ตร. เรียกผอ.ร.ร.เชียงรายวิทยาคม เข้าสอบปากคำเพิ่มเติมหลังแจ้งความหมิ่นประมาท 'ศิษย์เก่า' ผู้เปิดโปงเรื่องราว "ครูฝ่ายปกครอง"ทำร้ายและพูดจาหมิ่นประมาทเด็กนักเรียน จน นร.ชาย-หญิง ได้ขึ้นโรงพักให้ ตร.ลงบันทึกเป็นหลักฐาน ล่าสุด ร.ร.พยายามจะเรียก นร.มาสอบปากคำ แต่ จนท.คุ้มครองเด็ก ยื่นมือ ก.ม.คุ้มครองเด็กเข้าช่วย...

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 พ.ค.59 ที่ สภ.เมืองเชียงราย พ.ต.ต.ศุภชัย กันทะสิงห์ สว.สอบสวน สภ.เมืองเชียงราย ได้เรียกนางพิกุล เหง่าตระกูล ผอ.ร.ร.เชียงรายวิทยาคม เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม กรณีเมื่อวันที่ 29 เม.ย.59 นางพิกุล แจ้งความกล่าวหา นายภัทรกฤต ดวงสนิท ศิษย์เก่าของโรงเรียน ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ด้วยการให้ข้อมูลแก่สื่อว่า นายพิทยุตม์ กระทง ครูฝ่ายปกครองของโรงเรียน ทำโทษเด็กรุนแรงเกินกว่าเหตุด้วยการตบหัวและเตะก้น และยังดุด่านักเรียนหญิงด้วยคำหยาบคายจาบจ้วง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย

นางพิกุล กล่าวว่า หลังจากมีข่าวกรณีดังกล่าวออกไป ได้ตั้งคณะกรรมการกลางสอบสวน โดยมีอาจารย์จากทุกฝ่ายของโรงเรียนยกเว้นฝ่ายปกครอง และตัวแทนจาก สพฐ.เขต 1 ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริง มีการสอบครูทุกคนเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 29 เม.ย.59 ไม่พบว่ามีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นในโรงเรียน และไม่เคยมีผู้ปกครอง หรือศิษย์เก่าคนใดเข้ามาร้องเรียนเรื่องดังกล่าว และในบ่ายของวันที่ 5 พ.ค.59 จะได้เรียกนักเรียนชายจำนวน 3 คน ที่เป็นพยานให้กับกลุ่มนักเรียนชายหญิงเข้าแจ้งความว่าถูกนายพิทยุตม์ กระทง หรือครูเอก ทำร้ายร่างกายและใช้วาจาจาบจ้วงดูหมิ่นเหยียดหยามมาสอบปากคำ

...

"กรณีของ น.ส.สายฝน ที่อ้างว่าครูเอกได้ตบหัวและดุด่าด้วยคำหยาบจาบจ้วงเกิดขึ้นตั้งแต่กลางเทอมแรกของปี 2558 ทำไมเพิ่งมาแจ้งเวลานี้ ซึ่งนายภัทรกฤตเองยังเคยเข้าไปถ่ายทำวิดีโอ เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมของโรงเรียนเมื่อปีก่อนด้วย เมื่อเกิดเป็นข่าวนี้ ทำให้ครูเอก เกิดความเครียดมาก เพราะมีผลกระทบถึงครอบครัว และยังไม่พร้อมที่จะพูดคุยเรื่องดังกล่าวกับผู้สื่อข่าว" ผอ.ร.ร.เชียงรายวิทยาคม กล่าว

สำหรับเรื่องดังกล่าวได้มีการโพสต์ในโซเชียลมีเดียไปทั่ว และเมื่อวันที่ 28 เม.ย.59 นายภัทรกฤต ดวงสนิท อายุ 29 ปี ศิษย์เก่า ร.ร.เชียงรายวิทยาคม ออกมาเปิดเผยต่อนักข่าวว่ามีนักเรียนรุ่นน้องชั้น ม.4 - ม.5 ถูกครูทำร้ายร่างกาย เตะ ตบหน้า ดุด่านักเรียนหญิงด้วยคำหยาบคายได้รับความอับอายต้องลาออกกลางเทอม ต่อมาเมื่อวันที่ 4 พ.ค. นายภัทรกฤต ก็ได้พานักเรียน 4-5 คนเข้าแจ้งความตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ให้บันทึกเป็นหลักฐาน และนำเรื่องร้องเรียน รมว.ศึกษา เพื่อตั้งกรรมการสอบวินัยครูเอก ล่าสุดนายภัทรกฤต ได้ปรึกษาเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก ไม่ให้เด็กนักเรียนไปพบครูตามลำพัง ต้องดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กเท่านั้น.