ยึดเป็นแนวทางแห่งชีวิต!! "ลุงสมาน ทัดเที่ยง" เกษตรกร ผู้มีแรงบันดาลใจ จนเป็นผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ 105 ได้ปีละ 2 ครั้ง คนแรกของประเทศไทย เผยซาบซึ้งใจ "ในหลวง ร.9 " ทรงตรัสฝากช่วยชาวนายากจน มีโอกาสจงช่วยให้ความเป็นธรรมกับเขา...
เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนายสมาน ทัดเที่ยง อายุ 70 ปี เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ชาวบ้านสันนาเม็ง บ้านเลขที่ 13 หมู่ 4 ต.สันเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ที่ประสบความสำเร็จสามารถปลูกข้าวหอมมะลิ 105 ได้ปีละ 2 ครั้ง คนแรกของประเทศไทย เพราะนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาใช้และยังฝังใจกับพระบรมราโชวาท เมื่อได้มีโอกาสเข้าเฝ้า เมื่อปี พ.ศ 2529 ขณะที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมายัง จ.เชียงใหม่ ที่สนามบินเชียงใหม่ พระองค์ได้ตรัสไว้ตอนหนึ่งว่า "ยังมีชาวไร่ชาวนาที่ยากจนอีกมาก มีโอกาสจงช่วยเขา"
นอกจากนี้นายสมาน ยังเป็นผู้ริเริ่มแนวคิดในการเชื่อมอุโมงค์เพื่อระบายน้ำจากเขื่อนงัดสมบูรณ์ชล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มายังเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และป้องกันน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ จนทางรัฐบาลเห็นด้วยจึงได้อนุมัติงบประมาณการสร้างสร้างอุโมงค์ผันน้ำ 2 เขื่อน ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้างจะเสร็จในปี 2564
...
นายสมาน ได้เล่าความประทับใจที่มีต่อพ่อหลวงของแผ่นดิน ว่า ในตอนเล็กๆตนได้ติดตามพ่อตน ชื่อนายแสวง ทัดเที่ยง เกษตรกรปลูกสวนผัก เป็นคนแรกที่นำพืชผลเมืองหนาวมาปลูกที่เชียงใหม่ และพ่อตนมีโอกาสได้นำผักไปถวายงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ทุกๆวันศุกร์ ครั้งละ 2 ชะลอม ตนเองได้พบพระองค์ท่านหลายครั้งทั้งบนพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ โดยพระองค์ท่านจะตรัสถามเรื่องเกษตรตลอด
ส่วนที่ต้องจดจำตลอดชีวิตตนได้เข้าเฝ้าที่สนามบินเชียงใหม่ เมื่อปี 2529 นานร่วม 30 นาที โดยตนได้นำชาวนาผู้ปลูกข้าวบาสมาติเข้าเฝ้าฯ พระองค์ยังได้ตรัสถามถึงเรื่องเกี่ยวกับเกษตรและการช่วยเหลือชาวไร่ชาวนา และยังพูดถึงข้าวบาสมาติ กับข้าวไทยซึ่งในช่วงนั้นข้าวไทยราคาตก พระองค์ท่านทรงรับฟังด้วยความสนพระทัย และก่อนเสด็จกลับพระองค์ท่านได้ตรัสฝากไว้ว่า "ยังมีชาวไร่ชาวนาที่ยากจนอีกมาก มีโอกาสจงช่วยเขาให้ความเป็นธรรมกับเขา" ซึ่งตนถือเป็นพระบรมราโชวาท ที่จะต้องปฎิบัติเพื่อพระองค์ พระองค์รักชาวไร่ชาวนา รักเกษตรกรมาก ตนในฐานะตัวแทนเกษตรกรรับมาใส่เกล้าใส่กระหม่อมจนทุกวันนี้ ตนทำไร่ทำสวนตามแนวพระราชดำริพอเพียงของพระองค์ท่านอย่างไม่หยุด และคอยช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้ความรู้และหาแหล่งน้ำมาให้
"ข้าวหอมมะลิ 105 ปลูกปีละ 2 ครั้งได้เพราะพระองค์ท่าน ผมต้องช่วยเหลือแนะนำชาวไร่ชาวนาในเรื่องเกษตรกรรม และในการปลูกข้าวหอมมะลิ 105 ให้เพียงพอต่อการบริโภคและส่งออก จนประสบความสำเร็จ ถือว่าผมได้นำแนวทางพระดำริของพระองค์มาเป็นแนวทางจนทำอะไรสำเร็จหมด พระองค์ท่านได้สู่สวรรคาลัย ถึงแม้ผมจะตกอยู่ในห้วงเศร้าโศกที่สุดของชีวิต แต่ก็ไม่ย่อท้อ สิ่งที่พระองค์ท่านทำไว้ให้กับบ้านเมืองจำนวนมหาศาล ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนยึดสิ่งที่ท่านทำไว้ให้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตไปตลอด" นายสมานกล่าว.