จนท.ป่าไม้ นำทหาร ตำรวจ ตรวจสอบรีสอร์ตภูชี้ฟ้า วันที่ 2 พบบุกรุก 9 ราย จากผู้ประกอบการ 65 ราย พรุ่งนี้เรียกประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ขณะกำนันม้งโวย ไม่แจ้งก่อน จ่อร้องเรียนถึงนายกฯ
เมื่วันที่ 13 ก.ย. 59 นายทนงศักดิ์ ธรรมโม ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 เชียงราย นำเจ้าหน้าที่ป่าไม้ กอ.รมน.เชียงราย ทหาร มทบ.37 ตชด.326 ทหารพราน 3102 และทหารพราน 3104 ตำรวจ สภ.เทิง ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบรีสอร์ตบนภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า อ.เทิง และ ต.ปอ อ.เวียงแก่น เป็นวันที่ 2 เสร็จสิ้นตามหมายเป้าหมาย 65 ราย ผลปรากฏว่า ต.ตับเต่า มีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติจำนวน 7 ราย จากจำนวน 41 ราย และ ต.ปอ มีการบุกรุก 2 ราย จาก 24 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะได้ทำการตรวจสอบลงบันทึกข้อมูลสรุปผลสำรวจ ก่อนเรียกผู้ประกอบการเจ้าของรีสอร์ต ผู้นำท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมปรึกษาหาแนวทางการดำเนินการขั้นตอนต่อไปในวันที่ 14 ก.ย. 59
...
นายทวีศักดิ์ ยอดมณีบรรพต กำนันตำบลปอ อ.เวียงแก่น และประธานชมรมชาวเขาเผ่าม้งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ใน ต.ปอ ครั้งนี้ ไม่ได้แจ้งฝ่ายปกครอง อ.เวียงแก่น ให้ทราบ ตนเองไปดูการตรวจสอบที่ ต.ตับเต่า อ.เทิง ในฐานะประธานเครือข่ายเกษตรกรดอยยาว-ดอยผาหม่น แม้ไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการและไม่มีการเรียกประชุมชาวบ้านทำความเข้าใจก่อน ทำให้เจ้าของรีสอร์ตดอยผาหม่น เกิดความหวาดกลัวว่าเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจพบมีการบุกรุกป่าสงวนจะถูกจับดำเนินคดี ทั้งที่ได้รับการจัดสรรที่ดินในสมัยเข้าร่วมพัฒนาชาติไทยตามคำสั่งที่ 66/2523 ชาวบ้านจึงคิดว่าจะไม่ยอมเจรจาใดๆ กับทางป่าไม้ และจะร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรี
ด้าน นายวัชระ ศักดิ์เจริญ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชร.8 (หาดไคร้) เผยว่า วันนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเป็นอย่างดี จนเสร็จสิ้น 2 อำเภอ รวม 65 ราย และวันที่ 14 ก.ย. จะให้ผู้ประกอบการร่วมลงบันทึกรับทราบการนำตรวจ ก่อนส่งเรื่องให้คณะกรรมการพิจารณาเป็นไปตามคำสั่งคสช. จากนั้นจะดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนพื้นที่ผู้ประกอบการอ้างว่าได้รับการจัดสรรที่ดินตามคำสั่งที่ 66/2523 จะมีการตรวจสอบร่วมทหารต่อไป
...
ขณะที่ นายบันเทิง เครือวงศ์ ผู้ประกอบการรีสอร์ตภูชี้ฟ้า และประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนภาคเหนือ ระบุว่า การที่ป่าไม้เข้าตรวจสอบครั้งนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นดีด้วย และไม่ส่งผลกระทบกับจำนวนนักท่องเที่ยวไปภูชี้ฟ้า ยิ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวมั่นใจ อยากไปเห็นความงามทางธรรมชาติ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้น เจ้าของรีสอร์ตต้องเจรจากับป่าไม้ และตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในฤดูหนาวที่ใกล้จะมาถึงนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาโต้ลมหนาวมากยิ่งขึ้น.