แล้งรุมเร้าปีนี้ทำให้ระดับน้ำในเขื่อนสิริกิติ์เหลือน้อยที่สุดในรอบ 40 ปี เพียง 1,442.27 ล้านลูกบาศก์เมตร ด้าน ผวจ.อุตรดิตถ์ ประกาศภัยแล้ง 2 อำเภอ ส่วนอีก 7 อำเภอเฝ้าระวัง เร่งสั่งหน่วยงานให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน...

เมื่อวันที่ 3 มี.ค.59 สถานการณ์น้ำของเขื่อนสิริกิติ์จังหวัดอุตรดิตถ์ที่เป็นเขื่อนใหญ่แห่งที่สองของประเทศ รองจากเขื่อนภูมิพลจังหวัดตากพบว่า มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำฯเท่ากับ 4,292.27 ล้านลูกบาศก์เมตรหรือ 45.13 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่วันเดียวกันเมื่อปีที่แล้วมีปริมาณน้ำ 5,486.66 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 57.69 เปอร์เซ็นต์ และมีปริมาณน้ำที่พร้อมใช้งานเพียง 1,442.27 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 21.66 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น มีปริมาณน้ำในอ่างน้อยกว่าวันเดียวกันของเมื่อปีที่แล้วถึง 1,194.39 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยในวันนี้มีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนสิริกิติ์เท่ากับ 2.35 ล้านลูกบาศก์เมตร และทางเขื่อนสิริกิติ์มีแผนปล่อยน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค รวมถึงการเลี้ยงปลาในกระชังในช่วงนี้ตั้งแต่วันที่ 1-6 มีนาคม เป็นวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

...


นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ในปีนี้มีน้อยกว่าปีที่ผ่านมามาก จึงขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้ใช้น้ำอย่างประหยัดและคุ้มค่า สำหรับพี่น้องเกษตรกรก็ขอความร่วมมือให้ปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทนและงดการทำนาปรังโดยเด็ดขาด ขณะนี้ทางจังหวัดอุตรดิตถ์ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว 2 อำเภอ และยังต้องเฝ้าระวังอีก 7 อำเภอ


ด้านของน้ำอุปโภคบริโภคทางจังหวัด ได้ให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ออกไปสำรวจตรวจสอบพื้นที่ร่วมกับทางอำเภอแล้ว บางแห่งก็ได้ทำจุดกักเก็บน้ำไว้เช่นที่อำเภอทองแสนขันและอำเภอพิชัย และก็จะเร่งใช้งบประมาณในการช่วยเหลือในเชิงป้องกันจัดทำเขื่อนยกระดับน้ำ เพื่อให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคตอนนี้ทางจังหวัดอุตรดิตถ์ได้มอบทีมประเทศไทยในระดับตำบลลงไปทำเวทีเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนได้ทราบ ว่าสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้น่าจะมีความรุนแรงมากขึ้น เพราะฉะนั้นเราจะเร่งรณรงค์ขอความร่วมมือในการปลูกพืชใช้น้ำมากโดยเฉพาะข้าวนาปรังโดยเด็ดขาด