ชาวบ้าน อ.หล่มสัก เพชรบูรณ์ กว่า 400คน ยืนยันไม่เอาโรงงานยางพาราของนายทุนต่างถิ่นที่จะเข้ามาสร้าง บุกยกป้ายหน้าศาลากลางจังหวัด ผวจ.รับจะร่วมลงชื่อร่วมคัดค้านในหนังสือที่ต้องส่งถึงกรมโรงงานฯ ด้วย เพราะเห็นว่า ชาวบ้านจะเดือดร้อนจริง...

วันที่ 20 มิ.ย. 59 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นายไล สิงห์เส ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.บ้านกลาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พร้อมชาวบ้านกว่า 400 คน เดินทางโดยรถยนต์กว่า 40 คัน เข้าพบ นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผวจ.เพชรบูรณ์ เพื่อติดตามความคืบหน้า กรณีที่ก่อนหน้านี้กลุ่มชาวบ้านได้ยื่นหนังสือ และรายชื่อชาวบ้านนับพันคนที่ลงชื่อ คัดค้านการก่อสร้างโรงงานยางพารา ในพื้นที่ตำบลบ้านกลาง อ.หล่มสัก โดยชาวบ้านที่มาถือแผ่นผ้าและไวนิลข้อความคัดค้านไม่เอาโรงงานยางพารา และต้องการอากาศบริสุทธิ์

ต่อมา นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผวจ.เพชรบูรณ์ จึงเชิญชาวบ้านทั้งหมดขึ้นไปประชุมที่ห้องประชุมชั้น 5 ร่วมกับพันโทณฑี ทิมเสน ผบ.ม.พัน.28 และนางไพรินทร์ กันทะวงษ์ อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อรับฟังข้อเรียกร้องจากชาวบ้าน โดยกลุ่มชาวบ้านต่างยืนยัน ว่า เพชรบูรณ์ เป็นเมืองท่องเที่ยว และมีพืชเศรษฐกิจ เช่น ยาสูบ ข้าวโพด เป็นพื้นที่ป่าไม้ต้นน้ำ การก่อสร้างโรงงานผลิตยางพารา จะส่งผลกระทบเรื่องการมีกลิ่นเหม็น การระบายน้ำเสียลงแม่น้ำป่าสัก พื้นที่ป่าถูกทำลายเพราะชาวบ้านบางส่วนบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อจะปลูกยางพาราขยายเพิ่มไปเรื่อยๆ

อีกทั้ง เมื่อปล่อยน้ำลงดินแล้ว น้ำผิวดินและน้ำใต้ดินก็จะเป็นกรด ทำให้การปลูกพืชเศรษฐกิจเกิดผลกระทบ ไม่ได้ผลผลิตและไม่ได้ราคา ทำให้ไม่มีผู้รับซื้อ ผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเกิดขึ้นเป็นระยะยาวและเกิดขึ้นกับพื้นที่ แต่ผลประโยชน์กลับตกกับกลุ่มทุนกลุ่มเดียว และยังท้วงติงการดำเนินการของอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ไม่ผ่านการประชาคม ก่อนกำหนดการประกาศให้มีผู้คัดค้านภายใน 15 วัน

...

ทางด้านอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ยืนยันว่า ได้ดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนการดำเนินการอย่างถูกต้องแล้ว ซึ่งโรงงานจำพวกที่สามนั้น ระบุว่า ไม่ต้องใช้การประชาคมหมู่บ้าน ตามระเบียบให้ทำได้แค่การปิดประกาศ และหากไม่มีผู้คัดค้านก็ให้เสนอ ผวจ.ลงนาม เพื่อยื่นเรื่องต่อไปที่กรมอุตสาหกรรม ภายใน 15 วัน

ขณะที่ นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผวจ. กล่าวว่า ได้รับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน และเข้าใจถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านเป็นอย่างดี พร้อมเน้นย้ำว่า ได้ลงนามคัดค้าน และไม่เห็นด้วยกับการอนุญาตให้มีการสร้างโรงงานยางพาราในพื้นที่แนบคู่กับเอกสารจากอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ส่งถึงกรมอุตสาหกรรมฯ เพื่อพิจารณา เพราะมีประชาชนที่เดือดร้อนจำนวนมาก ซึ่งชาวบ้านสามารถที่จะขอถ่ายเอกสารที่ ผวจ.เพชรบูรณ์ ลงนามเอกสารส่งถึงกรมอุตสาหกรรมได้ ชาวบ้านจึงพอใจ และแยกย้ายกันกลับไป.