(เครดิตภาพจากหน่วยกู้ภัยสองรวมใจ)
พรานเฒ่าที่แพร่ วาง ‘จั่นห้าว’ ไว้ดักยิงหมูป่าที่ลงหากินในไร่ข้าวโพด พรานปลาไม่รู้ เอาแหไปทอดในสระใกล้ๆ ดวงถึงฆาตเดินสะดุดเชือกที่ผูกไกปืนไว้ ลั่นโป้งลูกปรายเข้าเต็มแผ่นหลัง 3 เม็ด ตายคาที่...
เมื่อวันที่ 2 มี.ค.59 ร.ต.อ.สมคิด คำเอื้อ รอง สว.สืบสวน สภ.สอง จ.แพร่ ได้รับแจ้งว่า พบศพคนตายบริเวณป่าละเมาะติดกับไร่ข้าวโพด บ้านกลาง หมู่ 10 ต.บ้านกลาง อ.สอง จ.แพร่ จึงร่วมกับ พ.ต.อ.ชลธิต ชัชวาล ผกก.สภ.สอง หน่วยกู้ภัย แพทย์จากโรงพยาบาลสอง และตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานจังหวัดแพร่ รุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุ พบศพชายสูงอายุ ทราบชื่อต่อมาคือ นายศรีวุฒิ ใจเดียว อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 298 หมู่ 10 ต.บ้านกลาง อ.สอง จ.แพร่ สภาพศพสวมกางเกงใน และเสื้อยืดสีเทา นอนคว่ำหน้าอยู่ แพทย์ตรวจเบื้องต้น พบบริเวณแผ่นหลังมีรอยกระสุนปืน 3 นัด ฝังใน 1 นัด กับที่ตะโพกขวาและขาขวา มีรอยกระสุนทะลุอีก 2 แห่ง
ตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบกองเสื้อผ้า กางเกงขายาวถอดวางอยู่ ห่างจากศพประมาณ 3 เมตรเป็นสระน้ำ มีแหจมอยู่ในน้ำ 1 ปาก ห่างไปอีกประมาณ 10 เมตร พบอาวุธไม่ทราบชนิด ลักษณะเป็นเหล็กโค้งงอ มีเชือกและมีรูใส่กระสุนปืนลูกกลมๆ มีไกเหนี่ยวผูกกับสายเชือก มัดอยู่กับโคนต้นไม้ 1 อัน (จั่นห้าว) จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
...
จากการสอบสวน นายนิพนธ์ เสาระวะ ชาวบ้านที่ออกไปหาของป่า ให้การว่า ขณะเดินเลาะมาตามข้างไร่ข้าวโพด ถึงที่เกิดเหตุก็พบว่ามีคนตาย จึงได้แจ้งตำรวจ
ต่อมาเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน นายหน่อ ใจเงื้อม อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 274/1 หมู่ 10 ต.บ้านกลาง อ.สอง จ.แพร่ ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน และรับสารภาพว่า ปืนดักยิงสัตว์หรือจั่นห้าวดังกล่าวเป็นของตน ทำขึ้นเพื่อเอาไว้ดักยิงหมูป่าที่ลงมากินข้าวโพดในไร่ เป็นปืนที่ใส่กระสุนตะกั่วลูกกลมครั้งละ 7-8 เม็ด ใช้สายโยงมัดไว้กับไกปืน เมื่อหมูป่าวิ่งเข้ามาชนสายเชือก ไกปืนก็จะลั่นกระสุนใส่หมูป่า แต่ปรากฏว่าผู้ตายมาสะดุดสายเชือกเสียก่อน
จากนั้น พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายหน่อไปดำเนินคดีในข้อหามีอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ไม่มีใบอนุญาตไว้ในครอบครอง และกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย.