เด็กผู้หญิงตกเป็นเหยื่อมนุษย์หื่นกามอีกแล้ว คราวนี้ นร.ม.3 ที่พิษณุโลก นอนดูทีวีในบ้านคนเดียว ถูกคนร้ายบุกเข้าไปปลุกปล้ำ คาดหวังขืนใจแต่เด็กตัวใหญ่สู้สุดฤทธิ์เลยถูกบีบคอ น้าไปเจอนอนสลบรีบนำส่ง รพ. แต่เสียชีวิตในที่สุด...
เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 5 เม.ย. พ.ต.ท.นฤนาจ บุญจวง สว.สอบสวน สภ.นครไทย จ.พิษณุโลก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 บก.ภ.จ.พิษณุโลก ว่า มีพลเมืองดี โทรศัพท์แจ้งว่ามีเหตุเด็กหญิงถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.บ่อโพธิ์ และญาติได้นำตัวส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชนครไทย แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สุมิตร มั่นเมือง ผกก.สภ.นครไทย ทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบ
ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ ด.ญ.ผึ้ง(นามสมมติ)อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 สภาพศพสวมเสื้อยืดคอวีแขนสั้นสีแดง มีรอยฉีกขาดที่คอเสื้อด้านขวา ใส่กางเกงขาสั้นลายดอกสีเทา ไม่สวมรองเท้า ไม่สวมเสื้อชั้นในและกางเกงชั้นใน ที่ลำคอด้านหน้ามีรอยคล้ำเป็นเส้นๆ ในแนวราบ เหมือนถูกบีบหรือรัดคอ
ตำรวจสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุพ่อแม่ของ ด.ญ.ผึ้ง (ผู้ตาย) ไปรับจ้างทำงานตั้งแต่เช้า ในบ้านจึงมีผู้ตายนอนดูทีวีอยู่คนเดียว ต่อมาน้าสาวได้โทรศัพท์ไปหา แต่ไม่มีคนรับสาย น้าจึงไปดูที่บ้าน พบว่าหลานสาวนอนหมดสติไม่รู้สึกตัวอยู่บนที่นอนในบ้าน เสื้อเปิดขึ้นเห็นสะดือ ไม่สวมกางเกง นอนขาแยก ไม่หายใจและมีรอยช้ำที่ลำคอ ญาติจึงช่วยกันนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาล และโทรศัพท์แจ้งตำรวจทางสายด่วน 191 ดังกล่าว
ต่อมา จากการชันสูตรศพของแพทย์ที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชนครไทย ไม่พบร่องรอยการถูกข่มขืน
จากนั้น พ.ต.อ.สุมิตร ผกก.สภ.นครไทย และพนักงานสอบสวน พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุนันทา สมอุโมงค์ นวท.สบ 2 กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 และชุดสืบสวน สภ.นครไทย เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร โดยจุดที่ผู้ตาย นอนดูทีวีบริเวณห้องโถงชั้นบน ตรวจพบเพียงเส้นผมและเส้นขนหยิกงอบนที่นอน ส่วนที่พื้นปูนบันไดหน้าบ้านพบรอยเท้า 3-4 รอย จึงตรวจเก็บไว้เป็นหลักฐาน
...
ทั้งนี้ ตำรวจสันนิษฐานว่า ขณะคนร้ายเข้ามาก่อเหตุ ถอดกางเกง หวังปลุกปล้ำ แต่ผู้ตายซึ่งเป็นคนรูปร่างใหญ่ได้ขัดขืนต่อสู้สุดฤทธิ์ คนร้ายจึงบีบคอ หรือใช้สิ่งใดสิ่งหนึ่งรัดคอจนหมดสติ ก่อนจะหลบหนีไปโดยไม่ทันได้ข่มขืน ซึ่งเบื้องต้นตำรวจสงสัยว่าคนร้ายคือเพื่อนบ้านรายหนึ่ง ที่มีบ้านห่างไปประมาณ 40 เมตร และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จึงได้ติดตามตัวมาสอบปากคำว่า มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้หรือไม่.