ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เผย อากาศร้อนจัด ส่งผลให้ไฟป่าดอยสุเทพ-ปุย ปะทุขึ้นอีกครั้ง ใช้เฮลิคอปเตอร์ฝนหลวงบินดับไฟ เช้า-บ่าย รวม 14 เที่ยว ควบคุมได้ ควันไฟจาง...

วันที่ 11 พ.ค.59 นางสาวหนึ่งหทัย ตันติพลับทอง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เปิดเผยถึงการใช้เฮลิคอปเตอร์ของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ บินขึ้นไปปฏิบัติการดับไฟป่าบนดอยผาดำ มาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น ส่ง ฮ. นำน้ำช่วยดับไฟผาดำ เขตดอยสุเทพ ฝีมือคน ลอบเผา!

ขณะเดียวกัน ช่วงบ่ายของวันนี้ อากาศร้อนทำให้ไฟป่าปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จึงส่งเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจไฟป่าบริเวณใกล้ๆ กับดอยสุเทพ ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งหลังจากที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงบินสำรวจ พบไฟป่าจำนวน 5 จุด บนภูเขาสูงดอยผาดำ ที่คนไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ โดยช่วงเช้าได้บินไปตักน้ำที่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม ขึ้นไปดับไฟ ใช้เวลาในการบิน 1 ชม. บริเวณที่ดับไฟพิกัด 47Q MA 88630 84499 จำนวน 8 เที่ยว เที่ยวละ 430 ลิตร รวมใช้น้ำ 3,440 ลิตร

...


หลังปฏิบัติงานพบว่า มีควันไฟจางลง ควบคุมไฟได้ดี (ดับไฟได้เยอะ) และน้ำมันไม่เพียงพอ นักบินจึงกลับมาลงจอดเติมน้ำมัน เตรียมความพร้อม ขณะเดียวกันในช่วงบ่ายอากาศร้อนจัด ทำให้ไฟป่าคุกรุ่นลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้ง ทางศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จึงส่งนักบินขึ้นบินสำรวจพบว่า สถานการณ์ไฟป่าที่เข้าไปดับช่วงเช้าดีขึ้น มีบริเวณไหม้อยู่พื้นที่ใกล้ๆ กันอีก 1 จุด ทางนักบินจึงบินมาตักน้ำที่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ขึ้นไปดับไฟ 6 เที่ยวบิน จนควันไฟได้จางไปในที่สุด จึงบินกลับมายังฐานปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ กองบิน 41 เพื่อเติมน้ำมันและเตรียมพร้อมตลอดเวลา


นายอัมพร ปานมงคล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย กล่าวว่า ไฟป่าที่ลุกไหม้ดอยผาดำในเขตอุทยานนั้น ได้ไหม้ไปแล้วทั้งหมด 20 ไร่ ขณะนี้ได้ดับลงแล้ว ส่วนภาคบ่าย ที่เฮลิคอปเตอร์ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงบินขึ้นไปดับไฟนั้น อยู่ในพิกัดในบริเวณใกล้เคียงกัน ทางอุทยานได้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่า จังหวัดเชียงใหม่ ส่งเจ้าหน้าที่เสือไฟลงพื้นที่ไปช่วยดับไฟ หากสามารถเดินทางเข้าไปได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายเข้ามา


ทั้งนี้ จากการสังเกตการณ์ด้วยตาเปล่าจะพบว่า มีหมอกควันจากไฟป่าคลุ้งเต็มยอดดอยในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ส่วนสถานตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่อยู่ใกล้กับอุทยาน พบว่า ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM10 วัดได้ 86 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ยังไม่เกินค่ามาตรฐานที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศ AQI วัดได้ 99 คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง.