เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 พ.ค. เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติงานขุดลอกลำน้ำมูลจากสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 8 (ขอนแก่น) ได้ระดมเรือดูดทรายพร้อมเครื่องจักรเข้าขุดลอกลำน้ำมูลบริเวณบ้านท่าเรือ ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ หลังมีสภาพตื้นเขินบางจุดแห้งขอดจนเห็นสันดอนทรายโผล่จนไม่สามารถสูบขึ้นไปผลิตประปาทางเทศบาลจึงได้ทำเรื่องไปยังกรมเจ้าท่าให้มาดำเนินการขุดลอกลำน้ำมูลดังกล่าว โดยมีเป้าหมายขุดลอกความกว้าง 60 เมตร ระยะทางยาว 2 กิโลเมตร และลึกจากระดับพื้นที่ดินเดิม 2 เมตร ใช้ระยะเวลาในการขุดลอก 120 วัน งบประมาณกว่า 2 ล้านบาทซึ่งหากดำเนินการขุดลอกแล้วเสร็จก็จะสามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้นเกือบ 100,000 ลูกบาศก์เมตร ขณะที่นายไชยา กุสุวรรณ เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการขุดลอกลำน้ำมูล กล่าวว่า โครงการขุดลอกลำน้ำมูลในครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและเกษตรกร
ส่วน จ.นครราชสีมา เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังในเขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา กำลังประสบกับผลกระทบของสถานการณ์ภัยแล้งและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในช่วงนี้ หลายรายต้องลงทุนเป็นเงินกว่า 20,000 บาท เพื่อมาติดตั้งเครื่องปั๊มออกซิเจนให้กับปลากระชังของตัวเอง เนื่องจากปริมาณน้ำภายในเขื่อนที่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์ภัยแล้ง และอากาศที่ร้อนจัดไม่มีการถ่ายเทอากาศเหมือนช่วงปกติ ทำให้ปลากระชังของเกษตรกรหลายรายขาดอากาศตายเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน โดยนายสมพงษ์ วงษ์เบ้า หนึ่งในเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังในเขื่อนลำแชะ กล่าวว่า หากปล่อยไว้อาจจะไม่คุ้มค่าและต้องขาดทุนมากกว่านี้ และเมื่อติดตั้งแล้วก็ยังสามารถที่จะใช้ได้อีกหลายปี

...
ขณะที่ จ.พิษณุโลก นายเฉลิมศักดิ์ ทักษาดิพงษ์ ผู้อำนวยการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ในขณะนี้ว่า น้ำในเขื่อนแควน้อยฯยังเป็นไปตามแผนการจัดการน้ำของกรมชลประทาน การระบายน้ำของเขื่อนแควน้อยฯ ยังอยู่ที่วันละ 1.04 ล้าน ลบ.ม. แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เพิ่มการระบายน้ำออกเป็น 1.9 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากพบว่ามีบางจังหวัดในพื้นที่ราบลุ่มภาคกลางขาดแคลนน้ำสำหรับการผลิตน้ำประปาอุปโภคบริโภค แต่วันนี้ก็ต้องลดการปล่อยน้ำให้เหลือเท่าเดิม ตามแผนการควบคุมน้ำของกรมชลประทาน ซึ่งจะต้องกักเก็บและสำรองน้ำให้สามารถใช้การได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้าน ลบ.ม. ในช่วงรอยต่อระหว่างฤดูแล้งจนถึงฤดูฝนในเดือนกรกฎาคมนี้ และการปล่อยน้ำวันละ 1.04 ล้าน ลบ.ม.นั้น จะทำให้ยังเหลือน้ำใช้ตลอดฤดูแล้งนี้อย่างแน่นอน
ด้าน จ.แพร่ หลังจากที่นายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายก อบจ.แพร่ ได้ระดมรถน้ำเข้าไปฉีดหล่อเลี้ยงต้นลางสาดที่ตำบลสวนเขื่อน จำนวน 500 ไร่ ที่ยืนต้นแห้งตาย เนื่องด้วยประสบปัญหาภัยแล้งมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านจนทำให้ต้นลางสาดทั้งหมดยืนต้นแห้งตายเกือบหมดแม้ว่าพายุฝนจะตกหลายพื้นที่ แต่ที่ตำบลสวนเขื่อนกลับไม่มีฝนตก โดยตอนแรกคิดว่าจะทำวันเสาร์อาทิตย์เพื่อรอฝนบ้าง แต่ฝนก็ยังไม่ตก

นายฌาญณรินทร์ พรมวัง นายกเทศมนตรีตำบลสวนเขื่อน เผยว่า เจ้าของสวนทั้งหมดต่างพอใจและคาดว่าจะมีลางสาดที่พอจะฟื้นมากกว่า 50% ขึ้นไป และปีหน้ายังอาจจะมีลางสาดออกจำหน่ายได้บ้าง แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ยังดี ส่วนการแก้ไขระยะยาวนั้นทางเทศบาลได้ส่งเรื่องไปยังเกษตรจังหวัดแพร่เพื่อหามาตรการในการช่วยเหลือเยียวยา ทางด้านนายปรีชา ด้วงบุญมา หน.ปภ.จ.แพร่ เผยว่า ได้เร่งหามาตรการที่จะช่วยเหลือให้กับประชาชนและได้แก้ไขไปบ้างแล้วบางส่วน คาดว่าภายในสองสามวันนี้จะมีฝนโปรยปรายครอบคลุมทั้งจังหวัด

ที่ จ.พังงา นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ นอภ.ทับปุด พร้อมด้วยนางกุลธารินทร์ โรจนสุรสีห์ ปภ.พังงา นำรถสูบน้ำระยะไกลจากศูนย์ ปภ.เขต 18 ภูเก็ต เข้าช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภค หลังจากประสบปัญหาภัยแล้ง ฝนได้ทิ้งช่วงไปตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยมีนายก อบต.บ่อแสน กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน นำชาวบ้านกว่า 50 คน ช่วยเหลือติดตั้งและวางสายส่งน้ำขนาดใหญ่ในระยะทางกว่า 2.5 กิโลเมตร จากคลองลำไทรมาศ หมู่ 6 ต.ทับปุด อ.ทับปุด ไปยังสระเก็บน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาขนาด 5 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 6 ต.บ่อแสน อ.ทับปุด น้ำแห้งขอดมานานนับเดือนแล้ว ทำให้ประชาชนในตำบลบ่อแสนบางหมู่บ้านกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักซึ่งรถสูบน้ำระยะไกลคันนี้จะส่งน้ำได้ 1.5 คิว/นาที คาดว่าจะเติมน้ำให้เต็มสระภายในเวลา 2 วัน จากนั้นจะเคลื่อนย้ายไปยังจุดอื่นต่อไป.
...