เผยในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนิน จ.พะเยาถึง 16 ครั้ง ทั้งก่อนและหลังแยกออกจากเชียงราย เป็นจังหวัดที่ 72 ของไทย โดยเฉพาะในห้วงสงครามขัดแย้งทางความคิดหรือคอมมิวนิสต์ ทรงปลูกต้นขนุนในหมู่บ้านชาวเขา ยังยืนต้นให้เก็บกินจนทุกวันนี้...
เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมที จ.พะเยา เป็นอำเภอพะเยา ขึ้นกับ จ.เชียงราย ต่อมา เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2520 อำเภอพะเยาได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัดพะเยาลำดับที่ 72 ของประเทศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชดำเนินจังหวัดพะเยา รวม 16 ครั้งด้วยกัน
ครั้งแรก เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2501 ได้เสด็จพระราชดำเนินยัง อ.เมืองพะเยา จ.เชียงราย โดยเสด็จฯ มายังโรงเรียนพะเยาพิทยาคม สถานีประมงกว๊านพะเยาและเสด็จฯ ไปนมัสการพระเจ้าตนหลวง
ครั้งที่ 2 วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2513 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมค่ายเชียงคำ และบ้านใหม่ร่มเย็น อำเภอเชียงคำ
ครั้งที่ 3 วันที่ 16 มิถุนายน 2513 เสด็จพระราชดำเนินยังอำเภอเชียงคำ นายอำเภอเชียงคำ ผู้บังคับกองตำรวจภูธร และนายแพทย์ผู้อำนวยการสถานีอนามัยอำเภอเชียงคำ เฝ้าฯ รับเสด็จ
...
ครั้งที่ 4 วันที่ 25 ธันวาคม 2515 ทรงเยี่ยมเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจที่ปฏิบัติราชการปราบปรามผู้ก่อการร้าย และเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง กับทรงเยี่ยมราษฎรและชาวเขาที่บ้านน้ำมิน อ.เชียงคำ เสด็จฯไปยังฐานปฏิบัติการหมวดปืนเล็กของทหารราบที่ 1 และเสด็จฯ ไปยังโรงพยาบาลเชียงคำ ทรงเยี่ยมเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง และผู้ใหญ่บ้านที่บาดเจ็บ
ครั้งที่ 5 วันที่ 12 มกราคม 2516 เสด็จพระราชดำเนินหมู่บ้านใหม่ร่มเย็น หมู่ 7 ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ ทรงรับถวายรายงานสรุปผลการพัฒนาหมู่บ้าน พระราชทานสิ่งของแก่ครู ตำรวจตระเวนชายแดน และราษฎร พร้อมทั้งทรงเยี่ยม ตรวจงานพัฒนาหมู่บ้านตามแนวทางที่ทรงพระราชทานไว้ให้ และมีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรอย่างใกล้ชิด ในโอกาสเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในทุกหมู่บ้านครั้งนี้โปรดเกล้าฯ ให้แพทย์หลวงทำการตรวจรักษาโรค และแจกยาแก่ผู้เจ็บป่วยโดยทั่วถึง
ครั้งที่ 6 วันที่ 30 พฤศจิกายน 2516 เสด็จพระราชดำเนิน ถึงสนามบินเชียงคำ อำเภอเชียงคำ แล้วเสด็จฯ ไปยังหน่วยรบเฉพาะกิจ กองพันทหารราบ กองพลทหารราบที่ 9 บ้านน้ำล้อม กิ่งอำเภอเชียงม่วน จังหวัดเชียงราย
ครั้งที่ 7 วันที่ 14 มกราคม 2517 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร ณ บ้านใหม่ร่มเย็น อำเภอเชียงคำ พระราชทานสิ่งของแก่ครู และตำรวจตระเวนชายแดน และผู้ใหญ่บ้านบ้านคุ้ม เพื่อนำไปแจกแก่คนยากจน
ครั้งที่ 8 วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2519 เสด็จพระราชดำเนิน บ้านใหม่ร่มเย็น อำเภอเชียงคำ
ครั้งที่ 10 วันที่ 6 มีนาคม 2519 เสด็จพระราชดำเนินถึงบ้านใหม่ร่มเย็น ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ ทรงพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนบ้านใหม่ร่มเย็น (โชติคุณเกษม 1) ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จพระราชดำเนิน ไปยังกองบัญชาการหน่วยรบเฉพาะกิจ กองพลที่ 4 ตำบลหย่วน อำเภอเชียงคำ และทรงเยี่ยมราษฎรและลูกเสือชาวบ้านจังหวัดเชียงรายที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเป็นจำนวนมาก
ครั้งที่ 11 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2520 เสด็จพระราชดำเนินถึงบ้านใหม่ร่มเย็น ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดเชียงราย เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนบ้านใหม่ร่มเย็น (โชติคุณเกษม 1) ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ครั้งที่ 12 วันที่ 15 มกราคม 2522 เสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงเยี่ยมราษฎรบ้านร่องส้าน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา
ครั้งที่ 13 วันที่ 28 มกราคม 2522 ทรงประกอบพิธียกช่อฟ้า ทรงตัดลูกนิมิตอุโบสถ และทรงยกฉัตรพระเจดีย์ ณ วัดรัตนวราราม (วัดป่า) อำเภอเมืองพะเยา ตลอดจนทรงเยี่ยมราษฎรจังหวัดพะเยา
ครั้งที่ 14 วันที่ 15 มกราคม 2524 เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการชลประทานฝายร่องช้าง และทรงเยี่ยมราษฎร อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา
ครั้งที่ 15 วันที่ 31 มกราคม 2525 เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอนุสรณ์ผู้เสียสละ พลเรือน ตำรวจ ทหาร 2324 ณ กองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร 31 อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา
ครั้งที่ 16 วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2525 เสด็จพระราชดำเนินบ้านต๊ำพระแล ตำบลบ้านต๊ำ อำเภอเมืองพะเยา ทรงพระดำเนินไปยังฝายทดน้ำแม่ต๊ำ ทรงปล่อยปลานิล ปลาไน ปลาลิ่น และกุ้งก้ามกราม จำนวนรวม 76,000 ตัว ลงในฝายทดน้ำ ทรงตรวจเยี่ยมโครงการอ่างเก็บน้ำ จากนั้น ทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ บริเวณสนามหน้าโรงเรียนบ้านต๊ำพระแล
...
นายวราดิศร อ่อนนุช นายอำเภอภูซาง จ.พะเยา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลพระราชกรณียกิจ พบว่าครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินเปิดกองร้อยชาวเขาอาสาสมัครที่ 11 อ.เชียงคำ ซึ่งอยู่ในห้วงสงครามขัดแย้งทางความคิดหรือคอมมิวนิสต์ในยุคกว่า 40 ปี ก่อน พระองค์ได้ทรงปลูกต้นขนุนเพื่อให้พสกนิกรเก็บกินผลในชีวิตประจำวัน
ปัจจุบัน ต้นขนุนที่พระองค์ท่านทรงปลูกเมื่อเกือบ 50 ปี ก่อน ยังยืนต้นแผ่กิ่งก้านสาขาให้พสกนิกรได้เก็บกิน เป็นขนุนพันธุ์ดีเนื้อนุ่มรสอร่อย ต้นขนุนอยู่ในบริเวณศูนย์การเรียนรู้ อ่างเก็บน้ำห้วยไฟ อ.ภูซาง สร้างความปลาบปลื้มแก่พสกนิกรมาจนบัดนี้.