จนท.ยังคงค้นหาผู้สูญหายเหตุเรือหางยาวล่มในแม่น้ำเมย จ.ตาก เป็นวันที่ 3 ขณะที่ญาติของผู้สูญหายทำพิธีขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขา ขอให้พบศพภรรยาที่ท้อง 9 เดือนและลูกสาว ขณะที่กู้ภัยฯ เผยน้ำเชี่ยว เกาะแก่งเยอะ การค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก
สืบเนื่องจากกรณีเรือหางยาวบรรทุกผู้โดยสารพร้อมคนขับรวม 8 คน เดินทางมาจากบ้านแม่ปอทะ จะไปบ้านแม่ตะวอ เกิดล่มในแม่น้ำเมย บริเวณบ้านปอทะ-บ้านหินเขา ต.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก จนทำให้มีผู้โดยสารที่นั่งมาสูญหาย 4 คน รวมหญิงตั้งครรภ์ 9 เดือน ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ (เจอแล้ว 1 ศพ! เรือหางยาวล่มจุดอาถรรพ์แม่น้ำเมย จ.ตาก เร่งหาอีก)
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 59 เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม ท่าสองยาง ตชด.344 ทหารพรานที่ 3501 กว่า 60 นาย ยังตั้งหน้าตั้งตาออกเรือค้นหาศพที่เหลืออีก 3 ศพ ได้แก่ ด.ญ.น่อเคเค สันติดงสกุล อายุ 9 ขวบ นางแคะจ่า ครองกฎ อายุ 33 ปี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 9 เดือน ด.ญ.ณิชาภัทร ครองกฎ อายุ 8 ขวบ
...
ด้านนายโซโค ทรงเอกพจน์ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นสามีนางแคะจ่าและเป็นบิดา ด.ญ.ณิชาภัทร ได้ประกอบพิธีตรงข้ามจุดเรือล่มบนบานศาลกล่าวผีป่าเจ้าเขาขอให้ลูกและเมียโผล่พ้นน้ำ โดยมีนางละมวย ครองกฎ อายุ 60 ปี มารดานางแคะจ่านั่งร้องไห้และภาวนาขอให้บุตรสาวและหลานสาวรอดชีวิต แต่คงไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น
นายโซโค กล่าวว่า วันเกิดเหตุช่วงเช้า เมียเก็บของใช้ที่จำเป็นและลงเรือกับบุตรสาวเพื่อจะไปรอคลอดที่โรงพยาบาลท่าสองยาง แต่มาทราบข่าวเรือล่มจมหายก็ตกใจเสียใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะเมื่อเรือล่มก็ไม่คิดว่าจะรอด
นายณรงค์ เปรื่องคำ ผู้จัดการกู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษมท่าสองยาง กล่าวว่า การค้นหานั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวและไหลแรงมาก นอกจากนี้ยังเป็นเกาะแก่ง ทำให้ไม่สามารถลงไปดำค้นได้ จำเป็นต้องยกเลิก คาดหวังว่าศพที่เหลือน่าจะเจอ เพราะกู้ภัยเรามีความพร้อมเต็มที่
ส่วนศพนางมึปลอ สันติดงสกุล ที่พบศพแรกทางญาติไม่ประสงค์รับศพกลับ เพราะวิถีชีวิตชาวปกาเกอะญอ (กะเหรี่ยง) หากศพตายด้วยอุบัติเหตุจะไม่นำเข้าหมู่บ้าน เพราะจะไม่เป็นมงคล จึงมอบให้เจ้าหน้าที่นำไปฌาปนกิจที่สุสานแม่ต้านต่อไป
ต่อมา ขณะที่ทีมค้นหาอยู่นั้น ได้รับแจ้งทางวิทยุจากทหารเมียนมาที่ประจำชายแดนริมน้ำตรงข้ามฐานทหารพรานบ้านแม่เหว่ยของไทย ว่า พบศพ 2 ศพ ลอยผ่านไป คาดว่าน่าจะเป็นศพเรือล่ม เจ้าหน้าที่จึงนำเรือเร็วเล็กรีบเดินทางไปตรวจสอบ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางด้วยเรือนานนับชั่วโมง จากบ้านแม่ตะวอ ไปยังจุดพบศพในพื้นที่บ้านแม่เหว่ย ไปทางเหนือประมาณ 3-4 กิโลเมตร ห่างจุดพบศพแรก 5 กิโลเมตร ซึ่งยังไม่ทราบว่าทั้ง 2 ศพเป็นใคร คาดว่าในช่วงเย็นทีมงานค้นหาจะกลับมา.