พายุฝนฟ้าคะนองถล่มพื้นที่ปริมณฑล พระนครศรีอยุธยา ลมหอบหลังคาบ้านเรือนประชาชนปลิวไปไกลกว่า 20 เมตร บ้านเรือนพังเสียหายรวม 4 หลัง ทำให้ไฟฟ้าดับหลายอำเภอ ปทุมธานี ฝนถล่มกว่า 2 ชั่วโมง ทำให้ถนนพหลโยธินขาออก หน้ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ จมบาดาล ส่งผลให้รถติดยาวเหยียดกว่า 15 กม. เสาไฟฟ้าโค่นล้มระเนนระนาด 20 ต้น ส่วนกรุงเทพฯ ฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางหลายเขต แต่ระบายน้ำได้ทันไม่มีน้ำท่วมขัง และมีผู้ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิต 2 ราย รายแรก ที่ จ.หนองบัวลำภู คณะกรรมการหมู่บ้านวิ่งหลบฝนเข้าเถียงนาถูกฟ้าผ่าเปรี้ยงดับดิ้น 2 ศพ เจ็บ 3 คน อีกรายหนุ่มมีนบุรี กรุงเทพฯ ถูกฟ้าผ่าระหว่างไปให้อาหารไก่
ฤทธิ์พายุฝนถล่มพื้นที่ภาคกลางบ้านเรือนพังเสียหาย เสาไฟฟ้าล้มระเนนระนาด โดยเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 เม.ย. ที่ จ.ชัยนาท เกิดพายุฝนฟ้า คะนองลมกระโชกแรง ทำให้อาคารจอดรถศูนย์ประสานงานอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาท ถนน 340 ชัยนาท-สุพรรณบุรี ต.สรรคบุรี อ.สรรคบุรี สร้างด้วยโครงเหล็กพังพาบลงมาทับรถยนต์ 4 คัน ได้รับความเสียหาย โดยนายสุชาติ เชิดศักดิ์สกุล หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุลมกระโชกแรงแล้วมีเสียงดัง “โครม” รีบวิ่งออกมาดูพบว่าหลังคาอาคารที่จอดรถเกิดพังลงมา โชคดีที่เป็นช่วงพักกินข้าวไม่มีใครอยู่ในอาคารจอดรถ จึงไม่ได้ใครได้รับบาดเจ็บ
ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ฝนตกหนักนานนับชั่วโมงทำให้บ้านเลขที่ 43 หมู่ 1 ต.คลองน้อย อ.บ้านแพรก เป็นบ้านไม้หลังคาสังกะสี ถูกลมพายุหอบหลังคาปลิวไปตามลมไปติดกับต้นมะพร้าวและมะม่วง ห่างออกไปราว 20 เมตร ข้าวของในบ้านเปียกฝนเสียหายหมด โดยนางวรรณา จำเนียรบุญ อายุ 72 ปี เจ้าของบ้าน เผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนกับเพื่อนบ้านอีก 2 คน นั่งอยู่ใต้ถุนบ้าน เห็นลมพายุพัดยอดไม้เอนลู่อย่างน่ากลัว จากนั้นลมได้หอบหลังคาบ้านปลิวเสียหายทั้งหลัง ค่าเสียหายราว 50,000 บาท
...
ด้านนายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จ.พระนครศรีอยุธยา มีพายุกระหน่ำทั้ง 16 อำเภอ มีบ้านเรือนประชาชนพังเสียหายรวม 4 หลัง ได้แก่ อำเภอบ้านแพรก 1 หลัง เสาไฟฟ้าหน้าวัดโบสถ์หัก 1 ต้น อ.นครหลวง 1 หลัง และ อ.มหาราช 2หลัง และยังทำให้ไฟฟ้าดับหลายอำเภอ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.พระนครศรีอยุธยา ไฟฟ้าดับเป็นเวลานาน โรงพยาบาลต้องใช้เครื่องปั่นสำรองช่วยเหลือดูแลระบบเครื่องมือทางการแพทย์ นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกันหลายรายบนถนนสายเอเชีย ถนนสายอยุธยา-สุพรรณบุรี ถนน 347 และถนน 356 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน
ขณะเดียวกัน เกิดฝนตกหนักทั่วทั้ง จ.ปทุมธานี นานกว่า 2 ชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำท่วมขังถนนพหลโยธินตั้งแต่ปากซอยคลองหลวง 9 ไปจนถึงหน้ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต อ.คลองหลวง ทำให้น้ำท่วมถนนพหลโยธินฝั่งขาออก ระดับน้ำสูงราว 80 ซม. ทำให้รถติดยาวท้ายแถวเข้าเขตดอนเมืองเป็นระยะทางกว่า 15 กิโลเมตร ส่งผลให้การจราจรบนถนนรังสิต-นครนายก ฝั่งมุ่งหน้ารังสิต และถนนปทุมธานี ติดขัดไปด้วย ตำรวจได้ออกมาช่วยเร่งระบายการจราจร และเจ้าหน้าที่เทศบาลเร่งสูบน้ำออกจากผิวถนน
นอกจากนี้ มีเหตุต้นก้ามปูใหญ่ปากซอยเทพกุญชร 1 หมู่ 8 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง ถูกพายุถล่มโค่นทับเพิงริมทางเสียหาย ทำให้นายจำเริญ สวัสดี อายุ 31 ปี นายตั้น ศรีบรรเทา อายุ 61 ปี ช่างก่อสร้างร้านค้าละแวกดังกล่าว รวมทั้ง ด.ช.สองเมือง ศรีบรรเทา อายุ 12 ปี วิ่งไปหลบฝนในเพิงได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลเมืองท่าโขลง นำส่ง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ขณะเดียวกัน เสาไฟฟ้าริมถนนสาย 347 กม.9 ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก ถูกพายุกระหน่ำล้มระเนนระนาด 20 ต้น เสาไฟฟ้ายังล้มศาลาพักผู้โดยสารเสียหาย 1 หลัง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่งผลให้ไฟฟ้าดับใน ต.บางกระดี อ.เมืองปทุมธานี และ อ.สามโคก ทั้งอำเภอ
ที่ กทม. นายสมพงษ์ เวียงแก้ว ผอ.สำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. เผยว่าได้รับรายงานจากศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กทม. เมื่อเวลา 10.00 น. เกิดฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางกระจายพื้นที่เขตลาดกระบัง คลองสามวา หนองจอก มีนบุรี ดอนเมือง สายไหม หลักสี่ จตุจักร ลาดพร้าว บางเขน ปริมาณฝนรวมสูงสุดวัดได้ที่คลองพระยาสุเรนทร์ เขตสายไหม 44 มม. ต่อมาเวลา 14.25 น. เกิดฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางพื้นที่เขตพระนครเกือบทั้งหมด ต่อเนื่องฝั่งธนบุรี กระจายพื้นที่เขตหนองแขม ภาษีเจริญ บางแค บางบอน บางขุนเทียน ทุ่งครุ ตามแนวริมน้ำทั้งหมด และเวลา 15.00 น. พื้นที่ กทม.ตอนล่างเกิดฝนตกเล็กน้อย ต่อเนื่องพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ในพื้นที่ กทม.ยังไม่มีจุดใดเกิดน้ำท่วมขัง หรือมีน้ำรอการระบาย โดย กทม.ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับฝนที่จะตกภายใน 1-2 วัน ตลอด 24 ชม.ตามที่ผู้ว่าฯ กทม. กำชับไว้ ขณะนี้ สนน.ขุดลอกคลองเปิดทางน้ำไหลสำหรับรองรับปริมาณน้ำฝน คืบหน้าไปร้อยละ 78 ส่วนการลอกท่อเพื่อให้น้ำไหลสะดวกมีความคืบหน้าร้อยละ 60
ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.และเลขาธิการ คสช. เป็นห่วงต่อสถานการณ์วาตภัยและฝนตกหนัก สั่งกำชับให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ประสานให้ความช่วยเหลือประชาชนกับหน่วยทหารในพื้นที่ พร้อมติดตามสถานการณ์ หากมีสถานการณ์ที่จำเป็นต้องสนับสนุนกำลังพลและเครื่องมือจากส่วนกลาง กองทัพบกพร้อมสนับสนุนทันที ทั้งนี้ หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ จัดกำลังพลช่วยเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังบริเวณ ม.กรุงเทพ ศูนย์รังสิต กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในพื้นที่เขตประเวศ และเขตวัฒนา กทม. และกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ช่วยเคลื่อนย้ายต้นไม้ที่กีดขวางถนนบริเวณ ซ.ประชาร่วมใจ 48 และ 26 แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา กทม.
...
เย็นวันเดียวกัน ร.ต.อ.ประดิษฐ์ จันทะเพชร์ รอง สว. (สอบสวน) สน.มีนบุรี สอบสวนเหตุคนถูกฟ้าผ่าตายในซอยราษฎร์อุทิศ 58 แขวงทราย–กองดิน เขตมีนบุรี กทม. ที่เกิดเหตุเป็นลานดินกว้างประมาณ 100 ตร.ว. มีเล้าไก่อยู่ใต้ต้นไม้ พบศพนายวิโรจน์ พิมพ์นิไสย์ อายุ 42 ปี สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว กางเกงผ้าร่มขาสั้นสีดำนอนหงายบนพื้น มีรอยไหม้ที่ศีรษะและแผ่นหลังด้านขวา สอบสวนญาติผู้ตายทราบว่า ผู้ตายทำงานฝ่ายตรวจสอบคุณภาพที่บริษัท อีซูซุมอเตอร์ จำกัด ย่านร่มเกล้า ช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้ตายเดินออกจากบ้านพักที่อยู่เยื้องกับจุดพบศพ บอกกับคนในบ้านว่าจะออกไปให้อาหารไก่แล้วหายตัวไป กระทั่งช่วงบ่ายมีฝนตกลงมาเล็กน้อยและมีฟ้าผ่าก่อนจะมีผู้ไปพบศพดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปหาสาเหตุ เพราะต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 02.00 น. พ.ต.ท.กีรติพงษ์ แสนศรี มหาชัย สว. (สอบสวน) สภ.โนนเมือง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ได้รับแจ้งเหตุฟ้าผ่าคนเสียชีวิตในเถียงนาบริเวณหาดภูกระแต หนองน้ำสาธารณะเหนือเขื่อนอุบลรัตน์ บ้านโนนสว่าง ต.โนนเมือง พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.โนนสัง นำกำลังรุดไปสอบสวน พบศพนายอังคาร จันทร์แก่น อายุ 34 ปี และนายธีรยุทธ ไชยศรี อายุ 28 ปี ทั้งคู่เป็นคณะกรรมการหมู่บ้านโนนสว่างถูกฟ้าผ่านอนตายในเถียงนา และมีผู้บาดเจ็บอีก 3 คน เป็นคณะกรรมการหมู่บ้านโนนสว่างเช่นเดียวกันถูกนำส่ง รพ.โนนสัง ไปก่อนแล้ว แพทย์ช่วยเหลือพ้นขีดอันตรายแล้วแต่ยังมีอาการชาตามแขนขา
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคณะกรรมการหมู่บ้านโนนสว่างจัดเตรียมสถานที่จัดกิจกรรมจับปลาการกุศลที่หาดภูกระแตในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ผู้ตายและผู้บาดเจ็บมานอนเฝ้าหาดภูกระแต ป้องกันการลักลอบจับปลา ระหว่างนั้นมีฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทั้งหมดวิ่งเข้าไปหลบฝนในเถียงนา หลังจากนั้นไม่นานเกิดฟ้าผ่าเข้าไปในเถียงนาทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
...
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศว่า เนื่องจากความแตกต่างของมวลอากาศ โดยบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีน เป็นมวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมาปะทะกับอากาศร้อนจัดบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้พื้นที่ตอนบนของประเทศไทยยังมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น มีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม ร้อยเอ็ด ยโสธร ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา หนองบัวลำภู บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด
ขณะที่นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า จากการตรวจสอบเรดาร์พบกลุ่มฝนอยู่ประปราย ส่วนใหญ่อยู่บริเวณซีกตะวันออกของ กทม. และ จ.ปทุมธานี สาเหตุเพราะอิทธิพลบางส่วนจากมวลอากาศเย็นของประเทศจีน เมื่อมาปะทะกับความร้อนสะสมเลยทำให้เกิดอากาศแปรปรวน ไม่ถึงกับเป็นพายุฤดูร้อนเพราะต้องมีความร้อนสะสมถึง 40 องศาเซลเซียส คาดว่าในวันที่ 1 พ.ค.ยังคงมีฝนลักษณะนี้อยู่ เป็นเรื่องดีที่ช่วยทำให้คลายความร้อนลงได้บ้าง เพราะหลังจากนั้นอากาศก็จะกลับมาร้อนตามเดิม คาดการณ์ว่าฤดูร้อนจะสิ้นสุดในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน พ.ค. จากนั้นจะเข้าสู่ฤดูฝน ส่วนอิทธิพลของเอลนินโญคาดว่าจะอ่อนลงแล้ว ทำให้หน้าฝนนี้จะกลับมาเป็นสู่ภาวะปกติ
ที่ จ.ชลบุรี หลังฝนตกหนักในเขตเมืองพัทยานานกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้น้ำระบายไม่ทันเกิดน้ำท่วมบนถนนเลียบทางรถไฟช่วงซอยเขาตาโล ระดับน้ำสูง 50-100 ซม. จนรถราผ่านไม่ได้ ตำรวจต้องปิดการจราจรให้รถเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปิดกันเส้นทางก่อนระบายรถไปยังเส้นทางอื่น ถนนสุขุมวิทพัทยาใต้ และถนนสุขุมวิทเทพประสิทธิ์ มีน้ำท่วมสูงประมาณ 30-50 ซม. ทำให้รถเคลื่อนตัวช้าการจราจรติดยาวหลายกิโลเมตร ส่วนถนนพัทยาสาย 3 แยกมุมอร่อย ซึ่งเป็นจุดที่มีน้ำท่วมขังประจำหากมีฝนตกหนัก เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำและลาดเอียง พบว่ามีน้ำท่วมขังสูงเกือบครึ่งคันรถยนต์ รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ อย่างไรก็ตาม หลังฝนหยุดตกราว 30 นาที น้ำที่ท่วมขังตามท้องถนนไหลลงระบบระบายน้ำเมืองพัทยา จนถนนทุกสายแห้งเข้าสู่ภาวะปกติ
...