วัลลภ นามวงศ์พรหม ประธานฝ่ายส่งเสริมประเพณีพิธีกรรมความเชื่อ สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ หรือ ปราชญ์ล้านนา เชื่อว่า คุ้มเจ้านายฝ่ายเหนือแต่ละแห่งมีวิญญาณวนเวียนเฝ้ารักษาสมบัติที่ฝังไว้ มักจะเกิดภาพต่างๆ ปรากฏให้เห็น
วันที่ 5 ก.ย. จากภาพชวนขนหัวลุก "มือลึกลับ" ที่มีภาพโพสต์ลงในโซเชียล เป็นงานถวายราชสดุดี ร.6 ที่พระราชทานนามสกุล ณ เชียงใหม่ นายธานินทร์ สุภาแสน อดีต ผวจ.เชียงใหม่ ไปร่วมงานและจับมือที่มีการบันทึกภาพภาพหมู่ โดยมีที่มือข้างหนึ่งจับข้อมือเจ้านายฝ่ายเหนือไว้ ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกับมืออีกข้างหนึ่ง ที่นิ้วยาวผิดปกติและขาวซีด เป็นภาพที่ถ่ายมาเมื่อต้นปี 2559 ที่ผ่านมา กลายเป็นเรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่า เป็นภาพตกแต่งขึ้นมาโดยเทคนิคทางคอมพิวเตอร์ อีกฝ่ายหนึ่งเชื่อว่า เป็นภาพจริง เพราะเจ้าของภาพทั้งสองคนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของสังคมภาคเหนือ คงไม่มีใครล้อเล่นนำภาพมาตัดต่อเพื่อความสนุกสนาน (ไขปริศนา มือลึกลับ นิ้วยาวขาวซีด! โผล่ภาพถ่าย เชื่อบรรพบุรุษเจ้าล้านนา)
ความคืบหน้าเกี่ยวกับภาพ มือลึกลับ นั้น ได้ช่างภาพหนุ่มที่คร่ำหวอดด้านการถ่ายภาพของเชียงใหม่คนหนึ่ง ขอบอกเพียงชื่อเล่นว่า โอด์ ได้มาขอดูภาพที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย จนเป็นข่าวฮือฮา หลังจากที่ไทยรัฐออนไลน์นำเสนอ มีผู้เข้ามาชมกว่า 3 แสนวิว เมื่อเห็นแล้วก็บอกชัดเจนว่า เป็นภาพจากการตัดต่อด้วยโปรแกรมตกแต่งภาพ แต่ยังไม่เนียนเท่าที่ควร แต่ก็ออกตัวว่า ยังไม่ปักใจว่าเป็นการตกแต่งตัดต่อภาพ 100 เปอร์เซ็นต์ จนกว่าจะเห็นต้นฉบับภาพถ่ายก่อน เพราะหากเป็นการตกแต่งตัดต่อภาพ ทำไปเพื่ออะไร เพราะทั้งสองท่าน คนหนึ่งเป็นถึงเจ้านายฝ่ายเหนือ อีกคนหนึ่งเป็นอดีตผู้ว่าฯ จ.เชียงใหม่ เชียงราย และลำปาง ที่มีชื่อเสียง แต่อย่างไรก็ตาม เห็นครั้งแรกยังขนลุก
...
ด้าน นายวัลลภ นามวงศ์พรหม ประธานฝ่ายส่งเสริมประเพณีพิธีกรรมความเชื่อ สภาวัฒนธรรม จังหวัดเชียงใหม่ หรือ ปราชญ์ล้านนา ได้เผยว่า ตนได้พบกับ นายธานินทร์ สุภาแสน อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเย็นวันที่ 5 ก.ย.นี้ นายธานินทร์ ก็ยังบอกว่า มาถึงวันนี้ตนก็ยังเชื่อว่าเหมือนมีสิ่งบอกเหตุอะไรของบรรพบุรุษ ซึ่งตนไม่รู้จะอธิบายว่าอย่างไร จะอธิบายทางวิทยาศาสตร์ก็บอกไม่ได้ มันอยู่ที่ความเชื่อ ต้องมีบุญบารมีถึงกัน สิ่งที่ปรากฏเหมือนจะมาบอกว่า ยังอยู่และวนเวียนอยู่ เหมือนเตือนว่าอย่าได้มีการลบหลู่ และทิ้งละฮีตฮอยประเพณี พิธีกรรมโบราณ ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าจะกลายเป็นข่าวที่คนให้ความสนใจมาก ตนก็คงไม่อธิบายอะไรแล้ว แต่หากว่าเป็นการตัดต่อภาพ คนทำต้องการอะไร และอะไรเป็นแรงจูงใจให้กระทำ
นายวัลลภ ได้กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมานี้ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับเหล่าเจ้านายฝ่ายเหนือ ตามคุ้มต่างๆ ที่เจ้านายฝ่ายเหนือยังวนเวียนเข้าไป เป็นคุ้มผู้ที่มีบารมี มียศศักดิ์ เจ้าบ้านเจ้าเมืองโบราณ มักจะมีการฝังสมบัติไว้ใต้ผืนดิน เพราะไม่มีธนาคารเหมือนปัจจุบันนี้ ดังนั้นแก้วแหวนเงินทอง สิ่งมีค่าทั้งหลายทั้งปวงที่มีอยู่จะถูกฝังลงไป และเมื่อฝังแล้วจะไม่บอกให้ใครทราบ เพราะกลัวจะมาขุดมาคุ้ย แต่เมื่อไม่บอกใครพอล้มหายตายจาก ทรัพย์สมบัติเหล่านี้ก็ยังอยู่ คนที่รู้ก็คือ คนตาย จึงมีความเชื่อว่า เมื่อเสียชีวิตลง วิญญาณจะต้องวนเวียนดูแลอยู่ เป็นวิญญาณผูกพัน ดังนั้นที้เหล่านี้เมื่อมาถึงยุคปัจจุบัน เมื่อมีคนมาอยู่ก็ตาม จึงมักเกิดปรากฏการณ์ให้เห็น จะขายก็ขายไม่ได้ เพราะเจ้าของไม่อนุญาต มีสิ่งที่มองไม่เห็นมักจะขัดขวางทำให้ไม่สามารถจะอยู่ได้ก็มี จะเห็นว่า บ้านร้างๆ ที่เป็นคุ้มเจ้านายฝ่ายเหนือจะถูกทิ้งร้างไว้จำนวนมาก ถึงมีคนซื้อ เจ้าของใหม่ยังอยู่ไม่ได้ จะพบเหตุการณ์แปลกๆ เสมอ จึงมักจะมีการกล่าวว่า คนโบราณหวงสมบัติ จึงมีความผูกพันไม่อยากให้ใครมาอยู่แทน
ซึ่งสำหรับเรื่องภาพถ่ายครั้งนี้ไม่ใช้ครั้งแรก มักจะปรากฏให้เห็นบ่อยๆ แต่ไม่มีการนำเสนอเป็นข่าวเหมือนสังคมยุคนี้ที่มีเหตุการณ์แปลกๆ จะนำลงโซเชียลมีเดียทันที ซึ่งการปรากฏตัวหรือเกิดภาพซ้อนเหมือนจะเป็นการมาสื่อให้เห็นว่า ยังอยู่วนเวียนบริเวณนี้ คนรุ่นหลังรับรู้จะได้ทำบุญไปให้ หรือไม่ก็เป็นการเตือนบ่งบอกอะไรบางอย่าง มีบางคนฝันเห็นบรรพบุรุษมาบอกว่า ฝังทรัพย์สมบัติไว้ที่บริเวณไหน เมื่อไปขุดก็ยังเจอ ดังนั้น สิ่งเหล่านี้ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ และให้สังเกตดู หากเป็นคุ้มเจ้ามาก่อน จะอยู่ไม่ได้เลย และหากนำไปประกอบธุรกิจจะทำอะไรไม่ค่อยเจริญ จนบางแห่งต้องเลิกกิจการ บางแห่งต้องทำบุญใหญ่แบบล้านนา เพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้
"ในสมัยเจ้าครองนครเชียงใหม่ จะมีคุ้มมีเจ้านาย มียศถาบรรดาศักดิ์เยอะมาก เมื่อล้มหายตายจากก็จะถูกทิ้งร้างไว้ ใครมาอยู่ก็อยู่ไม่ได้ คนซื้อใหม่ก็อยู่ไม่ได้ ลูกหลานจะอยู่ก็อยู่ไม่ได้ จะรื้อทิ้งสร้างใหม่ก็จะเกิดปรากฏการณ์ผิดธรรมชาติให้เห็น จะเห็นว่าคุ้มหลายแห่งถูกทิ้งร้าง หรืออาจจะมีการแก้เคล็ดทำบุญทำกุศล หรือสร้างศาลใหญ่ๆ ให้อยู่ สำหรับเรื่องภาพถ่ายมาถึงตอนนี้ก็ยังมีคนจำนวนมากเข้าใจว่าจะต้องมีอะไรมาสื่อให้เห็นว่าวิญญาณยังอยู่ตรงนี้ ยิ่งเป็นลูกเป็นหลานก็จะเป็นการสื่อให้ทราบว่า อยากจะพบลูกพบหลาน แต่อยู่คนละภพมองไม่เห็น แต่หากกายหยาบ กายละเอียด จะแสดงได้อย่างไรให้มีความเชื่อว่า ถ้าคนที่เป็นลูกหลาน มียศถาบรรดาศักดิ์ มีบารมี ก็จะมาปรากฏให้เห็นในลักษณะนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่า ท่านยังอยู่ และเมื่อทราบว่า ท่านยังอยู่ลูกหลานควรจะทำอะไรให้ สำหรับอดีตผู้ว่าฯ ท่านก็ยังเชื่อว่า เป็นสิ่งที่เป็นจริง แต่ท่านก็บอกว่า จะอธิบายได้เฉพาะคนที่เชื่อเท่านั้น ไม่เชื่อท่านก็ไม่พูด เหมือนผมที่มีความเชื่อ ท่านจึงบอกว่า ท่านเชื่อว่าเป็นคนที่มีเชื้อสายในอดีตมาบอกว่า ยังอยู่และให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ และที่สำคัญอย่าลบหลู่บรรพบุรษ แต่สุดหากยังคิดว่าเป็นภาพตัดต่อคนที่ทำมีแรงจูงใจอะไร คนตัดต่อทำไมไม่นำเสนอเอง ทั้งๆ ที่เขาต้องประสงค์ด้านใดด้านหนึ่งในการทำภาพนี้ แล้วไปอธิบายให้คนอื่นทราบว่าทำไปเพราะอะไร จนภาพนี้ผมไปเห็นด้วยตัวเองจึงนำมาเผยแพร่ โดยเฉพาะคนระดับเจ้านายฝ่ายเหนือและอดีตผู้ว่าฯเชียงใหม่ ใครจะมาล้อเล่นเป็นไปไม่ได้แน่ การจะทำภาพขึ้นมาต้องมีจุดประสงค์ แต่ไม่เห็นมีใครมาแสดงตัวทั้งๆ ที่เผยแพร่มานานแล้ว" ประธานฝ่ายส่งเสริมประเพณีพิธีกรรมความเชื่อ สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวทิ้งท้าย.
...