พายุฤดูร้อนถล่มเหนือ-อีสาน เชียงราย พะเยาและเชียงใหม่ อ่วมหนัก เจอทั้งฝนและลูกเห็บตก บ้านเรือนเสียหายย่อยยับต้นไม้หักโค่น เสาไฟฟ้าล้มระเนนระนาด ที่ลำปาง อาคารที่พักสนามบินโดนลมหอบหลังคาเปิด ส่วนที่บึงกาฬ พายุกระหน่ำหนัก พินาศทั้ง 8 อำเภอ เช่นเดียวกับอำนาจเจริญ ต้นไม้ทับอาคารโรงเรียน ขณะที่ภัยแล้งยังลามหลายพื้นที่เกิดภาวะขาดแคลนน้ำนานกว่า 4 เดือน แถมอากาศร้อนอบอ้าว อุณหภูมิทะลุ 43 องศาฯ หนองน้ำเหือดแห้งเต่าตายกว่า 100 ตัว ส่วนลางสาดสวนเขื่อน เมืองแพร่ เนื้อที่กว่า 500 ไร่ แห้งยืนต้นตาย

พายุฤดูร้อนพัดถล่มเหนืออีสานหลายจังหวัดเสียหายย่อยยับ โดยเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 เม.ย. นายภูเบศร์ จูละยานนท์ นายอำเภอพญาเม็งราย จ.เชียงราย นำเจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหายจากเหตุพายุฝนพัดกระหน่ำและมีลูกเห็บตก เมื่อกลางดึกวันที่ 28 เม.ย. ในพื้นที่หมู่ 5, 8, 9 และ 13 ต.เม็งราย ส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 100 หลัง ส่วนใหญ่ถูกลมหอบหลังคาบ้านปลิวว่อน เทศบาลตำบลเม็งรายได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้น ส่วนสวนกล้วยกว่า 2,700 ไร่ ที่ขาดน้ำมานาน ได้รับน้ำฝน ทำให้ต้นกล้วยกลับชุ่มชื้นอีกครั้ง เช่นเดียวกับหมอกควันจากไฟป่าก็เบาบางลงไปมาก

จ.พะเยา เกิดพายุฝนและลูกเห็บตกในพื้นที่ ต.เวียง ต.ฝายกวาง ต.น้ำแวน อ.เชียงคำ มีบ้านได้รับความเสียหายจำนวนมาก ส่วนที่ ต.ลอ ต.ทุ่ง-รวงทอง ต.หงส์หิน และ ต.ห้วยยางขาม อ.จุน ต.จำป่าหวาย อ.เมืองพะเยา ต.บ้านถ้ำ และ ต.สว่าง-อารมณ์ หมู่ 1 อ.ดอกคำใต้ ได้รับผลกระทบจากพายุอย่างรุนแรง หลังเกิดเหตุนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผวจ.พะเยา สั่งให้เจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนและทรัพย์สินของราษฎรเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป

...

ส่วนที่ จ.นครสวรรค์ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครสวรรค์ รายงานความเสียหายจากพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำเมื่อเย็นวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา รวม 8 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่เปิน อ.บรรพตพิสัย อ.ท่าตะโก อ.ตากฟ้า อ.ชุมแสง อ.เก้าเลี้ยว อ.ตาคลี อ.ไพศาลี รวม 24 ตำบล 40 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 150 หลังคาเรือน เบื้องต้นจังหวัดได้เร่งสำรวจความเสียหายส่วนใหญ่มีต้นไม้หักโค่น หลังคาบ้านที่มุงด้วยสังกะสีปลิวหายไปกับกระแสลม

เช่นเดียวกับ จ.ลำปาง เกิดเหตุพายุฝนถล่ม อย่างหนัก โดยเฉพาะ อ.ห้างฉัตร ชาวบ้านในต.ปงยางคก ถูกพายุพัดหลังคากระเบื้องปลิวว่อนถึง 13 หมู่บ้าน โดยนายย้าย ฮาวคำฟู นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปงยางคก กล่าวว่า พายุพัดถล่มในครั้งนี้รุนแรงสุดในรอบ 20 ปี ขณะที่นายเรืองยุทธ นิตยานนท์ ผอ.ท่าอากาศยานลำปาง กล่าวว่า

สนามบินลำปางไม่ได้รับความเสียหาย มีเพียงตัวอาคารที่พักผู้โดยสารขาเข้าและขาออก หลังคาเปิดเป็นบางจุด ขณะนี้ได้แก้ไขซ่อมแซมแล้ว แต่ห้องรับรองกำลังอยู่ในระหว่างตกแต่ง เนื่องจากหลังคาเปิดน้ำฝนตกลงมา ทำให้ภายในได้รับความเสียหาย ส่วนเที่ยวบินเป็นไปตามกำหนดเดิม

ที่ จ.เชียงใหม่ ช่วงบ่ายวันเดียวกัน เกิดพายุ ฝนและมีลูกเห็บในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง สอบถามนายพรเทพ เจริญสืบสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ทราบว่าเกิดฝนตกหนักช่วงเวลา 15.30 น. และมีลูกเห็บขนาดประมาณ 1-2 เซนติเมตรจนกองขาวโพลน อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ในส่วนพื้นที่อื่นนอกจากบนดอยอินทนนท์ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีพื้นที่ไหนเกิดความเสียหายจากพายุลูกเห็บตกเช่นกัน

ภาคอีสาน จ.อำนาจเจริญ มีพายุและลมกระโชก แรงใน ต.ดอนเมย อ.เมืองอำนาจเจริญ เป็นเวลานานกว่า 30 นาที ทำให้บ้านเรือนหมู่ 1, 4 และ 5 ต.หนองเมย เสียหายประมาณ 80 หลัง อาคารที่ทำการ อบต.ดอนเมย ได้รับความเสียหาย เสาวิทยุ หัก ต้นไม้ล้มทับอาคาร ส่วน ร.ร.นาจิกพิทยาคม ถูกต้นไม้หักทับหลังคาโรงอาหาร หอศิลปะ ห้องน้ำ และอาคารเรียนชั่วคราว ส่วนต้นมะม่วงป่าในโรงเรียน อายุนับ 100 ปี หักโค่นลงมา เสาไฟฟ้าแรงสูงล้ม ส่งผลให้ไฟฟ้าดับทั้งตำบล

ที่บ้านหนองยวน หมู่ 8 ต.วังหิน อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ นายฐิติวัตน์ บุญคง ประธานสภาเทศบาลตำบลวังหิน นำเจ้าหน้าที่ออกสำรวจบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากพายุฝนพัดกระหน่ำตั้งแต่เย็นวันที่ 28 เม.ย. รวม 5 หมู่บ้านคือหมู่ 5, 6, 7, 8 และหมู่ 11 บ้านเรือนเสียหาย 102 หลัง วัด 1 แห่ง และโรงเรียน 1 แห่ง นายสมรส มากมาย อยู่บ้านเลขที่ 68 บ้านหนองยวน หมู่ 8 และเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 เผยว่า ลมพายุพัดแรงมาก ทำให้บ้านพังเหลือแต่เสา ส่วนฝาบ้าน หลุดปลิวตามลมกว่า 100 เมตร

ส่วน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นายอลงกต วรกีร์ นายอำเภอวารินชำราบ ลงพื้นที่เขต เทศบาลตำบลห้วยขะยุง ให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบความเดือดร้อนจากพายุฝน โดยเฉพาะบ้านเรือนที่ตั้งเรียงรายสองฟากถนนทางหลวงหมายเลข 226 วารินชำราบ-กันทรารมย์ พังเสียหาย 100 หลัง เสาไฟฟ้าหักโค่นกว่า 7 ต้น ปั๊มน้ำมัน ปตท. ตั้งกวงคิมบริการ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากพายุครั้งนี้มีพื้นที่เสียหายรวม 7 ตำบลประกอบด้วย ต.ห้วยขะยุง ศรีไค ธาตุ ท่าลาด บุ่งหวาย สระสมิง และคูเมือง ส่วนที่ อ.เมืองอุบลราชธานี พายุพัดบ้านเลขที่ 88 หมู่ 3 ต.แจระแม จนพังทับนายจวน สมเป็นชาย อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านเสียชีวิต

จ.บึงกาฬ พายุฤดูร้อนพัดถล่มทั้ง 8 อำเภอสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนราษฎร ต้นตีนเป็ด ขนาด 2 คนโอบหักโค่นลงมาเกือบทับตึกหลังคลอด รพ.บึงกาฬ นอกจากนี้ ลมยังพัดต้นไม้ทับเสาไฟฟ้าแรงสูงโค่นล้มถึง 27 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง ขณะที่โทรศัพท์มือถือเครือข่ายต่างๆล่ม น้ำประปาที่สูบขึ้นมาจากแม่น้ำโขงต้องหยุดทำงานไปโดยปริยาย เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าใช้เดินเครื่องสูบน้ำ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลายจังหวัดจะมีฝนตกนอกฤดู แต่อีกหลายพื้นที่ยังคงเผชิญกับสถานการณ์ภัยแล้ง โดยที่ จ.ขอนแก่น เกิดภาวะขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะอำเภอตอนกลางและตอนล่างที่ประสบภัยแล้งมานานกว่า 4 เดือนแล้ว หนำซ้ำในช่วงนี้อากาศร้อนอบอ้าวอุณหภูมิสูงกว่า 43 องศาเซลเซียส ส่วนที่หนองน้ำบ้านหนองโก หมู่ 3 ต.ก้านเหลือง อ.แวงน้อย ขณะนี้น้ำแห้ง ดินแตกระแหง เต่าที่อาศัยอยู่ในหนองน้ำตายไปแล้วกว่า 100 ตัว เพราะทนต่อความแห้งแล้งไม่ไหว นายประเสริฐ อาตมา อายุ 45 ปี เผยว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นว่าเต่าในหนองน้ำแห่งนี้แห้งตาย ปีนี้ถือว่าแล้งที่สุดในรอบ 40 ปี

...

ที่ จ.แพร่ นายฌาญณริฐน์ พรมวัง นายก-เทศมนตรีเทศบาลตำบลสวนเขื่อน อ.เมืองแพร่ ออกสำรวจต้นลางสาดของเกษตรกรในพื้นที่หมู่ 1, 2, 3, 5, 9 และ 10 ต.สวนเขื่อน เนื้อที่กว่า 500 ไร่ พบว่าทุกสวนอยู่สภาพต้นลางสาดยืนต้นแห้งตายเพราะขาดน้ำ โดยนายฌาญณริฐน์เผยว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่ชาวสวนลางสาดประสบความเดือดร้อนอย่างหนัก สาเหตุเพราะน้ำใต้ดินแห้ง แม้น้ำประปาก็ยังใช้ไม่ได้ เมื่อน้ำใต้ดินแห้ง แถมอากาศร้อนจัด ส่งผลให้ต้นลางสาดยืนต้นตายเป็นแถบ แต่ละปีลางสาดสวนเขื่อนขายได้ตกปีละ 10 ล้านบาท แต่ปี หน้านี้จะไม่มีลางสาดออกมาสู้ตลาดอย่างแน่นอน