“ตุงล้านนา” หรือธง ของชาวเหนือที่นิยมใช้ในงานพิธีและงานมงคล โดยเฉพาะตุงทำมือด้วยแผ่นอะลูมิเนียมและแผ่นสังกะสี ปัจจุบันมีเพียงแห่งเดียวในประเทศนั้น เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากพ่ออุ้ยคำ หรือหนานคำ ปินะดวง อายุ 83 ปี อยู่บ้านเลขที่ 270 หมู่ 12 ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา ว่า ตุงหรือธง มีประวัติมาก่อนพุทธกาลระบุไว้ในคัมภีร์ใบลานเรื่องมหาเวสสันดรชาดก ครั้งแรกจะใช้ตุงช่อ ตุงชัย หรือตุงม้า ตุงช้าง เชื่อว่าเป็นตุงมหามงคล มีลวดลายต่างๆ เมื่อก่อนทำจากผ้าหรือกระดาษ เมื่อถูกแดดฝนจะเกิดความเสียหาย จึงมีความคิดนำแผ่นอะลูมิเนียม หรือสังกะสี ตัดให้เป็นรูปทรงตุงแต่ละชนิดแล้วใช้ค้อน สิ่ว ตอกเป็นลวดลายต่างๆ โดยจะมีคนมาเช่าบูชาไปทำบุญถวายพระตามวัดต่างๆ ถือเป็นการทำบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ ตามความเชื่อของคนล้านนา หากผู้ใดตานตุงหรือถวายตุงกับวัดจะได้บุญมากกว่าการทำบุญอย่างอื่น หากชีวิตดับสิ้นจะได้ไปอยู่บนสวรรค์

พ่ออุ้ยคำเปิดเผยอีกว่า ประวัติ “ตุงล้านนา” ตุง เป็นภาษาเหนือ มีความหมายว่า “ธง” มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ คือลายเส้นกนกล้านนา หรืออาจจะประดับนักษัตรในตุงที่เป็นตุงสิบสองราศี มีตุงช่อน้อย, ตุงชัย, ตุงปักมุมเจดีย์ทราย, ตุงไกว, ตุงใหญ่ หรือตุงหลวง ปัจจุบันการทำตุงมีที่นี่ที่เดียวในประเทศไทย และได้ถ่ายทอดวิชาการทำตุงตอกแก่พระราชปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดพะเยา ซึ่งเป็นบุตรชายที่บวชเรียนตั้งแต่วัยเยาว์จนได้รับการแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็นเจ้าคณะจังหวัดพะเยารูปปัจจุบัน เป็นผู้สืบทอดไว้

...

ด้านพระเกรียงไกร วิสุทธิญาโณ (ตุ๊หวัง) ชาวบ้านเรียกตุ๊หวัง พระลูกวัดวัดลี ต.เวียง อ.เมืองพะเยา กล่าวว่า ตุงมี 2 แบบ ใช้กับงานมงคลกับงานอวมงคล งานมงคลจะใช้ตุงช่อตุงชัย ตุงม้า ตุง 12 ราศี ส่วนตุงใช้ในงานอวมงคลจะมีสีขาวและสีแดงล้วน ซึ่งตุงสีขาวรูปคน ตุงคนตายหรือตุง 3 หาง เป็นปริศนาธรรม หางที่ 1 หมายถึงอนิจจัง คือความไม่เที่ยง หางที่ 2 ทุกข์ขัง คือความทุกข์

และหางที่ 3 อนัตตา คือความไม่มีตัวตน, ส่วนตุงสีแดง บ่งบอกถึงความตาย จะปักไว้ตามริมถนนที่มีเหตุคนตาย คนตายโหง หรือตายแบบผิดธรรมชาติ จะใช้ตุงสีแดง หรือเรียกว่าตุง ยาว 20 วา หรือตุง 100 วา เป็นต้น การใช้ตุงชาวเหนือล้านนาจะใช้ประดับตามวัดวาอาราม และตามแนวถนน บ่งบอกถึงมีงานประเพณีของวัดนั้นๆ หากใครได้ทำทานถวายตุงแก่พระหรือวัดเชื่อว่าจะได้บุญกุศลสามารถพ้นทุกข์ภัยและกรรมในอดีตกาลให้หลุดพ้นด้วย.