พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกที่สำคัญว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ซึ่งถือเป็นอุดมการณ์ที่สำคัญที่เหล่าข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ จะได้ยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ
วันที่ 5 พฤษภาคม หรือ...“วันฉัตรมงคล”...เป็นอีกหนึ่งวันที่มีความสำคัญต่อพี่น้องชาวไทยทุกคน เพราะเป็นวันที่ระลึกถึงการครบรอบที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับพระบรมราชาภิเษก เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2493
เพื่อเป็นการน้อมนำพระบรมราชโองการขององค์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว มาขับเคลื่อนและสร้างประโยชน์แก่พี่น้องประชาชน ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ “ศอ.บต.” จึงมีเจตนารมณ์ที่สำคัญในการสนองพระบรมราชโองการ คือ...การผสานพลัง พี่น้องข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ ร่วมกันขับเคลื่อนสร้างประโยชน์ต่อพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็น “แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง”
ประชาชนในพื้นที่ 537,814 ครัวเรือน 1,890,433 คน จะต้องมีความสุข การทำงานต่างๆของเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องเป็นไปตามความต้องการของพี่น้องประชาชน การทำงานที่เปี่ยมไปด้วยความซื่อสัตย์...เป็นธรรม ยึดมั่นตามแนวทางพระบรมราชโองการ
กำหนดห้วงเวลาในการทำงานสร้างแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง 150 วัน นับตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม ถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2559 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ ศอ.บต.จะผสานกำลังเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 55,781 คน ประกอบด้วย...ข้าราชการ พนักงานของรัฐ พนักงานท้องถิ่น ลูกจ้าง เฉพาะในฝ่ายพลเรือน
ร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา พัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
...
“การสร้างแผ่นดินธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มต้นที่พี่น้องข้าราชการ...เจ้าหน้าที่รัฐทุกคน สร้างคุณธรรมให้เกิดขึ้นในตนเอง มีการปฏิบัติอยู่ในศีลธรรมอันดี อยู่ในกรอบวินัยการเป็นข้าราชการที่ดี”
ภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการ ศอ.บต. ย้ำว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีทั้งในด้านการครองตน ครองคน ครองงาน...ในส่วนของกระบวนการในการบริหารราชการจะต้องเป็นระบบธรรมาภิบาลอย่างชัดเจน
ต่อมาในส่วนของ “ชุมชน”...“หมู่บ้าน” เจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกับประชาชน สร้างครอบครัวคุณธรรมให้เกิดขึ้น คือ...การสนับสนุนให้สมาชิกแต่ละครอบครับต้องไม่เกี่ยวข้องกับ “ยาเสพติด” มี... “จิตอาสา” และไม่สร้างปัญหาให้กับสังคม
โครงการนี้ ศอ.บต.ร่วมกับ กอ.รมน. ภาค 4 ดำเนินการอยู่ จากการสำรวจเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา...ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถประกาศเป็น “ครอบครัวคุณธรรม”...คิดเป็นร้อยละ 63.4
ซึ่งถ้าเป็นครอบครัวพี่น้องมุสลิม จะเรียกว่า “ครอบครัวฟาดีละห์” และหากเป็นครอบครัวไทยพุทธ จะเรียกว่า “ครอบครัวญาติธรรม”
เราตั้งหวังกันไว้ว่า เกินกว่าร้อยละ 60 ในทุกหมู่บ้าน...ในวันที่ 30 กันยายน 2559 จะเห็นได้ชัดเจนว่า จากความสำเร็จหมู่บ้านชุมชนนั้นหมายถึงความสำเร็จในระดับสังคมใหญ่ ตำบล อำเภอ จังหวัด คือการประกาศผลร่วมเป็น “ตำบลสันติสุข”...“อำเภอสันติสุข” ตามลำดับต่อไป
ลงลึกในรายละเอียด...การร่วมสร้าง “แผ่นดินทอง” ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มด้วยการเสริมสร้างงานอาชีพ พัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เป็นที่ยอมรับว่า...ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เรามีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก พื้นดินมีพืชไร่ พืชสวน เป็นพื้นที่เพาะปลูก 13 ล้านไร่ มีพื้นที่จำนวน 7 อำเภอ...ติดชายฝั่งทะเลอ่าวไทยยาว 139 กิโลเมตร
“นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม มีโบราณสถาน ศาสนสถาน เกจิอาจารย์ดัง ที่ดึงดูดผู้คนมาสักการะ แต่จากสถานการณ์การก่อการร้ายทำให้การพัฒนาความเจริญทำได้ไม่เต็มที่ จำเป็นจะต้องอาศัยพลังการนำจากภาครัฐเป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญ”
เมื่อเป็นเช่นนั้น...การรวมตัวของเจ้าหน้าที่รัฐในครั้งนี้ หากได้ทุ่มเทจริงจัง บวกกับแนวทางนโยบายรัฐบาลก็สามารถเนรมิตพื้นที่นี้ เป็นแผ่นดินทองได้
โดยถือฤกษ์อันเป็นวันมหามงคล “วันฉัตรมงคล”...เพื่อสืบสานอุดมการณ์แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ด้วยการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมตัวกันกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณ
เพื่อแสดงพลังและเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน แสดงถึงความพร้อมในการขับเคลื่อนร่วมกัน
กล่าวถ้อยคำปฏิญาณตนให้ดังกึกก้องทั่วแผ่นดินไทย หนึ่ง... “เราเจ้าหน้าที่ของรัฐมีความพร้อมที่จะขับเคลื่อนทุกกลไกในสังคม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ไปสู่สังคมสันติสุข แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ด้วยความทุ่มเท ตั้งใจ เสียสละ ซื่อสัตย์ สุจริต ให้สมกับการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่ดี”
สอง...“เราเจ้าหน้าที่ของรัฐมีความพร้อมประพฤติปฏิบัติ เพื่อสร้างศรัทธาแก่ประชาชน เป็นพลังขับเคลื่อนร่วมกับประชาชนในการแก้ไขปัญหาและพัฒนา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชน โดยเน้นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน”
สาม...“เราเจ้าหน้าที่ของรัฐยืนยันชัดเจนในความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ปฏิบัติหน้าที่ยึดกฎระเบียบ และสนับสนุนแนวนโยบายรัฐบาลอย่างเคร่งครัด”
...
เพื่อให้การดำเนินงานแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองในจังหวัดชายแดนภาคใต้...สนองตอบแนวคำปฏิญาณ...ปฏิบัติงานให้เห็นเป็นรูปธรรม...เป็นที่พึงพอใจของพี่น้องประชาชนอย่างชัดเจน...
โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ศอ.บต. จึงได้ประกาศให้หน่วยงานราชการ พลเรือน คือ “จังหวัด” และ “อำเภอ” เปิดให้บริการประชาชนเต็มเวลา ไม่หยุดพักกลางวัน
และให้ “ศูนย์ดำรงธรรม” ของ ศอ.บต. จังหวัดและอำเภอ ทั้ง 37 แห่ง เปิดให้บริการประชาชนทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการตลอดระยะเวลา 150 วัน ระหว่างวันที่ 5 พฤษภาคม-1 ตุลาคม 2559
รวมเป็นเปิดทำการมากขึ้นจากปกติ จำนวน 49 วัน
“เพื่อให้ทุกเรื่องราวร้องทุกข์ของพี่น้องประชาชนได้รับการแก้ไขปัญหาด้วยความเร่งเร็วฉับไวสร้างความพึงพอใจพี่น้องประชาชนมากที่สุด และเพื่อให้เป็นไปตามคำปฏิญาณ...การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่พี่น้องประชาชน ศอ.บต.จะร่วมกับผู้นำศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ชี้แจงประชาชนในข้อความจริงตามหลักศาสนา และการอยู่ในพหุสังคม เพื่อให้เกิดความสันติสุข สงบ รักใคร่กลมเกลียวเช่นเดิม”
นับรวมไปถึงการนำหลักศาสนาที่ถูกต้องมาใช้พัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย
“การสร้างแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่จะทำให้ประชาชนอยู่อย่างมีความสุข มีความรักใคร่ สมัครสมานสามัคคี...เส้นทางแห่งความสำเร็จอยู่ท่ามกลางความร่วมมือจากทุกฝ่าย ที่ต้องทำงานทุ่มเท เสียสละ กันอย่างต่อเนื่อง”
“ราษฎร์”... “รัฐ” ร่วมใจ “สันติสุข” จะเกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองแห่งนี้แน่นอน.