พาไปฟังความจริงเรื่อง ‘คุณยายฮานาโกะ’ ช้างไทยหนึ่งเดียวในญี่ปุ่น ทายาทตระกูลดังที่ จ.ตาก เผยเดิมชื่อ ‘พังคชา’ พ่อส่งไปญี่ปุ่นตั้งแต่อายุ 2 ปี เพื่อเป็นของขวัญให้เด็กๆ ญี่ปุ่นที่ประเทศเพิ่งแพ้สงคราม บอกอยู่ที่โตเกียวสบายที่สุดแล้ว...

จากกรณีสมาชิกเฟซบุ๊ก Apple Rinraphat ได้โพสต์ข้อความเล่าถึงสภาพความเป็นอยู่ของช้างฮานาโกะ หลังจากที่มีโอกาสได้ไปที่สวนสัตว์ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พร้อมเปิดเผยว่า ฮานาโกะจำคนไทยได้ จำภาษาไทยได้ วอนขอให้คนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น สละเวลาแวะไปเยี่ยมเยียนฮานาโกะบ้าง พร้อมระบุว่าคุณยายฮานาโกะที่อายุเกือบ 70 ปี พยายามเอางวงยื่นออกมา และพยายามจะแตะมือที่ยื่นไปหา เห็นแค่นี้น้ำตาไหลพรากไม่หยุดเลย 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากฮานาโกะ เป็นช้างไทยที่เจ้าของเดิมมีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.ตาก ดังนั้น เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.58 ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบทายาทเจ้าของช้าง คือคุณชินเวศ สารสาส หรือคุณไข่ ที่บ้านพักใน จ.ตาก เพื่อสอบถามความจริงเกี่ยวกับเรื่องช้างไทย ทำไมถึงไปอยู่ที่ญี่ปุ่น

คุณไข่ เปิดเผยว่า "ช้างฮานาโกะตัวนี้เป็นช้างเพศเมีย เลี้ยงไว้อยู่กับบ้าน พออายุได้ 2 ปี คุณพ่อ (ร.อ.สมหวัง สารสาส) ก็เห็นว่าญี่ปุ่นแพ้สงครามโลก มีเด็กโศกเศร้าเยอะมาก เพราะกำพร้า ก็เลยเอาช้างตัวนี้ที่เลี้ยงไว้ ชื่อเดิม ชื่อ พังคชา ก็เลยเอาไปให้ญี่ปุ่น เอาไปให้ด้วยทุนส่วนตัวของคุณพ่อเอง ใส่เรือไปขึ้นที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อช้างอายุ 2 ปี และจากวันนั้นถึงวันนี้ 67 ปีมาแล้ว ซึ่งผมยังไม่เกิดด้วยซ้ำ"

ทายาทเจ้าของช้างตัวจริง กล่าวต่อว่า "เป็นห่วงเด็กญี่ปุ่น สงสาร อยากให้กำลังใจ เพราะว่าเขาโศกเศร้าจากการสูญเสียพ่อแม่ ในสวนสัตว์ญี่ปุ่นตอนนั้นไม่มีช้าง เพราะประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ไม่มีช้าง ช้างที่มีในสวนสัตว์ก็ตายจากสงครามหมด พอส่งฮานาโกะไป เขาก็ตื่นเต้นดีใจมากเพราะเป็นช้างตัวเดียว เด็กๆ ก็จะไปแต่สวนสัตว์ ไปดูฮานาโกะกัน จึงผูกพันกับคนญี่ปุ่นมาก เพราะว่าเวลาเศร้าโศกสิ่งเดียวที่จะทำให้เพลิดเพลินได้ก็คือพาลูกหลานเด็กๆ ไปดูสัตว์ ทุกปีมีการจัดวันเกิดให้ฮานาโกะ ผมไปร่วมมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ติดต่อกัน 2 ปี ทางสวนสัตว์ได้จัดงานวันเกิดให้ฮานาโกะทุกปี ประมาณปลายมกราคมหรือต้นกุมภาพันธ์ จะมีแฟนๆ ของฮานาโกะเยอะแยะที่เขาเติบโตแล้ว เพราะฮานาโกะอยู่ญี่ปุ่นนานมากก็สัมผัสกับชีวิตคนหลายเจเนอเรชั่น ลองคิดดู ฮานาโกะอยู่มา 67 ปีแล้ว คนที่เคยเห็นฮานาโกะมาเมื่อ 2-3 ขวบ ป่านนี้ก็ 69 ปีแล้ว คือฮานาโกะสามารถสัมผัสชีวิตคนญี่ปุ่นตั้งแต่วัย 2 ปี มาจนถึง 70 ปี อยู่มานานมาก มีความผูกพันกับคนญี่ปุ่นมาก"

...

ส่วนกระแสที่คนไทยสงสาร หรืออยากขอให้ช่วยเหลือฮานาโกะ คุณไข่กล่าวว่า "พอผมอ่านในโซเชียลมีเดีย ผมก็ติดต่อไปยังผู้อำนวยการสวนสัตว์ที่ฮานาโกะอยู่ เขาก็บอกว่า ไม่จริงเลย เป็นเรื่องข่าวลือทั้งนั้น เขาอยู่อย่างมีความสุขดี เพราะที่นั่น เราต้องชมคนญี่ปุ่นเขารักจริงๆ และเขาก็ดูแลอย่างดี ซึ่งห้องที่ฮานาโกะอยู่ที่สวนสัตว์ก็มีระบบทำความร้อน เวลาหน้าหนาว ฮานาโกะก็ไม่หนาว ในห้องมีฮีตเตอร์อย่างดี หน้าร้อนก็มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ลงมาเล่นได้ และยังมีสัตวแพทย์อีก 2 คน คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เฉพาะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ที่ดูแลรวมสัตวแพทย์ทั้งหมด 4 คน คือ 4 คนอยู่กับฮานาโกะ และอาหารการกิน ให้กินอย่างดี ให้กินกล้วยหอม ให้กินสตรอเบอรี่ หน้าไหนมีอะไรก็ให้กินแบบนั้น เขาบดให้กินอย่างดี เพราะฮานาโกะฟันไม่มีแล้ว ฟันหลุดหมดแล้ว ปกติช้างถ้าฟันหลุดส่วนใหญ่จะตายไปตามสภาพ เพราะกินอะไรไม่ได้ แต่ฮานาโกะเขาบดให้กิน ฮานาโกะก็กลืนอย่างเดียว เพราะฉะนั้นพูดถึงความเอาใจใส่ดูแลแล้วต้องชมว่าเขารักและห่วงใยจริงๆ ส่วนมีกระแสขอให้ช่วยเหลือนั้น ผมว่าถ้าจะช่วยเหลือฮานาโกะที่ดีที่สุดคือเวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นก็แวะไปบอกฮานาโกะว่าพวกเราชาวไทย เราภูมิใจที่ฮานาโกะได้ทำหน้าที่ทูตแห่งความรัก ทูตแห่งความห่วงใยได้ดีเยี่ยม คงไม่มีใครจะทำหน้าที่ได้ดีเท่าฮานาโกะแบบนี้ ได้ยาวนานขนาดนี้ ถึงหกเจ็ดสิบปี"

คุณไข่กล่าวอีกว่า "ผมรู้สึกว่าสิ่งที่คุณพ่อได้ทำเมื่อหกเจ็ดสิบปีที่แล้วมันให้ผลมาอย่างยาวนานเหลือเกิน เพราะว่าทุกครั้งที่เราไปประเทศญี่ปุ่น พอเราบอกคนญี่ปุ่นว่า ฮานาโกะ ประเทศไทยเราเอาไปให้ ซึ่งเขาไม่รู้ว่าคนไทยเอาไปให้ คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่รู้ พอเราเล่าให้เขาฟังทีไร เราจะรู้สึกเลยว่าเอ๊ะ...พวกคุณช่างมีน้ำใจกับเราเหลือเกิน ทำให้การคุยกันหรือการผูกมิตรง่ายมากเลย ผมเจอกับตัวเอง เวลาไปเจอนักการเมืองใหญ่โตที่ญี่ปุ่น พอเขารู้ว่าเรามาจากตระกูลที่เอาช้างมาให้ เขาจะแสดงความชื่นชม แสดงความอยากจะตอบแทน มีอะไรที่ญี่ปุ่นจะช่วยได้ขอให้บอก เราจะเห็นชัดเจน อย่างที่ท่านทูตหลายท่านได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า บางเรื่องเวลาเจรจากับรัฐบาลติดๆ ขัดๆ พอพูดถึงช้างฮานาโกะ มันทำให้บรรยากาศมันง่ายขึ้นเยอะเลย แปลกมากๆ ก็ต้องชมว่าน้ำใจที่เรามีต่อชาวญี่ปุ่นมันทำให้คนญี่ปุ่นรักคนไทย ไม่งั้นจะมาลงทุนในประเทศไทยเยอะที่สุดในขณะนี้หรือ และคนไทยก็รักญี่ปุ่น ทำให้ผูกพันกัน"

สุดท้ายคุณไข่ ได้ฝากไปถึงชาวไทยว่า "ขอฝากถึงทุกคนที่มีความห่วงใยป้าฮานาโกะว่า คุณป้าฮานาโกะ หรือพี่ฮานาโกะของผม อาจจะเหงาบ้าง แต่ก็มีความสุขดี แล้วคุณป้าฮานาโกะก็อายุเยอะแล้ว คุณป้าอยู่ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งเดียวในหัวใจชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศ แต่ถ้าเราอยากเอาคุณป้ากลับมาเมืองไทย คุณป้าก็อาจจะเป็น 1 ใน 1,000 ป้าที่แก่หง่อมและอาจจะไม่มีใครสนใจ อยู่ญี่ปุ่นดีที่สุด เขาดูแลอย่างดี ถ้าเราคิดถึงคุณป้า เราไปญี่ปุ่น เพราะคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นกันมาก ก็แวะไปหาคุณป้า บอกคุณป้าว่าคุณป้าสุดยอด คุณป้าทำหน้าที่ได้ดีที่สุด ส่วนลูกหลานที่อยู่ประเทศไทยนั้น พวกเราจะช่วยดูแล คุณป้าไม่ต้องห่วง ก็อยากฝากคำนี้ว่า พวกเราไปให้กำลังใจและคำมั่นกับคุณป้าว่า เมื่อคุณป้าไปอยู่ญี่ปุ่น ห่างบ้านห่างญาติพี่น้อง คุณป้าก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด พวกเราอยู่เมืองไทยก็จะดูแลลูกหลานคุณป้าให้ดีที่สุด" คุณไข่ กล่าวในที่สุด.

อ่านข่าวประกอบ น้ำตาท่วม! สาวโพสต์ 'ช้างฮานาโกะ' ยังจำคนไทยได้ - วอนช่วยช้างทูตไทยในญี่ปุ่น