หนุ่มชาวสวนเมืองจันท์ แห่ผลไม้เป็นขันหมาก มาขอสาวชาวนากำแพงเพชรแต่งงาน ส่วนบ้านเจ้าสาวใช้ช่อรวงทองแทนสร้อยทองกั้นประตูเงินประตูทอง ใช้ฟ่อนฟางข้าวแทนเก้าอี้รับแขก อาหารเป็นมังสวิรัติ ข้าวปลูกเอง บรรยากาศแบบบ้านๆ ฟินเว่อร์...
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ม.ค. 59 ผู้สื่อข่าวได้ไปที่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 13 ต.โพธิ์ทอง อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร หลังจาก นายสำลี กับ นางทองมาก สารนอก เจ้าของบ้านได้จัดงานแต่งงานให้กับ น.ส.สิริพันธ์ หรือ น้องอุ๊ สารนอก อายุ 35 ปี บุตรสาว กับ นายสุธีร์ ปรีชาวุฒ อายุ 35 ปีเท่ากัน เจ้าบ่าวชาวจันทบุรี ท่ามกลางแขกเหรื่อที่แต่งกายด้วยชุดม่อฮ่อมมาร่วมงาน
สำหรับเจ้าบ่าว นายสุธีร์ เป็นชาว อ.ขลุง จ.จันทบุรี มีอาชีพทำสวนผลไม้ ได้ยกขบวนขันหมากซึ่งเป็นญาติพี่น้องและเพื่อนๆ จาก จ.จันทบุรี แต่งกายสวมหมวกงอบมาแบบบ้านๆ เช่นกัน โดยในขบวนขันหมาก แต่ละคนถือตะกร้า กระจาดใส่ผลไม้สารพัดชนิดของ จ.จันทบุรี มาด้วยจำนวนมาก ผิดกับขบวนขันหมากทั่วๆ ไปที่เป็นขนม หรือ เป็ด ไก่ ปลา และเหล้า
...
เมื่อมาถึงบ้านเจ้าสาวมีการกั้นประตูเงินประตูทองตามประเพณี แต่ฝ่ายเจ้าสาวแทนที่จะใช้สร้อยคอทองคำ หรือเข็มขัดนาก แต่กลับใช้ช่อรวงทองหรือรวงข้าวเวสสันตะระ ผูกกับไม้ 4 อัน กั้นเป็นประตูเงินและประตูทองแทน ซึ่งมีความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ ความเจริญงอกงาม มีลูกหลานเต็มบ้าน เพราะช่อรวงข้าวเวสสันตะระมีเมล็ดข้าวเป็นรวงมากกว่าข้าวชนิดอื่นๆ
ส่วนภายในลานบ้านจัดตกแต่งด้วยต้นผักที่ปลูกเอง เก้าอี้ใช้ฟ่อนฟางวางเรียงรายแล้วใช้ผ้าขาวปูทับให้แขกเหรื่อนั่งตามสบาย ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งก็ถ่ายตามท้องทุ่งนาแต่งกายแบบชาวสวนชาวนา บรรยากาศโรแมนติกไม่เหมือนงานอื่น อาหารเป็นพืชผักอินทรีย์ที่ปลูกเอง และเพื่อนๆ ตามต่างจังหวัดนำมาช่วย อาหารทุกอย่างเป็นอาหารแบบพื้นบ้านและเป็นมังสวิรัติ ส่วนข้าวที่หุงเลี้ยงแขกก็เป็นข้าวที่ปลูกเอง ทั้งข้าวหอมมะลิ 105 ข้าวหอมมะลิแดง ข้าวเวสสันตะระ และข้าวไรซ์เบอร์รี่ เช่นเดียวกับขนมหวานหลากหลายเป็นขนมพื้นบ้านล้วนๆ แม้แต่ที่นอนที่จัดไว้ให้เพื่อนที่มานอน ก็ใช้ฟางปูในท้องนาแล้วกางเต็นท์นอนกัน
ขณะที่คู่บ่าวสาว ทั้งคู่แต่งกายชุดธรรมดาๆ ด้วยผ้าฝ้ายพื้นเมือง ย้อมครามเป็นสีธรรมชาติดูบ้านๆ น่ารัก จากนั้นก็มีการเปิดสินสอด ปรากฏว่าฝ่ายชายใช้โฉนดที่ดินในเขต อ.ขลุง เนื้อที่ 1 ไร่ 65 ตางรางวา เป็นสินสอดและเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง ต่อด้วยพิธีบายศรีสู่ขวัญคู่บ่าวสาวแบบประเพณีชาวอีสาน เนื่องจากพ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาวย้ายถิ่นฐานมาจากภาคอีสาน จากนั้นจึงเปิดให้ญาติพี่น้องได้ผูกข้อมืออวยพรบนพื้นดินหน้าบ้าน ปูด้วยฟางข้าวทำเป็นเวทีให้คู่บ่าวสาวรับพร ส่วนของชำร่วยงานนี้เป็นกระบอกพลาสติกสูงขนาด 20 ซม. ข้างในใส่ข้าวสาร 3 ชนิดไว้เต็ม แจกให้แขกนำไปหุงรับประทานได้
ทั้งนี้ เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้เปิดเผยถึงที่มาของความรัก และการแต่งงานในวันนี้ว่า เริ่มต้นรู้จักกันในการเข้าอบรมทายาทเกษตรรุ่นแรก ที่จัดโดย ธกส. ซึ่งในรุ่นนั้นมีทายาทเกษตรกรเข้าอบรมจำนวนมาก จากนั้นก็ติดต่อกันเรื่อยมา เพราะนิสัยและแนวคิดเหมือนกัน คืออยู่อย่างพอเพียง ปลูกทุกอย่างที่กินได้และกินทุกอย่างที่ปลูกไว้ โดยพืชผลทุกชนิดที่ปลูกต้องปลอดสารพิษ เป็นพืชผักผลไม้ที่ใช้สารอินทรีย์ทั้งสิ้น จนในที่สุดก็ตัดสินใจแต่งงานกันและใช้พิธีแต่งงานแบบบ้านๆ ง่ายๆ ไม่หรูหราฟุ่มเฟือยแต่ถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง โดยมีเพื่อนๆ กลุ่มอินทรีย์เกษตรจากหลายจังหวัดมาร่วมงาน ทุกอย่างไม่ต้องซื้อหา เพื่อนๆ นำมาช่วยทั้งหมด บวกกับของที่บ้านมี จึงกลายเป็นงานแต่งงานที่ไม่เหมือนที่อื่นๆ.
...