บช.ปส. แถลงจับคนไทยร่วมเมียชาวเมียนมา ส่งไอซ์ลอตใหญ่ 30 กก. เร่งสอบขยายผล อีกคดี จับนักข่าวนิตยสาร ร่วมเพื่อนชาวเมียนมา ส่งยาบ้า หมื่นเม็ด รวมของกลางทั้ง 2 คดี ค่า 60 ล้านบาท...
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 พ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติเรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยให้ทุกหน่วยเร่งปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติดเพื่อลดผลกระทบที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนและสังคมโดยรวม พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.ทนัย อภิชาตเสนีย์ ผบก.สกส. นายสิทธิศักดิ์ กัลยาณประดิษฐ์ ผอ.สปป.สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมคดียาเสพติด 2 คดี ผู้ต้องหารวม 4 ราย ของกลางยาไอซ์ 30 กิโลกรัม ยาบ้า 10,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือรวม 6 เครื่อง รวมมูลค่า 60 ล้านบาท
คดีแรกสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 พ.ค. เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายอภิรต คีรีพงศกร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ที่ 3 ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก และนางนัน ที ฟอง (MS.NANN HTEE PHUNG) อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณท่าเรือข้ามแดน ท่าพุทรา ริมน้ำเมย หมู่ที่ 2 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก และบริเวณลานจอดรถห้างเทสโก้ โลตัส 36/8 ถนนประสาทวิถี ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมของกลาง ไอซ์ จำนวน 30 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 30 กิโลกรัม กล่องกระดาษแข็ง ขนาดใหญ่ รวม 3 กล่อง โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง
พล.ต.ท.เรวัช เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายอภิรต ซึ่งเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด จึงให้สายลับพร้อมกับเจ้าหน้าที่อำพรางตัวเข้าไปติดต่อเจรจาซื้อขายยาเสพติดกับผู้ต้องหาดังกล่าว ตกลงซื้อขายไอซ์กัน จำนวน 30 กิโลกรัม นัดส่งมอบกันวันที่ 9 พ.ค. 2559 เมื่อถึงเวลานัดหมาย พบนางนัน ทีมา เดินเข้ามาหาเจ้าหน้าที่และขอตรวจดูเงินค่ายาเสพติด ที่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาแม่สอด จากนั้นได้พาเจ้าหน้าที่มาพบนายอภิรตที่ท่าเรือข้ามแดนท่าพุทราริมแม่น้ำเมย ชายแดนไทย-พม่า เพื่อรับยาไอซ์ เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นของกลางจึงแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนจะนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม
...
พล.ต.ท.เรวัช เปิดเผยต่อว่า จากการสอบสวนทราบว่าทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน โดยจะให้ภรรยาเดินทางมาที่นัดหมายในจุดแรกก่อนเพื่อตรวจนับเงินก่อนจะให้พามารับของอีกทีหนึ่ง โดยทั้งคู่จะได้เงินค่าจ้างครั้งละ 25,000 บาท หากส่งของสำเร็จจะได้รับเพิ่มอีก 75,000 บาท โดยยาดังกล่าวรับมาจากอีกที่หนึ่งซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงสืบสวนยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกัน นำเข้ามาในราชอาณาจักรและมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 บช.ปส. ดำเนินคดี ตามกฎหมาย
คดีที่ 2 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 พ.ค. เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายมูฮัมหมัด ยามิน อายุ 39 ปี สัญชาติเมียนมา และนายซวยยิส สิงห์สองเมือง อายุ 30 ปี สัญชาติไทย ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด โดยสามารถจับกุมได้ที่ร้านกาแฟ บริเวณปั๊มน้ำมัน วงเวียนแม่สอด ถนนสายเอเชีย อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวนประมาณ 10,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
พล.ต.ท.เรวัช เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายมูฮัมหมัด ชาวเมียนมา มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติด เป็นเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดข้ามชาติ จึงติดต่อล่อซื้อขายยาบ้ากัน 5 มัด นัดส่งมอบกัน ที่สถานีบริการน้ำมันดังกล่าว ในวันที่ 9 พ.ค. กระทั่งตามวันเวลานัดหมาย พบผู้ต้องหาทั้ง 2 คน นำยาบ้า จำนวน 5 มัด หรือประมาณ 10,000 เม็ด ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อเข้าจับกุมก่อนนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม
พล.ต.ท.เรวัช กล่าวว่า จากการสอบสวนพบว่า นายซวยยิส เป็นชาวโรฮีนจาและเคยเข้าออกประเทศสหรัฐอเมริกามาแล้วหลายครั้ง เพื่อส่งยาเสพติด นอกจากนี้ยังพบบัตรสื่อมวลชน ประจำนิตยสารแห่งหนึ่ง ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นบัตรจริง โดยผู้ต้องหา รับว่าเสียเงินค่าทำบัตร 1,500 บาท เพื่อไว้แสดงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู เมื่อถูกตรวจค้น โดยทั้งคู่ได้ค่าจ้างคนละ 5,000 บาท ในการส่งยาเสพติด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และแจ้งข้อหาผู้ถูกจับที่ 1 เพิ่มเติมว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.