สภาพปัญหาการจราจรในกรุงเทพมหานครเป็นปัญหาที่หมักหมมกันมานาน
สาเหตุหลักเกิดจากสภาพผังเมืองที่ไม่ได้คิดวางแผนกันมาแต่ก่อน ปริมาณจำนวนรถที่เพิ่มขึ้นทุกวันไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และความหย่อนยานของตำรวจในการบังคับใช้กฎหมาย
หลายหน่วยงานพยายามจะช่วยกันแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นความพยายามสร้างทางเลือกในการเดินทางด้วยพาหนะอื่น รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน รถโดยสาร ตัดถนนเพิ่ม ปรับกายภาพทางวิศวกรรมจราจร เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถใช้รถใช้ถนนได้เต็มศักยภาพมากขึ้น
เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจสภาพปัญหาที่พยายามแก้ไขแล้ว
แต่ปัญหาที่ถูกด่าคือไม่ทำ
เพราะมีชาวบ้านอีกมากที่ยังได้รับความเดือดร้อนกับความไม่พยายาม ปล่อยปละละเลย ไม่ทำอะไรเลยของตำรวจที่รับผิดชอบงานจราจร ไม่คิดแก้ไขปัญหาในหน้าที่ตำรวจคือ การบังคับใช้กฎหมาย
ถนนวิภาวดี-รังสิต ทั้งขาเข้าและขาออก ช่วง 5 แยกลาดพร้าว เป็นอีกจุดที่มีปัญหาจราจรติดขัดซ้ำซาก มีผู้ได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ทั้งเช้า-เย็น รถติดหนักมากขึ้นทุกวัน
ปัญหาเกิดจากวินัยของผู้ขับขี่ ไม่สนใจกฎหมายจราจร ขับลงมาทางด่วน มาทีหลังอยากไปก่อน แทรกได้แทรกเลย ปาดไปปาดมา ช่องทางการจราจรถูกบล็อกไปไม่ได้ ทุกคนแย่งกันออกขวาสุด ไปปาดเข้าใกล้ๆทางเบี่ยงตรงช่วงเลี้ยวซ้ายไปลาดพร้าวกับไปสะพานควาย ที่มีสะพานข้ามแยกลาดพร้าวไปถนนวิภาวดีฯ
ไม่ค่อยเห็นตำรวจจราจร
ผู้ปกครองใช้เส้นทางประจำบ่นว่า บางวันออกจากบ้านแต่เช้า และกลับช่วงเย็นๆ มาติดตรงนี้จุดเดียวเป็นชั่วโมง เห็นตำรวจจราจรมายืนๆ ถ่ายรูปแล้วก็ไป ไม่เห็นสนใจรถที่ติดหนึบอยู่ตรงหน้า
แทนที่จะยืนควบคุมให้ผู้ขับขี่ให้เป็นไปตามกฎจราจร
ถ้ามีตำรวจเพียงนายเดียวก็สามารถแก้ปัญหาแต่ละจุดได้บ้างไม่มากก็น้อย
ไม่เข้าใจทำไมตำรวจที่รับผิดชอบไม่คิดช่วยแก้ปัญหา หรือปล่อยให้เป็นหน้าที่หน่วยงานไหน
ตำรวจจราจรวิภาวดี ไม่ยอมทำอะไร แบบนี้ทุกข์ยากก็ตกสู่ชาวบ้านตาดำๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ตอนที่ตั้งด่านจับปรับ ควันดำ–วัดแอลกอฮอล์ มีกำลังตำรวจ แต่งานบริการประชาชนไม่สนใจ
ทั้งที่เป็นภาพลักษณ์ที่ดีของตำรวจ
ขอฝาก พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ช่วยเข้าไปตรวจสอบความเดือดร้อนชาวบ้าน โครงการจราจรที่ว่า “ฝ่าฝืนกฎ ไร้วินัย ไม่ปลอดภัยถูกจับแน่” จะเห็นผลได้อย่างไร
ถ้าไม่มีกำลังตำรวจลงพื้นที่.