นางวราภรณ์ วรพงศธร ขนส่งจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเตือนภัยรถทัวร์โดยสารสายแพร่-กรุงเทพฯ ที่รับผู้โดยสารที่ไม่ซื้อตั๋วรถกลางทางแล้วถูกปล้นทรัพย์ เหตุเกิดตี 3 วันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้เชิญ กก.ผจก.บริษัทพรพิริยะทัวร์ จำกัด พร้อมนายสมศาสตร์ จิตตะวงค์ พนักงานขับรถ และนายนิคม ปัญญาสัมพันธ์พนักงานประจำรถมาให้ข้อเท็จจริง

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ทราบว่านายสมศาสตร์ได้ขับรถโดยสาร ทะเบียน 10- 1536 แพร่ สาย 923-5 (แพร่-กรุงเทพฯ) นำผู้โดยสารมาจาก จ.แพร่ มุ่งหน้าสู่ กทม. ถึงที่เกิดเหตุบริเวณแยกอ่างทอง จ.อ่างทอง มีผู้โดยสาร 2 คนเป็นชาย ต้องการจะลงรถบริเวณดังกล่าวจึงได้จอดให้ลง ขณะเดียวกันมีชายสวมเสื้อแจ็กเกตสีดำทับเสื้อเชิ้ตสีฟ้าแสดงตัว เป็นตำรวจกองปราบฯ ขออาศัยรถมาลงที่กองปราบฯ เมื่อบอกว่ารถไม่ได้ผ่านกองปราบฯ ชายดังกล่าวจึงขอลงที่รังสิตแทน จึงยินยอมให้โดยสารไปด้วยกัน

เวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที ชายคนดังกล่าวเดินมาบอกพนักงานขับรถว่าจะขอลงแยกอยุธยา อ้างว่าท่านรองตำรวจขับรถตามมา จึงหยุดรถให้ลง ขณะกำลังขับรถออก มีผู้โดยสารแจ้งว่าถูกลักทรัพย์ จึงได้หยุดรถ เปิดไฟและให้ผู้โดยสารตรวจสอบทรัพย์สินของตนเองก่อนขับรถพาผู้โดยสารทั้งหมดไปแจ้งความที่ป้อมตำรวจทางหลวงอยุธยา และนำผู้โดยสารที่เหลือเดินทางต่อไปจนถึงปลายทาง

นางวราภรณ์เปิดเผยอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นสนง.ขนส่ง จ.แพร่ จึงได้เปรียบเทียบปรับพนักงานขับรถ ฐานไม่ดูแลผู้โดยสารให้ได้รับความปลอดภัย ปล่อยให้มีการขึ้นและลงรถนอกจุดจอดตามเงื่อนไขที่กำหนดในอัตราสูงสุด 5,000 บาท และเปรียบเทียบปรับผู้ประกอบการฐานไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่นาย ทะเบียนกำหนดเป็นเงิน 10,000 บาท

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ผบก.ภ.จ.แพร่ ได้สั่งการให้พ.ต.อ.วิชาญยุทธ คูณเจริญสุข ผกก.สส.ภ.จ.แพร่ มาร่วมสอบปากคำ และประสานงานกับตำรวจภูธรอ่างทอง รวมถึงผู้เกี่ยวข้องดำเนินการในทางคดีต่อไปผู้โดยสารหรือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการใช้รถโดยสารสาธารณะสามารถร้องเรียนได้ที่ สนง.ขนส่งจ.แพร่ โทรศัพท์ 0-5465-2575 หรือสายด่วนศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584.

...