“ประยุทธ์” ตรวจเยี่ยมกองอำนวยการร่วมฯ พอใจผลงานบูรณาการอำนวยความสะดวกประชาชนที่มาแสดงความอาลัยในหลวง ชวนคนไทยช่วยกันดูแลรักษาบ้านเมือง “ปนัดดา” เผยชาวบ้านครวญแม้ได้ร่วมพิธีในแต่ละจังหวัดแล้ว แต่รู้สึกห่างไกลพระองค์ จึงเข้ากรุงกราบถวายบังคมหน้าพระบรมมหาราชวัง รัฐบาลสั่งหน่วยงานรัฐแจงสื่อต่างประเทศตีข่าวไม่ตรงความจริง ไทยไม่มีพระมหากษัตริย์ “ไก่อู” เตือนคนเห็นต่างเก็บไว้ในใจ อย่าแสดงออกขัดแย้งสังคมส่วนใหญ่ กระทรวงดิจิทัลฯเพิ่มดีกรีตรวจเข้มเว็บหมิ่นสถาบันฯมอนิเตอร์ 24 ชม. “วิษณุ” ชี้มีวันหยุดราชการเข้าข่ายต้องเปลี่ยนแปลง 3-4 วัน ภาครัฐ-เอกชนทำปฏิทิน-ไดอารี่ปี 60 ให้รอมติ ครม.ก่อน คณะองคมนตรีเลือก “ธานินทร์” ทำหน้าที่ประธานองคมนตรีชั่วคราว

หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่าเรื่องการสืบราชสันตติวงศ์จะมีความชัดเจนหลังจากพ้นพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล 15 วันไประยะหนึ่ง ขณะเดียวกันนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับต่างประเทศว่า การนำเสนอข่าวว่าประเทศไทยไม่มีพระมหากษัตริย์นั้น ไม่เป็นความจริง

...

นายกฯตรวจสถานการณ์สนามหลวง

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 ต.ค. ที่กองอำนวยการร่วมกรุงเทพมหานคร บริเวณท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เดินทางไปรับฟังรายงานสรุปและติดตามสถานการณ์ในภาพรวม และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมประชุม โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ย้ำในที่ประชุมให้การดูแลประชาชนอย่างเต็มที่โดยเฉพาะ เด็ก คนชรา และผู้พิการ รวมทั้งปัญหาคนหาย ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานบูรณาการร่วมกัน พยายามดูแลข้อร้องเรียนต่างๆ เพราะประเทศไทยมีปัญหาหลากหลาย ทั้งการศึกษา ความไม่เท่าเทียม และเรื่องของรายได้ที่ประเทศไทยมีผู้มีรายได้น้อยจำนวนมาก แต่ขณะเดียวกันคนไทยก็มุ่งแต่อยากได้เสรีภาพ ดังนั้นต้องจัดระเบียบ ดูแลความเดือดร้อนและทุกข์สุขประชาชน ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนช่วยกันอย่างเต็มที่

ภายหลังเสร็จจากร่วมการประชุม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดี มีการประสานงานเป็นที่น่าพอใจ และขอบคุณเจ้าหน้าที่และประชาชนทุกคน

ชวนคนไทยช่วยกันรักษาบ้านเมือง

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินเยี่ยมชมตามจุดต่างๆ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน อาทิ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กองประชาสัมพันธ์และกองอำนวยการของกองทัพบก โดยนายกฯเดินไปจนถึงบริเวณหน้าวัดมหาธาตุ ปรากฏว่ามีประชาชนที่มารอร่วมแสดงความอาลัยได้โผเข้ากอด พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมร้องห่มร้องไห้ บอกว่า “ให้นายกฯสู้ ให้อยู่ทำงานต่อ” พล.อ.ประยุทธ์เลยต้องกล่าวปลอบใจว่า “ให้ช่วยกันดูแลรักษาบ้านเมือง ผมอยู่อีกปีหนึ่ง”

ด้าน พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า การติดตามสถานการณ์ภาพรวมทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกจุด เป็นที่น่าพอใจ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน ทั้งการทำงานเราให้ดูแลประชาชนเป็นหลักขณะที่ได้เน้นท้องถิ่น หากประชาชนจะเดินทางเข้ามายังกรุงเทพมหานคร หรือต้องการดำเนินการใดๆ ให้ประสานงานมายังกองอำนวยการร่วมเพื่อทำงานเป็น เอกภาพและการบริหารจัดการได้ง่าย

คน ตจว.รู้สึกห่างไกลเข้ากรุงกราบพ่อ

ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงแนวพระราชดำริที่ข้าราชการต้องน้อมนำปฏิบัติคือเรื่องความรักสมัครสมานสามัคคี อันเป็นที่มาของพระบรมราโชวาทในเรื่องความรู้รักสามัคคี เพื่อดำรงความเป็นปึกแผ่นของแผ่นดิน ความเป็นประเทศไทยใต้ร่มพระบารมี ข้าราชการทุกคนน้อมนำสู่การปฏิบัติมาโดยตลอด และ 7 วันที่ผ่านมา ประชาชนทั่วประเทศต่างบอกว่า แม้ได้ร่วมพิธีที่จัดขึ้นในแต่ละจังหวัดแล้ว แต่ยังรู้สึกว่าห่างไกลพระองค์ท่าน จึงตัดสินใจเข้ามาใน กทม. เพื่อจะมา กราบถวายบังคมบริเวณด้านหน้าพระบรมมหาราชวัง คนไทยมีความทุกข์โศก แต่คนไทยยังมีความรักกัน เพราะมีพระองค์ท่านเป็นจุดศูนย์รวมดวงใจทุกคนต้องให้กำลังใจแก่กัน เป็นที่ปรึกษาหารือ เพื่อที่จะดำรงชีวิตและประเทศต่อไปให้ได้ ส่วนการดำเนินงานเกี่ยวกับงานราชพิธี สำนักงานปลัดสำนักนายกฯได้เตรียมทุกอย่างไว้ด้วยความเรียบร้อยและเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการชุดต่างๆในการถวายพระเกียรติยศ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ไว้พร้อมสรรพแล้ว

สนช.พร้อมเดินขั้นตอนสืบราชสันตติวงศ์

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงเรื่องการสืบราชสันตติวงศ์ สนช.กับรัฐบาลได้ประสานกันมาตลอด ขึ้นอยู่กับรัฐบาล เพราะตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 23 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน จะต้องมีกระบวนการที่ต้องให้ ครม. แจ้งให้ สนช.ทราบถึงการที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงตั้งพระรัชทายาทเอาไว้ จะต้องดำเนินการอย่างเป็นทางการด้วยมติ ครม. ถ้าทาง ครม.มีมติมาเมื่อใด สนช.จะต้องประชุมโดยด่วน ซึ่งได้เตรียมพร้อมตลอดทุกวัน อย่าลืมว่าสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พูดถึงนั้นโยงไปถึงพระราชบัณฑูรของสมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารด้วย ดังนั้น จะต้องมีความสัมพันธ์กัน

...

รบ.สั่งแจง ตปท.ไทยยังมีกษัตริย์

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ผู้อำนวยใหญ่บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีว่า หารือแนวทางประชาสัมพันธ์หรือให้ข่าวตามข้อสั่งการนายกฯ 10 ข้อ โดยเฉพาะสื่อต่างประเทศที่ไม่เข้าใจขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ทำให้รายงานข่าวไม่ตรงกับความเป็นจริง กระทรวงการต่างประเทศต้องทำความเข้าใจ อย่างมีการเอาไปเปรียบเทียบกับพระมหากษัตริย์ของเขาเมื่อสวรรคตแล้ว ไม่เกิน 7 วันจะฝังพระบรมศพ แต่ของไทยต้องมีพระราชพิธีถวายพระเพลิง ต้องสร้างพระเมรุ ยังอีกยาวนาน ต้องแจ้งว่าส่วนของไทยมี 3 ขั้นตอน คือ 1. การขึ้นรับราชสมบัติที่จะมีในเร็ววันนี้ 2. การถวายพระเพลิง เกิดขึ้นอีกประมาณ 1 ปี และ 3. การบรมราชาภิเษก จะเกิดขึ้นหลังการถวายพระเพลิงไปอีกระยะหนึ่ง แต่วันนี้ขั้นตอนขึ้นรับราชสมบัติยังไม่เกิดขึ้น เพราะรอเวลาตามพระราชปรารภของสมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งเกิดขึ้นแน่และนายกฯได้แจ้งแล้วว่า ขอเวลาบำเพ็ญพระราชกุศลให้ประชาชนได้ถวายบังคมพระบรมศพระยะหนึ่งก่อน ดังนั้น ที่ต่างประเทศไปออกข่าวว่าประเทศไทยไม่มีพระมหากษัตริย์นั้น ไม่เป็นความจริง

“ธานินทร์” นั่ง ปธ.องคมนตรีชั่วคราว

นายวิษณุเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค. คณะองคมนตรีได้มีการปรึกษาและเลือกนายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรีให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานองคมนตรี เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน เมื่อประธานองคมนตรีคือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ต้องไปปฏิบัติหน้าที่ผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่า ระหว่างที่ประธานองคมนตรีปฏิบัติหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวนั้น ไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ของประธานองคมนตรีด้วย แม้จะยังเป็นประธานองคมนตรีอยู่ก็ตาม และให้คณะองคมนตรีเลือกองคมนตรีขึ้นมาคนหนึ่งมาปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานองคมนตรีเป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน และเมื่อถึงเวลาที่ พล.อ.เปรมได้พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ก็สามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ของประธาน องคมนตรีตามปกติ โดยไม่ต้องมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งใหม่ เมื่อถามว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชสวรรคต คณะองคมนตรีต้องพ้นไปด้วยหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีการบัญญัติไว้แบบนั้น แต่เขียนไว้อีกอย่างว่า การดำรงตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย

...

ปมพระปรมาภิไธยใหม่ไม่ยุ่งยาก

นายวิษณุยังกล่าวถึงกรณีการส่งคำปรารภร่างรัฐธรรมนูญให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ทราบว่าจะมีคำวินิจฉัยในสัปดาห์หน้า รัฐบาลถามไป 2 ข้อ คือ 1.เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นโดยไม่ได้คาดหมายจะสามารถแก้ได้หรือไม่ 2.ใครเป็นคนแก้ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) หรือไม่ เพราะเป็นผู้ร่างมาแต่เดิม หรือให้รัฐบาลแก้เพราะเรื่องมาถึงมือรัฐบาลแล้ว หรือจะเป็นสำนักราชเลขาธิการแก้ไข เพราะกว่าจะปรากฏความชัดเจนว่าจะแก้อย่างไร รัฐบาลคงส่งไปถึงสำนักราชเลขาธิการแล้ว เมื่อผลคำวินิจฉัยออกมาอย่างไรก็จะปฏิบัติตามนั้น ส่วนจะแก้อย่างไรมีวิธีปฏิบัติอยู่แล้ว ไม่ได้ลำบากไม่ว่าจะเป็นการลงนามโดยผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์หรือสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ก็ตาม เพราะปกติก่อนจะบรมราชาภิเษก พระปรมาภิไธยพระเจ้าอยู่หัวทุกรัชกาลจะไม่เปลี่ยนเท่าไรคือใช้พระนามเดิม พระนามจะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อได้บรมราชาภิเษกแล้ว เช่น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก่อนบรมราชาภิเษกท่านยังทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจุฬาลงกรณ์

ทำปฏิทิน-ไดอารี่รอมติ ครม.ก่อน

นายวิษณุกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีต้องจัดทำปฏิทินและไดอารี่ปี 60 ล่วงหน้าของหน่วยงานรัฐและเอกชน ต้องขออภัย และรัฐบาลเห็นใจ แต่การกำหนดวันหยุดยังต้องรอเวลาอีกสักระยะหนึ่ง เพราะจะมีวันหยุดที่อยู่ในข่ายเปลี่ยนแปลงอยู่ 3-4 วัน แต่ขณะนี้ยังไม่สมควรที่จะบอกกล่าวออกไปก่อน เนื่องจากต้องรอให้เป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการ ครม.จะมากำหนดวันต่างๆ ในช่วงนี้คงลำบาก รวมทั้งข้อปฏิบัติในวันที่ 5 ธันวาคมต้องรอสักระยะหนึ่ง ทั้งนี้ เรื่องวันหยุดไม่จำเป็น ต้องเป็นเรื่องที่ราชสำนักแจ้งลงมาทั้งหมด เพราะบางเรื่องรัฐบาลดำริแล้วกราบบังคมทูลขึ้นไปก็ได้ หรือบางเรื่องรัฐบาลอาจจะตัดสินใจเองก็ได้ เพราะบางวันเป็นวันหยุดราชการเป็นไปตามมติ ครม.อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าวันที่เคยเป็นวันหยุดราชการในอดีต จะเป็นวันหยุดต่อหรือไม่ วันนี้ขอให้ตั้งหลักให้ได้ก่อน

...

“ธานินทร์” ทำหน้าที่แทน “ป๋า” ตาม ก.ม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ต.ค. เว็บไซต์กรมประชาสัมพันธ์ ได้เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราว โดยนายสัญญา สุเรนทรานนท์ เลขาธิการองคมนตรี มีหนังสือสำนักราชเลขาธิการทำเนียบองคมนตรี ที่ รล.006.2/25182 ลงวันที่ 14 ต.ค.2559 แจ้งมายังสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน และไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ประธานองคมนตรีได้ คณะองคมนตรีจึงเลือกนายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี ให้ทำหน้าที่ประธานองคมนตรีเป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน โดย พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกฯ ในฐานะรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า กรณีเว็บไซต์กรมประชาสัมพันธ์เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งนายธานินทร์ แทน พล.อ.เปรม เป็นไปตามกฎหมาย และการที่กรมประชาสัมพันธ์ได้เผยแพร่ข้อความดังกล่าวอย่างเป็นทางการ เนื่องจากสำนักปลัดสำนักนายกฯได้แจ้งให้เผยแพร่

“จรุงจิตต์” เป็นเลขานุการฯพระราชินี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ให้ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ตำแหน่งรองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ให้ดำรงตำแหน่งราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จ พระบรมราชินีนาถ สำนักราชเลขาธิการ ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค. โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

เตือนผู้เห็นต่างไว้ในใจอย่าแสดงออก

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการเผยแพร่คลิปการทำร้ายร่างกายผู้โพสต์ข้อความไม่เหมาะสม ในช่วงที่คนไทยกำลังโศกเศร้ากับการสวรรคต ของในหลวงว่า เราอยู่ในช่วงการรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ แต่มีบุคคลบางส่วนอาจแสดงกิริยาที่ทำร้ายหัวใจคนไทย สร้างความไม่พอใจจนมีการทำร้าย เป็นภาพที่ไม่งดงาม โดยเฉพาะเมื่อเผยแพร่ไปถึงต่างประเทศ นายกฯรู้สึกไม่สบายใจ จึงขอฝากว่าไม่ว่าใครจะรู้สึก อย่างไร ถือเป็นความรู้สึกส่วนตัว เก็บเอาไว้ในใจ อย่าไปแสดงออกโดยขัดความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เพราะเป็นการทำร้ายหัวใจของคนไทย สิ่งที่จะได้รับกลับคืนอาจมีลักษณะการทำร้ายร่างกาย ใครคิดต่างจากคนอื่นอยู่ในใจไม่เป็นไร แต่อย่าแสดงออกมา หากใครพบเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายเหล่านั้น ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ดำเนินการตามกฎหมาย จะทำให้ดูเป็นประเทศที่มีอารยะ ขอความกรุณาประชาชนที่พบเห็นภาพ เหล่านี้อย่าส่งต่อ เพราะจะทำให้ภาพเหล่านี้แพร่กระจายออกไปไม่ใช่สิ่งที่ดี นายกฯไม่อยากให้ภาพคนไทยทำร้ายกันออกไป ขอร้องวิงวอนทุกฝ่ายอย่าพยายามสร้างความขัดแย้งในเวลานี้ อย่าดึงพระองค์ท่านเข้ามาในความขัดแย้งเด็ดขาด เพราะเวลานี้เป็นเวลาที่เราต้องรวมใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันให้มากที่สุด ประเทศเราต้องการความมั่นคง พลังความศรัทธา ความรักของประชาชนทุกคนที่จะทำให้เดินต่อไปข้างหน้าได้

ขอ ปชช.ฟังข่าวจากรัฐ อย่าเชื่อโซเชียล

พล.ท.สรรเสริญยังกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวกองพันทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ แจ้งจุดเสี่ยง 10-15 จุดว่า ตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง ไม่มีหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ไหนแจ้งจุดเสี่ยงต่างๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย ยืนยันว่าไม่มีแน่นอน ช่วงเวลานี้เป็นช่วงอ่อนไหว รัฐบาลต้องตั้งศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ดูแลรับผิดชอบทุกเรื่อง ทั้งการบริหารราชการและงานด้านความมั่นคง ขอวิงวอนทุกฝ่ายข้อมูลที่แพร่ออกไปทางโซเชียลมีเดีย ไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นความจริง หากมีการส่งต่อออกไป ยิ่งจะทำให้ประชาชนตื่นเต้นตกใจ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงปฏิบัติตามหน้าที่ตามปกติทุกจุด การส่งต่อข้อมูลว่าจุดนั้นจุดนี้มีความเสี่ยงจะทำให้ประชาชนไม่กล้าออกมาเดินถนน เศรษฐกิจจะหยุดไปหมด เป็นความประสงค์ของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ขอให้ติดตามข่าวสารจากภาครัฐเป็นหลัก

ปรับคืนความสุขเป็นศาสตร์พระราชา

พล.ท.สรรเสริญกล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. สั่งการให้ปรับรูปแบบรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ที่ออกอากาศทุกคืนวันศุกร์ มาเป็นรายการ “ศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติอย่างยั่งยืน” นายกฯจะพูดถึงการดำเนินงานของรัฐบาลที่เชื่อมโยงกับพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การบริหารประเทศของรัฐบาลจะทำภายใต้หลักการมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน นำหลักการที่พระราชทานเอาไว้ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงและเรื่องอื่นๆมาให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลได้นำมาปฏิบัติตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่ที่ 21 ต.ค. โดยออกอากาศหลังงานพระราชพิธี

ผบ.ทบ.ห่วงอย่ากดดันสร้างรอยด่าง

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการ คสช. กล่าวว่า ไม่เป็นห่วงมิจฉาชีพจะแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุช่วงนี้ คงไม่มีใครใช้สถานการณ์แบบนี้ซ้ำเติมคนไทยด้วยกันเอง แต่สิ่งที่ห่วงมากที่สุดคือปัญหาการจราจร ได้มอบหมายให้ กกล.รส.กองทัพภาคที่ 1 ตั้งกองอำนวยการร่วมที่สนามหลวงประสานงานกับตำรวจจัดระเบียบการจราจร เพราะประชาชน จิตอาสาแจกสิ่งของเข้ามาเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดปัญหาการบริหารจัดการ ส่วนมาตรการทางสังคมกดดันคนที่แต่งกายและแสดงออกยอมรับว่าเป็นห่วง นายกฯพูดไปแล้วว่าทุกคนมีความจงรักภักดี รักความอาลัย แต่สภาพทุกคนอาจไม่เท่ากัน ขอให้ทุกคนเข้าใจซึ่งกันและกัน ขออย่าไปทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพราะประเทศ ชาติต้องการความสงบเรียบร้อย ไม่อยากให้จุดเล็กๆ เพียงจุดเดียวสร้างปมด่างให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ กกล.รส.อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ให้สะดวกสบายมากที่สุด ทุกคนต้องช่วยกัน กองอำนวยการร่วมเป็นจุดประสานงาน

คสช.ให้ระวังภัยมิจฉาชีพ

พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช.กล่าวถึงการเดินทางมาแสดงความอาลัยต่อพระบรมศพของประชาชนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ยังคงให้ความห่วงใยต่อการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนทุกคนที่จะเดินทางมาเข้ากราบสักการะพระบรมศพในพระบรมมหาราชวัง โดยมอบหมายให้ทุกกระทรวงทบวงกรมสนับสนุน เจ้าหน้าที่ ยานพาหนะ สิ่งอุปกรณ์ต่างๆเต็มกำลังความสามารถ และได้สั่งการผ่าน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการ คสช. มอบหมายให้กองทัพภาคที่ 1 ได้ปฏิบัติตามคำสั่งและนโยบายของหัวหน้า คสช. โดยได้จัดตั้งกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย (กอร.รส.) โดยรอบพระมหาราชวัง เพื่อประสานงานและอำนวยความสะดวกกับทุกภาคส่วนทั้งภาคราชการและเอกชน โดยตั้งที่ถนนสายกลาง สนามหลวง หมายเลขติดต่อ 0-2226-6801-3 ส่วนการแจกเสื้อดำของรัฐบาลจากกระทรวงการคลัง 8 ล้านตัวนั้น จะแจกผู้มีรายได้น้อย ที่ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยไว้แล้ว นอกจากนี้กิจกรรมการสวดมนต์เฉลิมพระเกียรติ ได้ปรับเปลี่ยนเป็นกิจกรรมสวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล ส่วนสื่อมวลชนร่วมในการประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชนอย่างกว้างขวาง เพื่อให้ประชาชนเกิดความสะดวกและปลอดภัยทั้งไปและกลับ ขอให้ระมัดระวังมิจฉาชีพที่อาจปะปนเข้ามาและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ผู้มาแสดงความ จงรักภักดีในห้วงเวลาสำคัญนี้

ทูตสหรัฐฯ ลงนามร่วมไว้อาลัย

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้การรับรองนายกลิน ที.เดวีส์ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเข้ารับหน้าที่ใหม่ ในโอกาสนี้ยังได้ร่วมลงนามแสดงความไว้อาลัย พร้อมทั้งกล่าวแสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และสมาชิก สนช.และเปิดเผยว่า เอกอัครราชทูตฯ ได้นำสารแสดงความเสียใจของผู้นำสหรัฐฯ และประชาชนของสหรัฐฯ มายังรัฐบาล และประชาชนไทย ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯมีมาอย่างยาวนาน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ผ่านประธานาธิบดีสหรัฐฯมาถึง 12 คน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมรัฐสภาสหรัฐฯด้วย พระองค์เป็นที่ชื่นชอบของประชาชนสหรัฐฯ

หวังสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ยิ่งแน่นแฟ้น

นายวีระศักดิ์กล่าวว่า ในอีก 2 ปีข้างหน้า สหรัฐฯ จะจัดงานความสัมพันธ์ไทยและสหรัฐฯขึ้น โดยจะนำเอกสารสำคัญเกี่ยวกับพระกรณียกิจตั้งแต่รัชกาลที่ 2 จนถึงสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชมาแสดงด้วย “สหรัฐฯยังหวังว่า ความสัมพันธ์ระหว่างกันจะช่วยกันพัฒนาให้แน่นแฟ้นยั่งยืนเหมือนที่ผ่านมา และเชื่อมั่นในอนาคตของไทยว่ามีประชาธิปไตยอย่างยั่งยืนตลอดไป” นายวีระศักดิ์กล่าว

สนช.ตั้งเต็นท์สนามหลวงแจกของ

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช.กล่าวถึงโครงการ สนช.พบประชาชนว่า จากเดิมโครงการ สนช.พบประชาชน ที่มีนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.เป็นประธาน จัดขึ้นทุกเดือนในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 29-30 ต.ค.จะลงพื้นที่พบประชาชนที่ จ.สุโขทัย และพิษณุโลก แต่เนื่องจากประชาชนยังอยู่ในช่วงการแสดงความไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้ปรับวิธีการพบประชาชนในจังหวัดต่างๆไว้ก่อน จะปรับรูปแบบเป็นการตั้งเต็นท์เป็นศูนย์กลางร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่ท้องสนามหลวง ร่วมแบ่งปันสิ่งต่างๆ เช่น น้ำดื่ม ริบบิ้นดำ ปลอกแขนสีดำ ร่มสีไม่ฉูดฉาด ยากันยุง เสื้อดำ ยาหม่อง แจกประชาชนที่เดินทางมาร่วมแสดงความไว้อาลัย เริ่มวันที่ 21 ต.ค. เวลา 16.00 น. โดยสมาชิก สนช.จะสับเปลี่ยนไปร่วมแจกสิ่งของให้ประชาชน

ก.ท่องเที่ยวเตรียมริบบิ้นดำแจก นทท.

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว ในช่วงที่ประเทศไทยมีงานพระราชพิธีว่าการท่องเที่ยวยังเป็นไปอย่างปกติ แต่ขอความร่วมมืองดความบันเทิงร้องรำทำเพลงต่างๆ อย่างน้อย 30 วัน เช่น เทศกาลฟูลมูนปาร์ตี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เข้าใจสถานการณ์ การแต่งกายเพื่อไว้อาลัยและมั่นใจสถานการณ์ในประเทศของเรา การท่องเที่ยวมีหลาย ด้าน ทั้งสุขภาพ วัฒนธรรม ยังคงต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ แต่เป็นเรื่องธรรมดาที่นักท่องเที่ยวจะลดลง เราไม่กังวลตรงนั้น เพราะเรามุ่งเน้นไปที่การแสดงความอาลัย เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ การร่วมไว้ทุกข์หรือเสียใจแม้จะยังมีอยู่ แต่การดำเนินงานของภาครัฐและเอกชน ยังต้องดำเนินควบคู่กันต่อไป กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดเตรียมริบบิ้นดำไว้ที่สนามบิน ให้นักท่องเที่ยวหยิบไปติดเพื่อแสดงความ อาลัยได้ และวันที่ 21 ต.ค. จะประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือรายละเอียดการจัดงานวันลอยกระทงว่าจะทำได้ในระดับใด แต่คงต้องงดการประกวดนางนพมาศ กรณีมีการโพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่ามาประเทศไทยแล้วไม่ได้เที่ยวนั้น เป็นเพียงจุดเล็กๆ คนที่เขียนไม่รู้ว่าเป็นนักท่องเที่ยวหรือไม่ สังคมโซเชียลเล่นกันไป ถ้าสงสัยขอให้มาถามจากรัฐบาล และกระทรวงการท่องเที่ยวฯจะเป็นผู้ให้ข้อมูล

มอนิเตอร์เว็บหมิ่น 24 ชั่วโมง

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ และรักษาการ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ว่า กระทรวงดีอีได้ดำเนินการป้องกันและปรามปราบเว็บไซต์หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์มาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก จึงขอให้ประชาชนที่พบเห็นเว็บไซต์หมิ่นสถาบันฯ อย่ากดไลค์ กดแชร์ หรือเข้าไปคลิกดู ถือเป็นการกระจายเว็บไซต์ดังกล่าว แต่ขอให้แจ้งเบาะแสมายัง โทร. 1212 หรือเว็บไซต์ www.mict.go.th และขณะนี้มีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน สนธิกำลังปราบปรามเว็บหมิ่นสถาบันฯ และดำเนินการให้ถึงที่สุด ช่วงประชาชนมีความโศกเศร้า ไม่อยากให้ มีสิ่งใดมากระทบจิตใจ กระทรวงดีอีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะมอนิเตอร์เว็บไซต์หมิ่นตลอด 24 ชั่วโมง จะเข้มข้นการตรวจสอบมากยิ่งขึ้น รวมถึงปรับกระบวนการส่งฟ้องศาลเพื่อปิดเว็บไซต์ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น จากเดิมใช้เวลาราว 15 วัน ที่ผ่านมากระทรวงดีอีใช้คำสั่ง คสช.ที่ 26/2557 ปิดเว็บไซต์หมิ่นสถาบันฯ 50-60 เว็บ และเว็บเหล่านี้ยังมีเครือข่ายและเชื่อมโยงกันไปอีก 500-600 เว็บ ได้ทยอยสั่งปิดไปแล้ว 35% ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เพื่อยื่นฟ้องศาลขอคำสั่งปิด ส่วนเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้ประสานงานไปยังประเทศเหล่านั้น เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ได้รับความร่วมมือปิดกั้นเป็นอย่างดี

ธปท.แจงยังไม่ผลิตธนบัตรใหม่

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับธนบัตรที่ใช้หมุนเวียนอยู่ในปัจจุบันและการออกธนบัตรแบบใหม่ ธปท.ขอชี้แจงว่า ขอให้ประชาชนอย่ากังวลเรื่องธนบัตรที่ใช้หมุนเวียนอยู่ในปัจจุบัน เพราะธนบัตรแบบปัจจุบันสามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายโดยไม่มีกำหนด หากเมื่อมีการออกธนบัตรแบบใหม่ในอนาคต ธปท.ขอชี้แจงว่า ธนบัตรที่ใช้อยู่ในปัจจุบันยังมีมูลค่าเช่นเดิม ประชาชนก็ยังใช้ธนบัตรแบบเดิมชำระหนี้ตามกฎหมายร่วมกับธนบัตรแบบใหม่ได้ต่อไปไม่มีกำหนด ส่วนกรณีที่จะมีการออกธนบัตรแบบใหม่ต้องได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตก่อนจะเริ่มกระบวนการผลิต จะมีอีกหลายขั้นตอน เมื่อถึงเวลาที่จะมีธนบัตรแบบใหม่ออกใช้ ธปท.จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบล่วงหน้าโดยทั่วกัน

แนะใช้จิตเวช–ธรรมะคลายโศก

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนอยู่ในภาวะโศกเศร้าเสียใจจากการเสด็จสวรรคตของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สิ่งที่รัฐบาลได้ปฏิบัติขณะนี้ถือว่าดีอยู่แล้ว แต่ยังอยากให้รัฐบาลใช้โอกาสนี้เปลี่ยนความโศกเศร้าของประชาชนให้เป็นพลังทางบวก หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้เนิ่นนานไป หวั่นว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งของคนที่เห็นต่าง อย่าปล่อยให้ประชาชนจมจ่อมอยู่กับความทุกข์โศก จะหาทางออกไม่ได้ คิดแต่จะจับผิดคนที่เห็นต่าง เช่น กรณีไม่ใส่เสื้อสีดำหรือคลิปคนไปทำร้ายคนที่พูดจาไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นคนมีอาการทางจิตไม่ปกติ รัฐบาลควรนำผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชหรือจิตแพทย์ พระสายปฏิบัติ เช่น พระพรหมคุณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน พระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต หรือพระธรรมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดพระราม9 รวมถึงพระภิกษุสงฆ์ที่ปฏิบัติดีหมุนเวียนออกมาให้ความรู้ หรือพูดปลอบประโลม ให้สติเผยแพร่ผ่านสื่อวิทยุและโทรทัศน์ สลับกับรายการที่มีอยู่ ขอให้สังคมไทยมีสติ ยั้งคิด และคิดเสมอว่าพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงอยู่กับเราตลอดไป แต่หากพบเหตุการณ์ไม่เหมาะสม ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่จะดีกว่า

จี้ ศธ.ใส่คำสอน “พ่อ” ในบทเรียน

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการสืบสานตามรอยพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า อยากให้กระทรวงศึกษาธิการนำคำสอนของพระองค์ท่านมาใส่ในบทเรียนทุกวิชาและทุกชั้นเรียน เพื่อจะได้สอนลูกหลาน คนรุ่นต่อไปให้ตามรอยพระราชปณิธาน โดยต้องพิจารณาตามความเหมาะสมของวิชา ไม่ใช่การท่องจำ แต่ให้เป็นการทำความเข้าใจและนำไปปฏิบัติใช้จริงในชีวิตประจำวัน รักพ่อต้องทำตามพ่อสอน แม้เวลาจะผ่าน แต่คำสอนของท่านจะอยู่กับสังคมไทยและความเป็นไทยไม่เสื่อมคลาย จะเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนและปฏิบัติหน้าที่ของประชาชนชาวไทยต่อไป