชร เพื่อน้อมสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
เชียงใหม่ได้ 622โครงการหลวง
ที่สนามศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และพสกนิกรชาวเชียงใหม่ทุกหมู่เหล่ากว่า 3,000 คน ร่วมพิธีเปิดนิทรรศการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและพระราชกรณียกิจที่จังหวัดเชียงใหม่จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และได้ร่วมร้องเพลงน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ ร่วมแสดง ความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยนายปวิณกล่าวว่า เนื่องด้วยจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดเดียวที่พระองค์เสด็จทรงงานมากที่สุดในประเทศไทยถึง 92 ครั้ง ทุกครั้งได้พระราชทานความช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรในพื้นที่ในรูปแบบต่างๆ ตามสภาพของพื้นที่ ความเดือดร้อนของประชาชนและมีโครงการพระราชดำริเกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่มากกว่า 4,000 โครงการ และในจำนวนนี้มีถึง 622 โครงการที่พระองค์ได้พระราชทานให้กับพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่
...
จัดงานรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ
ส่วนที่หอจดหมายแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้จัดงานรวมใจเครือข่ายศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมแปรอักษรโดยประชาชน นักเรียน นักศึกษาและข้าราชการกว่า 10,000 คน คำว่า “9 ทรงสถิตในดวงใจ ไทยนิรันดร์กาล” โดยมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทั้งนี้ นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ อ่านบทกวีสดุดี และนายธนิสร์ ศรีกลิ่นดี เป่าขลุ่ยบรรเลงประกอบการสดุดี 7 นาที ศิลปินพื้นบ้าน 4 ภาคกล่าวสดุดี และร่วมกันยืนสงบนิ่งแสดงความอาลัย 1 นาที พร้อมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
พ่อเมืองร่วมแปรอักษรเลข ๙
บริเวณลานจอดรถสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานีเขต 4 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.อุบลราชธานี นายถาวร คูณิรัตน์ ผอ.สพป.อุบลราชธานี 4 นำคณะครู เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานีเขต 4 ต่างพร้อมใจกันใส่ชุดดำมาร่วมแปรอักษรสัญลักษณ์เป็นเลข ๙ รายล้อมด้วยรูปหัวใจเพื่อน้อมแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และแสดงความ จงรักภักดีถวายพระองค์ตราบนิรันดร์กาล พร้อมกันนี้คณะครูได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีดังกึกก้องไปทั่วบริเวณเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
นอกจากนี้ ที่สนามหญ้าหน้าเสาธง วิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา นายสำราญ หงษ์กลาง ผอ.วิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา พร้อมคณาอาจารย์และนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมาจำนวนกว่า 1,500 คน สวมชุดนักศึกษาติดริบบิ้นสีดำที่บริเวณต้นแขนซ้าย ร่วมกันจุดเทียนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและแปรอักษรเป็นเลข ๙ โดยมีรูปหัวใจดวงเล็กอยู่ด้านข้าง โดยกิจกรรมครั้งนี้ทางวิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมาได้จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง ร.9 ที่มีต่อปวงชนชาวไทย
หนุ่มโปลิโอโยกวีลแชร์เข้า กทม.
เช้าวันเดียวกัน นายคำพา แก้วจีน อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 7 ต.วังวน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ที่พิการเป็นโปลิโอโยกวีลแชร์ออกจากบ้านมุ่งหน้าไปลงนามแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรมมหาราชวัง กทม. ก่อนพักค้างคืนที่ปั๊มน้ำมันในพื้นที่ต.บ่อทอง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก โดยระหว่างทางมาถึง อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร ได้แวะลงนามแสดงความอาลัยที่ สภ.วชิรบารมี โดยนายคำพาเผยว่า คาดว่าการเดินทางครั้งนี้จะใช้เวลาประมาณ 4 วัน ระหว่างทางก็จะแวะลงนามแสดงความไว้อาลัยตามโรงพักต่างๆที่อยู่ตามเส้นทางและถือโอกาสขอตำรวจชาร์จแบตเตอรี่เพื่อใช้เปิดไฟหน้าและไฟท้ายรถสามล้อโยกเพื่อความปลอดภัย
สองพ่อลูกเดินเท้าจากทุ่งตะโก
ที่ จ.ชุมพร นายสำรวย ใจภักดี อายุ 55 ปีกับ ด.ช.พิชัย ใจภักดี อายุ 14 ปี ลูกชายเดินเท้าจากหมู่ 5 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก ไปลงนามแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ท่ีพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ โดยมี พ.ต.อ.วรพล ปานรัตน์ ผกก.สภ.ทุ่งตะโก และนายบุญส่ง ขาวศิริ นายกเทศมนตรีตำบลทุ่งตะโกและเพื่อนบ้านร่วมเป็นกำลังใจ สอบถามนายสำรวยกล่าวว่า ตั้งใจไปลงนามแสดงความอาลัยที่กรุงเทพฯ เพราะที่ผ่านมาพระองค์ทรงลำบากเพื่อคนไทยมามาก ตอนนี้จะไปคนเดียว แต่ลูกชายอยากไปด้วย ลำบากแค่ไหนต้องไปให้ถึง
ปั่นสองล้อสู่ปลายทาง 430 กม.
บ่ายวันเดียวกัน นายทองใบ ตางจงราช อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 325/5 หมู่ 4 ต.หนองตูม อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ได้ปั่นจักยานสองล้อออกจากหน้าศาลพระแม่ย่า ถนนนิกรเกษม ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย สู่จุดหมายพระบรมมหาราชวัง กทม. ก่อนแวะเข้าพบนายปิติ แก้วสลับสี ผวจ.สุโขทัย ที่ห้องทำงานบนศาลากลางจังหวัด และกราบขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลจากพระแม่ย่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ศาลพระแม่ย่า นายทองใบเปิดเผยว่า อยากไปกราบพระบรมศพ แต่ขัดสนเรื่องเงินทอง เนื่องจากฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน เลยเลือกปั่นจักรยานสองล้อตามที่ตัวเองถนัดเป็นวันแรกก่อนมุ่งหน้าสู่ กทม. ระยะทางประมาณ 430 กม. และจะแวะค้างคืนที่ จ.กำแพงเพชร
“มนัส” ฝืนเจ็บ-วิ่งถึงจุดหมาย
ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ที่นายมนัส บุญจำนงค์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก 2004 และเหรียญเงินโอลิมปิกในปี 2008 ใช้เป็นสถานที่นอนพักค้างคืนระหว่างวิ่งไปกราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่กรุงเทพฯ ช่วงแรกนายมนัส ได้เดินสลับกับวิ่งออกจากที่พัก เนื่องจากมีอาการเจ็บข้อเท้า โดยนายมนัสกล่าวว่า ตั้งใจจะวิ่งให้ถึงพระบรมมหาราชวังในวันนี้เลย จากที่เคยตั้งไว้ว่าจะถึงวันที่ 27 ต.ค. แม้จะยังมีอาการบาดเจ็บ แต่ก็ยังวิ่งได้ไม่ได้เจ็บแบบทรมาน มันเจ็บแต่ใจยังสู้ได้
พระและฆราวาสเดินสู่ กทม.
เย็นวันเดียวกันพระสุริยา เด่นดวง อายุ 31 ปี พระลูกวัดจากตรอกนองล่าง อ.ขลุง จ.จันทบุรีที่เดินเท้าออกจากวัดมาตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา จะไปสนามหลวงเพื่อไปสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พอเดินทางมาถึงพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทราได้พบกับนายโชติ มหาพันธ์ อายุ 45 ปีกับ ด.ช.เสกสรร อายุ 13 ปี สองพ่อลูกที่เดินเท้าจากพัทยา จ.ชลบุรี ตั้งแต่ตี 2 เพื่อจะไปสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เช่นเดียวกัน ขณะนั่งพักทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันจนทราบว่ามีจุดมุ่งหมายเดียวกันจึงเดินทางร่วมกันไปโดยมีชาวบ้านและหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราเข้ามาดูแล
แห่แลกเหรียญมงคลที่ระลึก
ที่สำนักบริหารเงินตรา รังสิต โรงกษาปณ์ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ประชาชนจำนวนมากเดินทางมารับบัตรคิวเข้าแถวรอแลกซื้อเหรียญที่ระลึก ชุดเหรียญมงคล 5 เหรียญกษาปณ์ ชุดราคา 100 บาท (ราคาเหรียญละ 20 บาท) และจำกัดการซื้อได้ไม่เกิน 2 ชุดต่อคนเป็นแบบเหรียญธรรมดา จากการสอบถามทราบว่าบางคนมารอรับบัตรคิวตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมาโดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด สำหรับเหรียญลอตนี้เป็นเหรียญลอตสุดท้ายที่เหลืออยู่หมดแล้วหมดเลยไม่มีจำหน่ายอีกเลยทำให้ประชาชนให้ความสนใจมาก
แบงก์ออมสินเปิดแลกรอบ 2
ขณะที่ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ ถนนพหลโยธิน มีประชาชนเข้าแลกธนบัตรที่ระลึก เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ซึ่งเป็นธนบัตรที่ระลึกชนิดราคา 100 บาท แลกพร้อมแผ่นบรรจุในราคาฉบับละ 200 บาท รอบที่ 2 ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย จำนวน 370,000 ฉบับ มีประชาชนต่อคิวเป็นจำนวนมาก นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผอ.ธนาคารออมสิน เผยว่า ธนบัตรที่ระลึกจะมีการแจกจ่ายไปยังสาขาต่างๆของธนาคารออมสินทั่วประเทศจำนวน 3 แสนฉบับ และอีก 70,000 ฉบับ เปิดให้แลกที่สำนักงานใหญ่ธนาคารออมสิน กำหนดให้แลกคนละ 5 ฉบับ ก่อนหน้านี้เปิดให้แลกไปแล้วเมื่อวันที่ 18 และ 20 ต.ค.59 จำนวน 70,000 ฉบับ แต่ยังคงมีประชาชนต้องการ ธนาคารจึงเปิดให้แลกอีกครั้ง นอกจากนี้หลายจังหวัดมีประชาชนไปเข้าคิวแลกธนบัตรพิเศษราคา 100 บาทตามธนาคารออมสินสาขาต่างๆ ทั่วประเทศแต่หลายคนต้องผิดหวัง เนื่องจากจำนวนธนบัตรมีไม่เพียงพอ
อดีต ผญบ.สะสมเหรียญด้วยใจ
นายสุนัน หนูน้อย อายุ 61 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ชุมชนตลาดเก่า 100 ปี ปากคลองบางนกแขวก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม อาชีพขายสินค้าขนมและสินค้าพื้นเมือง เปิดเผยว่า ได้สะสมธนบัตรเก่าและเหรียญเก่าของในหลวง ร.9 ไว้จำนวนมาก มีทั้งเหรียญและธนบัตรฉบับละ 1 บาท 10 บาท 20 บาท 50 บาท 100 บาท 500 บาทและ 1000 บาท นอกจากนี้ยังมีธนบัตรที่ระลึกในพิธีต่างๆจำนวนมากเช่นกัน ส่วนใหญ่ใส่กรอบไม้ติดไว้ข้างฝาบ้านอย่างดี นอกจากของในหลวงรัชกาลที่ 9 แล้วยังมีสมัยรัชกาลที่ 5 กับรัชกาลที่ 8 ด้วย “ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวมาขอเข้าชมจำนวนมาก สาเหตุที่เก็บสะสมเนื่องจากมีความศรัทธาต่อในหลวงมาก พระองค์ทรงงานหนักเพื่อประชาชนมีความกินดีอยู่ดี ทุกวันนี้ผมยังนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์มาใช้ในชีวิตประจำวัน ส่วนธนบัตรและเหรียญตั้งใจจะเก็บรักษาไว้ให้รุ่นลูกหลานได้ศึกษาหาความรู้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลต่อไป” นายสุนันกล่าว
ช่วยชาวไทยภูเขาพ้นภัยสู้รบ
นายแคะเว่น ศรีสมบัติ อดีต ผอ.โรงเรียนบ้านใหม่ปางค่า ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา ในฐานะประธานชาวเย้าในประเทศไทยและคณะกรรมการชาวไทยภูเขาในประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นอย่างมากเพราะพระองค์ทรงห่วงใยพสกนิกรทุกคน โดยเฉพาะเมื่อครั้งเกิดสงครามความขัดแย้งทางความคิด (สงครามคอมมิวนิสต์) ปี พ.ศ.2512-2522 ในพื้นที่จังหวัดพะเยา พระองค์ทรงห่วงใยชาวไทยภูเขาเกรงว่าจะถูกปลุกระดมให้หลงผิด และเกิดการสู้รบในพื้นที่ อ.เชียงคำ ทำให้พระองค์ทรงห่วงใยเป็นอย่างมากทรงจัดหาหมู่บ้านให้กับพี่น้องชาวม้งและชาวเย้าอยู่อย่างปลอดภัยและตั้งชื่อหมู่บ้านว่าบ้านใหม่ร่มเย็น ภายหลังพระองค์ได้เสด็จฯมาที่บ้านใหม่ร่มเย็นทำให้ชาวเขาได้รับกำลังใจเป็นอย่างดีและมีกำลังใจสู้ชีวิตจนถึงทุกวันนี้
อดีตหมอปลื้มรับสั่ง “ฉันไว้ใจเธอ”
ขณะที่ นพ.บุญยงค์ วงศ์รักมิตร อายุ 83 ปี อดีต ผอ.รพ.น่านเปิดเผยว่า เมื่อปี 2510 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราช ดำเนินมาเยี่ยมทหารที่กองทัพภาคที่ 3 ระหว่างนั้นพระองค์ทราบว่ามีทหารถูกยิงบาดเจ็บสาหัสนำตัวออกจากแนวหน้าไม่ได้ พระองค์เลยเสด็จขึ้นเฮลิคอปเตอร์เสด็จนำทหารที่บาดเจ็บออกมารักษาที่ รพ.น่านทราบชื่อพลทหารบิน มาลิกา ถูกยิงสาหัส ต่อมาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมพลทหารบิน มาลิกา และก่อนเสด็จฯกลับได้ให้สมุหราชองครักษ์คือ พล.ร.อ.ม.จ.กาฬวรรณดิศ ดิศกุล นำหนังสือจากสำนักงานสมุหราชองครักษ์ แจ้งว่าในหลวงทรงพอพระราชหฤทัยกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ รพ.น่าน และมีพระประสงค์ที่จะสนับสนุนเครื่องมือแพทย์และความต้องการอื่น กระทั่งพระราชทานเครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ เครื่องดูดเลือดและน้ำจากปอด เครื่องรมยาสลบ เครื่อง ปรับอากาศและเงินพร้อมตรัสกับตนว่า “เงินที่ขอไปนั้นฉันมอบให้แล้ว ขอให้หมอดำเนินการก่อสร้างเองนะไม่ต้องผ่านราชการ ฉันไว้ใจเธอ” นพ.บุญยงค์กล่าว
คนไทยในยูเออีร่วมใจลงนาม
ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ร.ท.โกเมศ กมลนาวิน เอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ได้จัดให้ชาวไทย ทูตานุทูตและชาวต่างประเทศร่วมลงนามแสดงความอาลัยที่สถานทูต โดยมีชาวไทยและทูตานุทูตไปร่วมลงนามกันอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย นอกจากนี้ ทางสถานเอกอัครราชทูตยังได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลสัตตมวาร ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยนิมนต์พระมหาวุฒิ สุวุฒิโก ประธานศูนย์ปฏิบัติธรรมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นพระประธานในงานพิธี นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมพิธียังประกอบไปด้วย นายอรรณพ บุราณเศรษฐ กงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ และข้าราชการทีมประเทศไทย รวมถึงประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมพิธีกว่า 200 คน พร้อมกันนี้ได้จัดพิธีจุดเทียนแสดงความอาลัย มีการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และแปรอักษรเป็นเลข ๙ ด้วย ท่ามกลางความอาลัยของผู้ที่ไปร่วมพิธี
ไจก้าร่วมแสดงความเสียใจ
วันเดียวกัน นายมัตซูชิมะ มาซาอากิ ผู้อำนวยการทั่วไปขององค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (ไจก้า) เผยที่ศูนย์ระหว่างประเทศ ฮอกไกโด ในเมืองซัปโปโรของญี่ปุ่น รวมถึงนายมาซากิ มิยาจิ นายกเทศมนตรีเมืองโทเบตสึ จ.ฮอกไกโด ต่างแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชว่า เราต่างรู้ว่าปวงชนชาวไทยกำลังอยู่ในห้วงของ ความโศกเศร้า ประเทศญี่ปุ่นเองก็มีความผูกพันที่ดีกับประเทศไทยมาช้านาน ทั้งนี้ นายมาซาอากิยังเผยว่า โครงการพัฒนาต่างๆที่ร่วมมือกับรัฐบาลไทยเป็นส่วนหนึ่งหรือสัมพันธ์กับโครงการในพระราชดำริของในหลวง ซึ่งพระองค์ทรงตั้งพระราชหฤทัยมุ่งมั่นให้พสกนิกรชาวไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักของไจก้า ซึ่งต้องการร่วมมือเพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน