ใส่บาตรขออนุโมทนา หมดเวรกรรมคดีเพชร
“ป๋าลอ” นั่งรถเข็นโผล่ร่วมงานบวช “เกรียงไกร เตชะโม่ง” มือฉกเพชรกษัตริย์ไฟซาลแห่งซาอุดีอาระเบีย พร้อมขออโหสิกรรม อย่าได้มีเวรมีกรรมกันในภพหน้า ขอให้ชดใช้กันในชาตินี้ ยอมรับเพชรอาถรรพณ์ จะขอจดจำไปจนวันตาย ในขณะที่ลูกชายอดีตมือฉกเพชรยืนยันบิดาไม่ได้ประกาศจะบวชตลอดชีวิต ย้ำสาเหตุที่บวชเพื่อทดแทนคุณพ่อแม่ ไม่ได้บวชเพื่อล้างอาถรรพณ์
มือฉกเพชรระดับตำนานที่กลายเป็นคดีโด่งดังในอดีต “เกรียงไกร เตชะโม่ง” เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์แล้ว โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 มี.ค. ที่วัดท่ามะเกว๋น ต.แม่ปะ อ.เถิน จ.ลำปาง นายเกรียงไกร เตชะโม่ง อายุ 57 ปี อดีตผู้ต้องหาในคดีโจรกรรมเครื่องเพชร ของกษัตริย์ไฟซาลแห่งซาอุดีอาระเบียซึ่งกลายเป็นข่าวโด่งดังเมื่อ 27 ปีก่อน ได้เข้าพิธีอุปสมบท มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านไปร่วมงานนับร้อยคน โดยพิธีบวชเริ่มจากนายเกรียงไกรในชุดนาคพร้อมญาติเดินทางด้วยรถกระบะออกจากบ้านไปยังวัดท่ามะเกว๋นที่อยู่ละแวกใกล้กัน เพื่อประกอบพิธีอุปสมบท โดยระหว่างนั้นนายชลอ เกิดเทศ หรือ “พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ” อดีต ผบช.ประจำกรมตำรวจ นายตำรวจมือปราบ เดินทางไปร่วมงานโดยนายชลอนั่งรถเบนซ์รุ่นอี 200 สีขาว ทะเบียน ฆฆ 903 กรุงเทพมหานคร มี น.ส.กุมาริกา เกิดเทศ ลูกสาว คนเล็กเป็นคนขับ
ทันทีที่เดินทางไปถึงนายชลอได้ลงจากรถเบนซ์ขึ้นรถเข็นเข้าไปในบริเวณโบสถ์ เมื่อนายเกรียงไกรทราบว่านายชลอมาร่วมงานบวชด้วย รีบลุก ออกจากโบสถ์กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปต้อนรับเข้าจับไม้จับมือพร้อมพูดว่า “ผมดีใจที่พี่ไม่ลืมผม อุตส่าห์ มาร่วมงานบวชของผม” ในขณะที่นายชลอกล่าวตอบว่า “จะได้หมดทุกข์หมดโศกกันเสียที เพชรอาถรรพณ์แห่งกษัตริย์ไฟซาลที่จะจดจำไปจนชีวิตจะหาไม่” จากนั้นสองฝ่ายสอบถามถึงสารทุกข์สุขดิบกัน โดยบางช่วงนายชลอหันมาพูดกับผู้สื่อข่าวว่าได้ติดต่อกับนายเกรียงไกรมาตลอด ไม่โกรธกัน เข้าใจกันและรักกัน ซึ่งภายหลังพูดคุยกันอยู่พักใหญ่ ญาติได้พานายเกรียงไกรแห่ไปรอบโบสถ์ 3 รอบ ในขณะที่นายชลอนั่งรถเข็นตามขบวนแห่นาค ก่อนจะเข้าโบสถ์ประกอบพิธีอุปสมบท มีพระครูสิริพัฒนากิจพิศาล รองเจ้าคณะอำเภอเถิน เป็นพระอุปัชฌาย์
...
จากนั้นพระเกรียงไกร เตชะโม่ง ซึ่งได้ฉายาว่า “วชิรญาโณ”แปลว่า “ผู้มีญาณแกร่งดุจเพชร” ได้ออกรับบิณฑบาตจากญาติโยม โดยนายชลอ กล่าวระหว่างใส่บาตรว่า “ขออนุโมทนา ความผิดพลาดต่อกันที่มีแต่ครั้งก่อน ตลอดจนผู้ร่วมชะตากรรม จงได้อโหสิกรรมแก่กัน อย่าได้มีเวรมีกรรมกันไปในภพหน้า ขอให้ชดใช้กันเพียงชาตินี้ด้วยเทอญ” และก่อนที่นายชลอจะเดินทางกลับยังได้กล่าวกับพระเกรียงไกรเพียงสั้นๆว่า “ขอให้พระเกรียงไกรบวช อยู่วัดตลอดชีวิตเถอะ เขาพบกับแสงส่องธรรม หมดเวรกรรมกันเสียที” อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าภายในงานบวชไม่มีผู้นำท้องถิ่นไปร่วมงาน มีเพียงญาติพี่น้องและตำรวจที่ไปคอยดูแลความปลอดภัยให้กับนายชลอเท่านั้น นอกจากนี้ ระหว่างพิธียังมีชายวัยรุ่นทราบภายหลังว่าเป็นลูกชายของพระเกรียงไกรเดินเข้ามาพบสื่อมวลชนชี้แจงว่าพระเกรียงไกรไม่ได้บวชตลอดชีวิต ส่วนจะสึกวันไหนยังไม่ระบุเป็นการบวชเพื่อทดแทนพระคุณบิดามารดา ไม่ได้บวชเพื่อล้างอาถรรพณ์เพชรซาอุฯตามที่เป็นข่าว