ตำรวจเชียงใหม่ รวบแก๊งนักล้วงกระเป๋ามือโปร 4 คน มีลูกเขย แม่ยาย ลูกสาวนั่งรถไฟฟรีมารอก่อเหตุในงานยี่เป็ง ฝีมือและวิธีการสุดลึกล้ำพิสดาร ลงไปอยู่ในแม่น้ำปิงส่งต่อกระเป๋าที่ได้มาเป็นทอดๆ ทั้งยังโชว์สาธิตวิธีล้วงให้ดูด้วย...
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 27 พ.ย. 58 ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมืองเชียงใหม่ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบก.ภ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายสุรเดช โมกผา หรือเก่ง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 ซอยจันทร์เกษม แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ นายเทพประกร จำปาสี อายุ 25 ปี อยู่ ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมืองนครราชสีมา นางปรียาภรณ์ ไทรงามเอี่ยม อายุ 42 ปี อยู่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 85 แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ และนางสาวเอ๋ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี อยู่แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ ทั้งหมดถูกจับกุมในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน หรือรับของโจร พร้อมของกลาง 35 รายการ
...
พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ.5 กล่าวว่าการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากคืนวันที่ 24-26 พ.ย. 58 มีนักท่องเทียวมาเที่ยวงานประเพณีเดือนยี่เป็งหรืองานลอยกระทงในพื้นที่เมืองเชียงใหม่ จำนวนมาก ทั้งชาวไทยและต่างชาติ มีหลายรายโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ว่าถูกคนร้ายล้วงกระเป๋าลักเงินและโทรศัพท์มือถือ ที่บริเวณริมแม่น้ำปิงเชิงสะพานนวรัฐฝั่งตะวันตก และถนนท่าแพ รวมทั้งหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งมีผู้คนหนาแน่นเบียดเสียดกันลงไปลอยกระทงที่ริมแม่น้ำปิง และชมขบวนแห่กระทง ทางตำรวจจึงได้ติดตามสืบสวนหากลุ่มคนร้าย ซึ่งทุกปีจะเข้ามาก่อเหตุในงานเทศกาลลอยกระทง โดยจัดตำรวจนอกเครื่องแบบเข้าไปปะปนกับนักท่องเที่ยวบริเวณดังกล่าว
จนกระทั่งเวลา ประมาณ 20.30 น. วันที่ 26 พ.ย. ได้มีนายวิลเลียม โทมัส บูซ อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่ประจำกงสุลอเมริกา จ.เชียงใหม่ เข้าแจ้งกับ พ.ต.ต.ฐนศกณ ประมาณ สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ สารวัตรเวรประจำกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ว่า ขณะเดินเที่ยวงานลอยกระทงอยู่ที่เชิงสะพานนวรัฐฝั่งตะวันตก ได้ถูกคนร้ายเป็นชายไทยลักทรัพย์กระเป๋าสตางค์พร้อมเงินสดและเอกสารที่อยู่ในกระเป๋า ทางตำรวจที่จึงให้นายวิลเลียม นำพาไปจุดที่เกิดเหตุ พบตัวผู้ต้องสงสัยคือนายสุรเดช และนายเทพประกร กำลังเดินลงไปในลำน้ำปิง และมีนางปรียาภรณ์ พร้อมลูกสาวคือ นางสาวเอ๋ ยืนคอยอยู่บนฝั่ง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไว้หมดไว้ และขอตรวจในกระเป๋าสะพาย พบทรัพย์สินหลายรายการ จึงแจ้งให้ผู้เสียหายมาดู พบว่าเป็นทรัพย์สินของนายวิลเลียมที่หายไปจริง
ทางด้าน พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า ทางตำรวจได้วางแผนรับมือกับแก๊งคนร้ายที่มีทั้งชาวต่างชาติและชาวไทยเข้ามาก่อเหตุ เพราะที่ผ่านมาทุกปีนักท่องเที่ยวชาวจีนมักตกเป็นเป้า ในปีนี้จึงวางแผนสั่งทั้งตำรวจในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบเข้าหาข่าวพร้อมกัน พร้อมกับแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวให้ระวังแก๊งมิจฉาชีพที่แฝงเข้ามาก่อเหตุล้วงกระเป๋าด้วย จนสามารถจับกุมแก๊งนี้ได้ แต่ยังมีอีกหลายกลุ่มหลายแก๊งที่ต้องจับกุมกันต่อไปอีก
จากการสอบสวน นายสุรเดช หรือเก่ง 1 ในผู้ต้องหา ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนพักอยู่ย่านเตาปูน เคยติดคุกคดียาเสพติดมาก่อน เมื่อออกมาก็ได้รู้จักกับนายเทพประกร ซึ่งไม่มีงานทำเช่นกัน จึงได้ชวนนายเทพประกร พร้อมกับ นางสาวเอ๋ที่เป็นแฟนของนายเทพประกร และแม่ยายตั้งแก๊งล้วงกระเป๋าที่ฝึกวิชามาจากในคุก ตระเวนก่อเหตุไปในงานประเพณีต่างๆ โดยเฉพาะงานเทศกาลลอยกระทงของ จ.เชียงใหม่ ซึ่งทุกๆ ปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เดินทางมาจำนวนมาก จึงพากันนั่งรถไฟฟรี และมาหาที่พักในตัวเมือง จากนั้นก็รอให้ถึงวันงาน เข้าไปปะปนกับกลุ่มนักท่องเที่ยวบริเวณริมน้ำเพื่อก่อเหตุล้วงกระเป๋า เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วจะทำทีเดินลงไปในน้ำ ให้ดูเหมือนว่าจะไปเก็บเงินในกระทง หรือส่งของที่ล้วงมาให้เพื่อนที่รออยู่ในน้ำโดยจะส่งของเป็นทอดๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เหยื่อ หรือตำรวจติดตามพบของกลาง
ทั้งนี้ ในการแถลงข่าว กลุ่มผู้ต้องหาได้แสดงวิธีการล้วงและส่งของที่ล้วงได้ต่อๆ กันไปอย่างคล่องแคล่ว ถือว่าเป็นมืออาชีพจริงๆ เพื่อให้ตำรวจได้ดูเป็นความรู้ และแนวทางในการติดตามแก๊งอื่นที่ก่อเหตุในลักษณะนี้ต่อไป.