เจ้าของกระชังปลาที่ อ.ร้องกวาง จ.แพร่ เร่งเก็บปลาที่น็อกอากาศเย็นเร็วลอยน้ำตายเกลื่อนมากกว่าหมื่นกิโลกรัม ออกมาจำหน่ายราคาถูก หลังสภาพอากาศแปรปรวน ทั้งฝนตกและหนาวเย็นแบบฉับพลัน ด้าน ผวจ.ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.58 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำแม่ถาง ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 14 ต.บ้านเวียง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำที่มีเกษตรกรทำการเลี้ยงปลาในกระชังที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดแพร่ ซึ่งทราบว่ามีปลาตายเกลื่อนในกระชัง นายทักษิณ พื้นงาม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 14 ต.บ้านเวียง และเป็นหนึ่งในเจ้าของกระชังปลา จำนวน 21 เจ้า ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูการเก็บปลาในกระชังของชาวบ้านที่เลี้ยงปลา ซึ่งพบว่า ปลาในกระชังของแต่ละคนนั้น ตายเกลื่อนลอยขึ้นเหนือน้ำเป็นจำนวนมาก โดยปลาส่วนใหญ่เป็นปลากดคัง
นายทักษิณ พื้นงาม ผู้ใหญ่บ้านเล่าว่า สาเหตุที่ทำให้ปลาลอยน้ำตายกะทันหันครั้งนี้ สืบเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงกะทันหัน และเมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.58) ตลอดทั้งวันอากาศปิดมืดมิดไม่มีแสงแดดเลย ซึ่งตอนกลางดึกที่ผ่านมา ตนก็ได้เข้าไปเฝ้ากระชังของตนที่มีอยู่ 20 บ่อ และต้องเพิ่มออกซิเจนในบ่อ เพราะรู้ว่าปลาต้องตาย แต่ก็เอาไม่อยู่ ตนได้โทรศัพท์ไปแจ้งชาวบ้านที่เป็นเจ้าของแต่ละกระชังเพื่อให้เข้ามาดูแลและเพิ่มออกซิเจนให้ปลา จนถึงเช้ามืดวันนี้ก็พบว่าปลาก็ลอยน้ำตายเกลื่อนเต็มบ่อทุกบ่อและทุกกระชัง
...
นายทักษิณ เผยอีกว่า ปลาที่เลี้ยงในกระชังทุกปีก็จะมีตายเป็นปกติ แต่ไม่มากมายเช่นปีที่แล้ว ซึ่งตายไม่ถึง 100 กิโลกรัม แต่ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ไม่เคยเกิด บางบ่อตายทั้งบ่อเลยก็มี คาดว่าปีนี้จะส่งผลให้ขาดทุนไปมากกว่า 70% ปกติเมื่อจับขายก็จะขายได้ที่กิโลกรัมละ 140 บาท ถึง 150 บาท แต่ปลาที่ตายครั้งนี้เจ้าของต้องรีบเก็บมาขายถูกลง เพราะเกรงจะเน่า ต้องขายให้หมดในวันนี้ เพียงกิโลกรัมละ 50-60 บาท ส่วนปลากดคังตัวใหญ่ก็จะขายที่กิโลกรัมละ 80 บาท ความเสียหายครั้งนี้คาดว่าประมาณ 1 ล้านบาทขึ้นไป
ส่วนนางขันทอง เศวตร์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.2 ต.บ้านเวียง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ เจ้าของกระชังที่ใหญ่กว่าคนอื่น มีอยู่เกือบ 30 บ่อ เผยว่า บ่อกระชังปลาของตนเสียหายมากกว่าเจ้าอื่น ซึ่งทยอยเอาออกไปตั้งแต่เมื่อคืน ชั่งได้แล้ว 2,400 กิโลกรัม และที่กำลังเก็บที่เหลืออีก คาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3,000 กิโลกรัม ส่วนของเจ้าอื่นๆ ก็ไม่ต่ำกว่า 1,000 กิโลกรัม อย่างแน่นอน
ทางด้านนายพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เผยว่า ได้รับรายงานมาเบื้องต้นแล้ว และได้สั่งการให้ทางท้องถิ่น และอำเภอเข้าไปสำรวจเพื่อให้การช่วยเหลือ สำหรับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบและได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสามวันที่ผ่านมาเกิดฝนตกทั้งวัน กินบริเวณรอบจังหวัดแพร่ และมีสภาพอากาศปิดไม่มีแสงแดด อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว ตอนเช้าหนาวจัด ซึ่งทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยได้รายงานว่า บนยอดดอยบ้านแม่ลัว อำเภอเมืองแพร่ เมื่อเช้ามืดวันนี้อยู่ที่ 8 องศาฯ และอากาศก็เริ่มหนาวเย็นลง คาดว่าปีนี้จะหนาวสุดๆ ในช่วงปลายเดือนธันวาคม