ฝนกระหน่ำเหนือ พะเยา น่าน อ่วม น้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พื้นที่เกษตร ต้องอพยพคน สัตว์ สิ่งของ กันให้วุ่น ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย

จากสถานการณ์ภาคเหนือมีฝนตกชุกตลอดทั้งคืนวันที่ 14-15 ส.ค.59 ทำให้พื้นที่ในหลายจังหวัดเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน ส่งผลให้บ้านเรือนพังเสียหาย สัตว์เลี้ยงล้มตายเป็นจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 15 ส.ค.59 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพะเยารายงานว่า ในอำเภอปง มีบ้านเรือนประชาชนในตำบลออย ได้รับผลกระทบ 10 หมู่บ้าน ตำบลงิม 6 หมู่บ้าน และตำบลปง 10 หมู่บ้าน ซึ่งน้ำป่าไหลหลากรวมกับน้ำยมทะลักเข้าบ้านเรือนชาวบ้าน และสัตว์เลี้ยงวัวควายล้มตายเป็นจำนวนมาก และน้ำได้พัดเอานายนพรัตน์ คันธะเรศ อายุ 29 ปี ชาวบ้าน อ.ปง จ.พะเยา หลังจากที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายสิ่งของ สัตว์เลี้ยงในบริเวณบ้านที่ถูกน้ำดูดเข้าไปในท่อระบายน้ำ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านพร้อมด้วยพระเณร และชาวบ้านเอารถแบ็กโฮมาขุดบริเวณท่อระบายน้ำเพื่อค้นหาศพนายนพรัตน์ โดยการขุดเจาะกลางถนนคอนกรีต ซึ่งยังไม่พบศพแต่อย่างใด แม้ว่าสถานการณ์น้ำได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

...

นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ความคืบหน้าเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากที่ อ.ปง และ อ.เชียงคำ พบประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 2,500 ครัวเรือน และมีผู้สูญหายจำนวน 1 ราย พบผู้บาดเจ็บอีกจำนวน 3 คน ส่วนพื้นที่ทางการเกษตรของทั้งสองอำเภอได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นาข้าว และไร่ข้าวโพดที่กำลังออกผลผลิต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือต่อไป โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาได้สั่งการให้มีการตั้งจุดรับบริจาคสิ่งของ รวมถึงตั้งศูนย์อำนวยการท้องถิ่น และอำเภอ เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกำชับให้ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ผู้นำชุมชนในพื้นที่ได้แจ้งเตือนและอพยพ ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงไปยังจุดที่ปลอดภัยแล้ว

ส่วนผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดน่านรายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำน่าน และแม่น้ำสาขาทุกสายเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ถนนหลายแห่งเกิดการทรุดตัวเพราะฝนตกหนัก เนื่องจากดินชุ่มน้ำจนรับน้ำไม่ไหว และบ้านเรือนประชาชนดินทรุดตัวจนกำแพงบ้านพังทลายลงมาทับรถจักรยานยนต์ เสาไฟฟ้าหักโค่นทำไฟฟ้าดับทั่วหมู่บ้าน นอกจากนี้ถนนลาดยางภายในหมู่บ้านที่อยู่ในความรับผิดชอบของ อบต. ทรุดตัวประมาณ 100 เมตร รถไม่สามารถผ่านไปมาได้ ทำให้ประชาชน 93 ครอบครัว จำนวน 300 คน ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากมีเส้นทางเข้าออกหมู่บ้านเพียงเส้นทางเดียว และนอกจากนี้ได้ทำการอพยพชาวบ้านอีก 4 ครัวเรือน จำนวน 13 คน ออกจากบ้านเนื่องจากอยู่ในแนวทรุดตัวของดิน

นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าอ่างเก็บน้ำพง ในอำเภอสันติสุข แตกนั้นไม่เป็นความจริง เพียงแต่มีน้ำไหลล้นข้ามอาคารระบายน้ำล้น สูงประมาณ 0.70 เมตร และกัดเซาะด้านท้ายอาคารทางระบายน้ำล้นเท่านั้น

ด้าน พญ.ณัฐภร ประกอบ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน ได้เตรียมแผนรองรับแล้วและตอนนี้ได้เริ่มขนย้ายยาและเครื่องมือแพทย์ที่สำคัญขึ้นชั้นสอง และวางแผนเตรียมย้ายผู้ป่วย และได้ส่งทีมออกไปแจกยาดอกซีไซคลินให้แก่ ปชช.ที่ลุยน้ำ แช่น้ำ เพื่อป้องกันโรคฉี่หนู และนอกจากนี้ทางโรงพยาบาลน่านได้ขอสนับสนุนกระสอบทรายไปยังสำนักงานเทศบาล และได้ขอกำลังทหารมาช่วยขนของที่คลังยาและพัสดุแล้ว พร้อมทั้งนี้ได้เตรียมสำรองอาหารให้ผู้ป่วยไว้แล้วอย่างน้อย 1 สัปดาห์

อย่างไรก็ตามช่วงที่น้ำท่วมในเขตพื้นที่ อ.เมืองน่าน ประชาชนสามารถนำรถยนต์ไปจอดได้ที่ 1. สนามกีฬาจังหวัดน่าน 2. สนามบินนครน่าน 3. ลานอาคารศาลาอเนกประสงค์บ้านมงคลนิมิต และ 4. ศูนย์ราชการจังหวัดน่าน ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. พบศพ นายประสิทธิ์ วังสาร อายุ 49 ปี เสียชีวิตจากการจมน้ำ เบื้องต้นทางญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย จึงมอบศพไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป

...

เกษตร จ.นครสวรรค์ เฝ้าระวังน้ำป่าหลาก

นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ เกษตรจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า ในช่วง 1-2 วันนี้อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อำเภอที่ควรระวังคือ แม่วงก์ แม่เปิน ชุมตาบง และลาดยาว ส่วนอีกด้านหนึ่งอาจจะเกิดน้ำป่าไหลหลากมาจาก จ.เพชรบูรณ์ และ จ.ลพบุรี อำเภอที่ควรระวังคือ หนองบัว ท่าตะโก ไพศาลี และตาคลี ดังนั้นขอให้พี่น้องเกษตรกรวางแผนป้องกันหากมีน้ำท่วมเกิดขึ้น รวมถึงเตรียมอุปกรณ์การเกษตรที่ใช้ในการป้องกันน้ำท่วมเอาไว้ให้พร้อม อาทิ เครื่องสูบน้ำ รถไถ เป็นต้น หรืออาจจะต้องทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนกำหนด.