ผู้การฯ กำแพงเพชร สั่งฟันนายทุนรุกป่าสงวน-นิคมฯ เกือบ 3,000 ไร่ ลั่น ต้องจับให้ได้ ไม่ต้องหวั่นเกรงอิทธิพล นักการเมือง ยัน ให้ความเป็นธรรมราษฎรที่มีชื่อถูกสวมสิทธิ์ครอบครองที่ดิน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ก.ย. 59 พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทธิพงศ์ จันทร์พุฒ ผกก. ( สอบสวน ) กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.กำแพงเพชร คณะพนักงานสอบสวนคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.อ.ดิเรก อินหันต์ ผกก.สส.ภ.จว.กำแพงเพชร พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวน สภ.คลองลาน เข้าร่วมประชุมที่ห้อง ศปก. ชั้น 3 สภ.คลองลาน เพื่อเร่งรัดติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดในการบุกรุกแผ้วถางป่า ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองสวนหมาก-ป่าคลองขลุง และพื้นที่นิคมสหกรณ์คลองสวนหมาก จ.กำแพงเพชร ที่มีพื้นที่ประมาณ 200,000 ไร่ ซึ่งทางนิคมสหกรณ์คลองสวนหมาก ขอใช้ประโยชน์จากกรมป่าไม้เพื่อจัดสรรที่ทำกินให้เกษตรกรผู้ยากไร้ตั้งแต่ปี 2531 โดยแบ่งจัดสรรให้แก่สมาชิกนิคมสหกรณ์คลองสวนหมาก และราษฎรที่ไม่มีที่ทำการการเกษตร

จากการตรวจสอบและทำการตรวจยึดตามคำสั่ง คสช.ที่ 64/2557 หลังจากสืบทราบว่ามีกลุ่มอิทธิพล นายทุน เข้าครอบครองปลูกพืชต้นยางพารา และพืชอื่นๆ โดยไม่ใช่เกษตรกรในเขต ต.สักงาม และ ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน พบเป็นพื้นที่บุกรุกปลูกยางพาราที่บ้านปางลับแล หมู่ที่ 4 ต.สักงาม อ.คลองลาน 311 ไร่ 2 งาน 80 ตารางวา แปลงที่ 2 ปลูกยางพารา 112 ไร่ 56 ตารางวา แปลงที่ 3 ปลูกยางพารา 137 ไร่ 1 งาน 18 ตาราง ส่วนแปลงที่ 4 อยู่เขตบ้านโป่งน้ำร้อน หมู่ 2 ต.โป่งน้ำร้อน อ.คลองลาน ปลูกยางพารา 415 ไร่ 13 ตารางวา แปลงที่ 5 อยู่ระหว่างบ้านสักงามหมู่ 1 และบ้านปางลับแล หมู่ 4 ต.สักงาม อ.คลองลาน มีพื้นที่ 1,574 ไร่ 56 ตารางวา และล่าสุดเมื่อ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา ตรวจยึดสวนยางพาราและสวนปาล์มอีก 3 แปลง ในพื้นที่ตำบลสักงามพื้นที่ 322 ไร่ 4 งาน 220 ตารางวา รวมพื้นที่ทั้งหมดกว่า 2,800 ไร่ แต่ยังไม่พบผู้กระทำความผิด (ยึดสวนยาง-ปาล์ม 300 ไร่ ชาวคลองลาน งง มีชื่อครองที่ดิน คาดถูกสวมสิทธิ์)

...

พล.ต.ต.ดำรงค์ เผยว่า การเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อสั่งการและหารือแนวทางการดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป่าไม้ ที่ทางกรมป่าไม้ ได้แจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.คลองลาน โดยเน้นย้ำให้ชุดสืบสวนเร่งติดตามความคืบหน้าของคดี เร่งรัดจับกุมตัวนายทุนที่บุกรุกผืนป่าให้ได้ ทั้งนี้ จะให้ความเป็นธรรมทั้งราษฎรที่มีการใช้ชื่อครอบครองที่ดิน และถูกระบุว่าบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน โดยได้แต่งตั้งพนักงานสอบสวนในคดีบุกรุกป่าขึ้นเป็นชุดเฉพาะกิจ โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.สุทธิพงศ์ เป็นหัวหน้าชุด ดำเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ เพื่อให้คดีมีความรัดกุม โดยไม่ต้องหวั่นเกรงจากกลุ่มอิทธิพล นักการเมือง และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย.