ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 3 ก.ค. นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ คือ ลาว เมียนมา และกัมพูชา ตามมติ ครม. เมื่อ 23 ก.พ. ซึ่งเริ่มเปิดจดทะเบียนวันที่ 1 เม.ย. จนถึงขณะนี้มีแรงงานต่างด้าวมารายงานตัวจดทะเบียน 6.9 แสนคน คาดเมื่อครบกำหนดในวันที่ 29 ก.ค. จะมีประมาณ 8 แสนคน จากยอดกว่า 1 ล้านคน ซึ่งยอดที่หายไป 10-20% จะเกิดขึ้นทุกครั้งที่จดทะเบียน บางส่วนเดินทางกลับประเทศต้นทาง ส่วนหนึ่งไปอยู่ในระบบของหนังสือเดินทาง ได้เวิร์กเพอร์มิต มีวีซ่า มีเอกสารทำงานอย่างถูกต้อง ขอเตือนให้ นายจ้างที่มีแรงงานต่างด้าวกลุ่มเดิมที่ใบอนุญาตทำงานหมดอายุอย่าเพิกเฉย ลังเล ที่จะนำแรงงานไปรายงานตัวต่อใบอนุญาตทำงาน อย่าคิดว่าเดี๋ยวก็จะมีเปิดจดทะเบียนอีก เพราะต่อไปจะเน้นนำเข้าแรงงานในระบบเอ็มโอยู หลังครบกำหนดจดทะเบียนในวันที่ 29 ก.ค. จะมีการตรวจเข้มมากขึ้น หากพบทำผิดกฎหมายจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด จึงอย่ารอให้ใกล้ถึงวันสุดท้าย เพราะจะมีความแออัดมาก สำหรับปัญหาความล่าช้าเรื่องผลตรวจสุขภาพ ได้ผ่อนปรนให้นำเอกสารยืนยันเข้ารับการตรวจจากโรงพยาบาลมาแจ้งขอจดทะเบียนโดยไม่ต้องรอผล เพื่อให้ขั้นตอนเร็วขึ้น

นายอารักษ์กล่าวอีกว่า กองตรวจและคุ้มครองคนหางาน ออกตรวจแรงงานต่างด้าวลักลอบทำงานผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น ทั้งในสถานประกอบการ ตลอดจนการเร่ขายของบนทางเท้าหรือไกด์นำเที่ยว ซึ่งเป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย สำหรับโทษของคนต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตหากถูกจับมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับตั้งแต่ 2,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีมีใบอนุญาตทำงาน แต่ไม่ทำงานตามเงื่อนไขมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท นายจ้างที่รับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาทต่อคนต่างด้าวหนึ่งคน การปราบปรามอย่างจริงจังทำให้เกิดความตื่นตัว แต่ขณะนี้ได้มีมิจฉาชีพฉวยโอกาสในช่วงที่มีการตรวจเข้มแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไปเรียกเก็บส่วยจากแรงงานต่างด้าวหรือนายจ้างที่ลักลอบใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยอ้างว่าเก็บส่งให้กรมการจัดหางานซึ่งไม่เป็นความจริง พฤติกรรมของคนเหล่านี้จะไปเพียงลำพังแล้วเรียกรับเงินจากกลุ่มเป้าหมายที่ทำผิดกฎหมาย ขอเตือนอย่าได้หลงเชื่อ และอย่าให้เงิน หรือหากพบเจอคนลักษณะนี้ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน 1694 กรมการจัดหางาน.

...