ทีมรื้อรีสอร์ตภูทับเบิก เพชรบูรณ์ งง บุรุษลึกลับโทรศัพท์ถึง ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลก และนายอำเภอหล่มเก่า ให้ไปบอกผู้ว่าฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้เลิกรื้อรีสอร์ต ถามรู้จักระเบิดไหม หากไม่ฟังจะต้องตาย
เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 59 ความคืบหน้าการสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ปกครองเจ้าหน้าที่ป่าไม้และเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 400 นายเข้ารื้อถอนรีสอร์ตภูทองคำและสายหมอกรีสอร์ทซึ่งเป็นรีสอร์ตในจำนวน 19 ราย บนยอดดอยภูทับเบิก ต.วังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ที่ถูกศาลมีคำพิพากษาและคำสั่ง คสช.ที่ 35/2559 ให้ออกจากพื้นที่และทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง โดยในช่วงเช้าวันนี้ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบหาวัตถุระเบิดในซากกองอิฐเศษวัสดุที่เจ้าหน้าที่ได้ทุบตัวอาคารของสองรีสอร์ตไว้ตั้งแต่วานนี้ (30 ส.ค.59) ภายหลังการตรวจสอบไม่พบวัตถุระเบิดหรือวัตถุต้องสงสัย จึงเริ่มดำเนินการรื้อถอนและขนย้ายซากเศษวัสดุขึ้นรถบรรทุกนำลงมาทิ้งที่อำเภอหล่มเก่า และคาดว่าการรื้อถอนจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้
ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 11.00 น. ของวันเดียวกัน ได้มีโทรศัพท์ลึกลับเข้ามาที่เบอร์โทรศัพท์ของนายบุญลาภ สุกใส ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลก บอกว่าให้เจ้าหน้าที่หยุดปฏิบัติการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนภูทับเบิก และให้ไปแจ้งให้นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้และเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงานด้วยว่ารู้จักระเบิดไหม หากไม่เชื่อฟังจะต้องตาย ซึ่งในขณะที่โทรศัพท์ลึกลับโทรเข้ามานั้นได้ใช้เบอร์โทรศัพท์ถึง 3 เบอร์โทรเข้าหานายชาญชัย ศรศรีวิชัย นายอำเภอหล่มเก่า อีกด้วย แต่นายชาญชัยซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ที่โทรศัพท์เข้ามาครั้งแรกจึงไม่รับและกดทิ้งไป
...
ด้าน พ.ต.อ.โสภณ เพียรร่มทองไทย รองผบก.ภจว.พช.กล่าวว่า ขณะที่โทรศัพท์ลึกลับโทรเข้ามานั้น คณะเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภูทับเบิกที่ดอยน้ำเพียงดินกำลังพูดคุยแนวทางการทำงาน โดยเจ้าหน้าที่ได้เปิดลำโพงโทรศัพท์เพื่อรับฟังเสียงจาก 3 เบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามานั้นเป็นเสียงของคนคนเดียวกัน เบื้องต้นได้ให้ พ.ต.ท.จำเนียร คำวิเศษ รองผกก.สอบสวนสภ.หล่มเก่า รับแจ้งความจากนายบุญลาภ ไว้เป็นหลักฐานแล้ว โดยจะต้องเร่งดำเนินการสืบหาเจ้าของเบอร์โทรศัพท์เพื่อดำเนินการต่อไป