นอภ.พญาเม็งราย เจาะเลือดคนงานเก็บดินและน้ำของสวนกล้วยจีน 2,700 ไร่ ตรวจสารพิษ รอง ผวจ.เตรียมส่งเกษตร-สธ.เข้าคุมการผลิต สรรพากรเข้าตรวจสอบภาษี หลังจากชาวบ้านร้องทุนใหญ่จีนแย่งสูบน้ำแม่อิงแห้งขอด จนชาวบ้านเดือดร้อน 3 อำเภอ...

เมื่อวันที่ 1 เม.ย.59 นายภูเบศร์ จูละยานนท์ นายอำเภอพญาเม็งราย จ.เชียงราย นำสาธารณสุขอำเภอ เกษตรอำเภอ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจาก รพ.พญาเม็งราย และ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลเม็งราย เดินทางไปที่สวนกล้วยหอมของบริษัท หงต๋า อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด บริเวณริมแม่อิง บ้านสมบูรณ์ดี ม.14 ต.เม็งราย อ.พญาเม็งราย เข้าเก็บตัวอย่างน้ำและดินเพื่อส่งตรวจหาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่อาจตกค้าง ในระบบการปลูกกล้วยหอม และทำการตรวจเลือดแรงงานรับจ้างที่กำลังตัดกล้วยหอมอยู่ในสวน 42 คน ส่ง รพ.พญาเม็งราย ตรวจหาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตามความหวั่นวิตกของชาวบ้านใกล้เคียง

...


ภายในสวนกล้วยมีการขุดเจาะบ่อบาดาล 2 บ่อ


นอภ.พญาเม็งราย กล่าวว่า หากผลการตรวจเลือดลูกจ้างตัดกล้วยและเกษตรกรไม่ได้รับสารเคมีเข้าร่างกาย ก็เป็นประโยชน์ต่อบริษัท แต่ถ้าหากว่าผลการตรวจมีสารเคมีในเลือด ก็ยังไม่อาจสรุปได้ว่าได้รับสารเคมีจากสวนกล้วย จะต้องตรวจอีกเป็นระยะ เพราะลูกจ้างได้กลับไปเพาะปลูกพืชในที่ดินของตนเองเช่นกัน จึงไม่แน่ว่าได้รับสารเคมีจากที่ไหน แต่จะสรุปโดยเร็วตามคำสั่งนายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผวจ.และจะแจ้งผู้มีความชำนาญและเกี่ยวข้องเข้าตรวจสารเคมีในคน แหล่งน้ำ ดิน และผลิตผลกล้วยหอมต่อไป เพื่อประโยชน์ของลูกจ้าง เกษตรกร และประชาชนชาวอำเภอพญาเม็งราย ส่วนการสูบน้ำแม่อิงได้ถอดหัวสูบและยกเลิกการสูบน้ำแล้ว ได้ขุดเจาะบ่อบาดาล 2 บ่อ และกำลังขุดบ่อที่ 3 บ่อที่ 4 และบ่อที่ 5


ด้าน นายประจญ ปรัชญ์สกุล รอง ผวจ.เชียงราย กล่าวว่า ตามที่ชาวบ้านหวั่นวิตกเรื่องสวนกล้วย 2,700 ไร่ของจีนใช้สารเคมี ทำให้เกิดปนเปื้อนในแหล่งแม่น้ำอิง ได้สั่งให้สำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานสาธารณะสุข เข้าไปตรวจสอบในเร็วๆ นี้ เรื่องการขุดเจาะบ่อบาดาลของมาใช้เลี้ยงต้นกล้วย หากเจาะลึกกว่า 15 เมตร จะต้องขออนุญาตจากกรมทรัพยากรธรณี ส่วนเกรงเป็นนอมินีของต่างชาติ ก็จะส่งสรรพกรเข้าตรวจสอบภาษีต่างๆ ตามขั้นตอน และจะมีการเรียกประชุม อ.พญาเม็งราย อ.ขุนตาล ถึงปัญหากลุ่มทุนใหญ่มาใช้พื้นที่ปลูกกล้วยหอมส่งออกประชาชนจะได้อะไร ทางบริษัทจะสร้างประโยชน์ให้กับพื้นที่อย่างไร

ส่วน ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ส่วนสวนกล้วยหอมแห่งที่ 2 จำนวน 700 ไร่ ที่บ้านป่าตาลประชาสันติ หมู่ 12 ต.ป่าตาล อ.ขุนตาล เพียงกำลังอยู่ในขั้นเพาะเนื้อเยื่อ ก็ได้สูบน้ำจากหนองมน ที่เป็นบ่อน้ำสาธารณะใช้ร่วมกันจนแห้งขอดเช่นกัน ทำให้ชาวบ้าน ม.12 ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค หากมีการเจาะบาดาลใช้ในสวนกล้วย จึงกังวลว่า บ่อบาดาลจะแห้ง ชาวบ้าน หมู่ 2 หมู่ 3  หมู่ 4 และ หมู่ 10 ขาดน้ำ เพราะสวนกล้วยอยู่ติดน้ำอิงและอยู่ต่ำกว่าหมู่บ้านดังกล่าว ต้องมีแย่งชิงปริมาณน้ำบาดาลแน่นอน เพราะสวนกล้วยที่เพาะจากเนื้อเยื่อเป็นกล้วยต่างถิ่น ต้องใช้น้ำมากเลี้ยงให้ชุ่มตลอดเวลา และไม่ทนต่อแมลงต้องใช้สารเคมีมาก จึงเกรงสารเคมีจะปนเปื้อนลงแม่น้ำอิง และแหล่งน้ำใกล้เคียง สัตว์น้ำจะสูญพันธุ์ ชาวบ้านได้รับสารพิษเป็นอันตรายต่อชีวิตเหมือนที่เกิดขึ้นแล้วในลาว.

...