ปลัดอำเภอวังชิ้น จ.แพร่ ให้ปากคำกับคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีเก็บค่าหัวคิวโครงการประชารัฐ เจ้าตัววอนสื่องดเสนอข่าว ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ ขณะที่ ผบ.ม.พัน 12 รุดสอบ เผยหากจริงฟันทุกคนข้อมูลสาวถึงใครไม่เว้นแม้แต่ทหาร

สืบเนื่องจากกรณีที่ตัวแทนกำนันผู้ใหญ่บ้าน ตำบลวังชิ้น อำเภอวังชิ้น ได้ร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ อ้างว่าปลัดอำเภอเรียกเก็บหัวคิวโครงการพัฒนาท้องถิ่นและโครงการประชารัฐ 2% ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ต้องมีคำสั่งย้ายด่วนปลัดอำเภอวังชิ้นไปช่วยราชการที่ปกครองจังหวัดแพร่เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (ผวจ.แพร่เด้งปลัด อ.วังชิ้น โดนผู้ใหญ่บ้านร้องเรียนเก็บหัวคิวประชารัฐ)

เมื่อวันที่ 5 ก.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูชาติ คำมา ปลัดอาวุโส อำเภอวังชิ้น ที่ถูกร้องเรียนได้เดินทางไปให้ปากคำคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และได้พบสื่อมวลชนโดยขอร้องให้สื่อมวลชนยุติการนำเสนอข่าวเกรงว่าจะเสียหายต่อองค์กร ตนเองก็บอบช้ำและยืนยันจะให้ปากคำต่อคณะกรรมการยืนยันความบริสุทธิ์ และขอให้เป็นไปตามกระบวนการสอบสวน

...

ขณะเดียวกัน นายปัญญา เล็กกระจ่าง นายอำเภอวังชิ้น กล่าวว่า เมื่อวันศุกร์ (2 ก.ย.) ที่ผ่านมา ได้สอบผู้ใหญ่บ้านที่ร้องเรียนจำนวน 8 คนเสร็จสิ้นแล้ว และได้เชิญนายชูชาติ ผู้ถูกร้องมาสอบสวน คาดว่าจะเสร็จภายในวันนี้ ส่วนผลสอบสวนนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากเป็นความลับของทางราชการ แต่ในส่วนตัวนายอำเภอเคยกำชับเรื่องนี้มาตลอดว่า โครงการต่างๆ ที่เป็นของส่วนราชการของรัฐ ห้ามมีการทุจริตหรือเรียกเก็บใดๆ ตนรับราชการมาไม่เคยมีเรื่องนี้ ผู้ใหญ่บ้าน-กำนัน ร่วมมือกันพัฒนาบ้านเมืองมาด้วยดีตลอด เรื่องนี้ยืนยันว่า สอบสวนไปตามข้อเท็จจริงผิดถูกทางจังหวัดจะเป็นผู้สั่งการและดำเนินการ

ทั้งนี้ พันเอกชาตรี สงวนธรรม ผบ.ม.พัน 12 อ.เด่นชัย ก็ได้เดินทางมาถึงที่ว่าการอำเภอวังชิ้น โดยได้เรียกผู้ใหญ่บ้านที่เป็นแกนนำในการร้องเรียนเรื่องนี้เข้าพบที่ห้องทำงานนายอำเภอวังชิ้นโดยมีนายคะนอง อ่องคำ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 นายอดิศักดิ์ พรมเรือน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 นายวาเนตร อินต๊ะวัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 นายเกรียงศักดิ์ ครอบครอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 นายวิทูลย์ พรมจันทร์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 นายหิรัญ แสนกันต๊ะ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.แม่เกิ๋ง นายบุญธรรม กิ้งคำ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 และนายบุญมา ยะเมทะ หมู่ 4 ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ใหญ่บ้านกำนันในอำเภอวังชิ้น ส่วนผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและผู้ใหญ่บ้านอีกจำนวนกว่า 20 คนที่มาสมทบได้รออยู่ด้านล่างไม่ได้เข้าพบทหาร

จากนั้นแกนนำผู้ใหญ่บ้านได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้กับพันเอกชาตรี เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบและสอบสวน เนื่องจากเกรงว่าเรื่องนี้จะมีการสอบสวนที่ช่วยเหลือกัน นายอดิศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้านก็ยังให้การกับฝ่ายทหารยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงทั้งหมด และยืนยันว่าได้มอบเงินให้กับปลัดอำเภอไปจริง และบางหมู่บ้านได้มอบผ่านกำนันไปมอบให้ และขอสู้จนถึงที่สุด เพราะผู้ใหญ่บ้านที่ออกมาต่อสู้ก็เอาตำแหน่งเป็นเดิมพันหากเรื่องนี้สรุปว่า ปลัดไม่ได้รับเงินจากพวกตน พวกตนจะลาออกจากผู้นำหมู่บ้าน

ทั้งนี้ พันเอกชาตรี ได้พูดกับผู้ใหญ่บ้านตัวแทนผู้ร้องเรียนว่า เรื่องร้องเรียนยังไม่ถึงฝ่ายทหาร แต่ตนรับทราบทางสื่อก็ได้ตรวจสอบทันทีและรายงานเบื้องต้นให้กับผู้ว่าราชการไปแล้ว และวันนี้มาสอบสวนผู้ร้องเนื่องจากอยากทราบข้อเท็จจริง เพราะมีบางสื่อพาดพิงไปถึงทหารว่ามีการส่งส่วยทหารเป็นแสน ตนก็อยากรู้ หากมีจริงขอให้ผู้ร้องแจ้งชื่อเบาะแสมา หากมีจริงตนไม่ไว้แน่ จะมีตำแหน่งใหญ่โตอะไรไม่สนใจ เอาติดคุกให้หมด เรื่องนี้สาวไปถึงใครก็ไม่เว้นเอาหมด แต่ตอนนี้หลังจากสอบสวนผู้ร้องก็มีเพียงคำบอกเล่าและการร้องเรียน หลักฐานในการรับมอบเงินทองก็ไม่มี โดยจะส่งให้ทางต้นสังกัดพิจารณาในการสอบสวนแต่ยืนยันฝ่ายทหารได้กำชับและลงมาติดตามผลการใช้เงินกองทุนและเงินงบประมาณต่างๆ ของรัฐเพื่อเร่งให้ดำเนินการในส่วนของแต่ละหมู่บ้านให้แล้วเสร็จตามกำหนดการทุกโครงการ