ปศุสัตว์จังหวัดน่าน สนธิกำลัง ลุยจับเนื้อเถื่อน ลักลอบนำเข้าจากประเทศ อินเดีย-บราซิล กว่า 300 กิโลกรัม หวั่น ปชช.รับประทานแล้วอาจติดเชื้อโรคได้ เพราะไม่ได้ผ่านการตรวจสอบ 

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 59 เมื่อเวลา 17.30 น. นายวรพล รุ่งสิทธิมงคล หัวหน้าด่านกักกันสัตว์น่าน และนายนพพร มหากันธา ปศุสัตว์จังหวัดน่าน พร้อมด้วย พ.ต.ท.มานพ ค้าขาย สวป.เมืองน่าน ร.ต.อ.เทิดศักดิ์ ชัยศิลปิน ร.ต.อ.เสวียน อินปลา ร.ต.ภัทรพล ไวยดี  จ.ส.อ.สุรพงษ์ ฝีปากเพราะ จ.ส.อ.ร่มเกล้า กมลพงศ์ เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกอ.รมน.น่าน ชุด มว.รส.ที่ 1 ร้อย.ร.ส.ที่1 (ม.ท.บ.38) ได้ร่วมกับกุม นางสาวนวพรรณ ปูคำปัน อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 422 หมู่ 3 ตำบลพบพระ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งได้มาเช่าบ้าน เพื่อทำเป็นที่กระจายสินค้าแช่แข็งและจำหน่าย ที่บ้านเลขที่ 103 บ้านเขาน้อย หมู่ 11 ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน

หลังจากที่เจ้าที่ชุดจับกุมชุดเฉพาะกิจ ได้รับการร้องเรียนว่า ที่ห้องเย็นทะเลน้ำใจ บ้านเขาน้อย เลขที่ 103 หมู่ 11 ตำบลดูใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ว่า มีการลักลอบจำหน่ายเนื้อสัตว์ผิดกฎหมาย จึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้นตามที่ร้องเรียนดังกล่าว พบซากสัตว์ชนิดเนื้อกระบือแช่แข็ง และลิ้นโคแช่แข็ง เมื่อสอบถามเอกสารครอบครองก็ไม่มีนำมาแสดงให้ จึงได้ทำการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า ไม่มีใบอนุญาตนำเข้าราชอาณาจักร จึงได้อายัดและตรวจยึดของกลางดังนี้

...

จากการตรวจสอบห้องแช่ขนาด 1 ตู้คอนเทรนเนอร์ พบ 1.เนื้อกระบืออินเดีย ยี่ห้อ AMBER จำนวน 40 กิโลกรัม 2. เนื้อกระบืออินเดีย ยี่ห้อ AL FADEEL (INDIA) จำนวน 4 หีบ จำนวน 125 กิโลกรัม 3. ปากหนาม(ลิ้นโค) ยี่ห้อ MINSTERIODA (BRASIL) จำนวน 75 กิโลกรัม และ ไส้ตันสุกรจำนวน 750 กิโลกรัม รวมน้ำหนักทั้งหมด 1,020 กิโลกรัม มีแพ็กเกจตีตรายี่ห้อ ภายในถุงบรรจุเนื้อกระบือแช่แข็งในกล่องกระดาษอยู่เต็ม ประทับตรานำเข้ามาจากประเทศอินเดีย และประเทศบราซิล จึงได้อายัดและรอการตรวจสอบอีกครั้ง จากการตรวจสอบพบว่า กรมปศุสัตว์ประเทศไทย ไม่อนุญาตนำเข้าเนื้อกระบือแช่แข็งจากประเทศอินเดีย และประเทศบราซิล ทั้ง 2 ประเทศ

ในเบื้องต้น จนท.ชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวนางสาวนวพรรณ พร้อมของกลางทั้งหมดนำส่ง พ.ต.ท.สมเกียรติ รวมเงิน พงส.สภ.เมืองน่าน โดยแจ้งข้อกล่าวหา มีเนื้อสัตว์ต้องห้ามไว้ในครอบครอง และไม่ได้รับอนุญาต หรือ อายัดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์หรือตามกฎหมายอื่น พ.ศ.2558 ไว้ก่อน เพื่อจะตรวจสอบที่มาของเนื้อสัตว์ดังกล่าว ว่า มาจากไหน อาจมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมภายหลัง ส่วนเนื้อกระบือ ที่ตรวจยึดมาได้ของกลางจะถูกทำลายโดยวิธีการฝังกลบทั้งหมด เนื่องจากเนื้อสัตว์ดังกล่าวไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากสัตวแพทย์ ต้นทางอาจจะมีเชื้อโรคระบาดที่ก่อให้เกิดความเสียหาย และติดต่อถึงประชาชนผู้บริโภค

นายวรพล รุ่งสิทธิมงคล หัวหน้าด่านกักกันสัตว์น่าน กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องการปราบปรามสกัดการลักลอบนำเข้าเนื้อโคเถื่อนจากประเทศอินเดีย โดยกรมปศุสัตว์กำชับด่านตรวจต่างๆ ตามจังหวัดชายแดนให้จับตาเรื่องนี้เป็นพิเศษ พร้อมทั้งทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อขอความร่วมมือในเรื่องดังกล่าวด้วย รวมทั้งขอความร่วมมือจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจสอบโรงงานที่มีห้องเย็นอย่างเข้มงวด เพราะอาจเป็นแหล่งเนื้อเถื่อนที่เข้ามาในประเทศในลักษณะเนื้อแช่แข็งได้ ช่วยกวดขันจับกุมและดำเนินคดีสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว โดยไม่มีการยกเว้น

นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ ได้ออกมาตรฐานเสริม โดยการส่งเสริมให้ความรู้ ผู้บริโภคทราบถึงอันตรายจากการรับประทานเนื้อที่ติดเชื้อ อีกทั้งในส่วนที่นำไปแปรรูปอาจมีสารปนเปื้อนติดมาตามมือ เสื้อผ้า และมีด จากนั้น เชื้อไวรัสตกไปสู่ฟาร์มเกษตรกรได้ สำหรับ เนื้อเถื่อนจากอินเดีย ถือเป็นหอกข้างแคร่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อในบ้านเรา ไล่เรียงตั้งแต่ฟาร์มขนาดเล็ก ไปจนถึงฟาร์มขนาดใหญ่ เนื่องจากการทะลักของเนื้อดังกล่าวที่ผ่านมาทางชายแดนนั้น ได้ทำลายกลไกราคา เนื้อหน้าเขียง เพราะเนื้อส่วนนี้ราคาถูกมาก ซึ่งราคาหน้าเขียงจะขายอยู่ที่ กิโลกรัมละ 280-350 บาท แต่เนื้อเถื่อนที่นำเข้ามาจะขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 160-180 บาท ทว่าความจริงอีกข้อหนึ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ คือ อันตรายจากการติดเชื้อไวรัสโรคปากเท้าเปื่อย และเชื้อไวรัสต่างๆ