ตำรวจนำตัวหนุ่มลาวฆ่าโหดชำแหละศพสาวพม่าแยกเป็นชิ้นๆใส่ถุงปุ๋ยโยนทิ้งลงคลอง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่วนสาเหตุเกิดจากโมโหขอสาวแต่งงาน แต่ถูกปฏิเสธเพราะคบอยู่กับชายอื่น เผยขั้นตอนลงมืออย่างไม่สะทกสะท้าน รอจังหวะหญิงสาวเข้าห้องน้ำ ตามประกบเอามีดปาดคอแล้วชำแหละเป็นชิ้น รอจนเลือดแห้งค่อยนำใส่ถุงปุ๋ยนำไปโยนลงคลอง ตำรวจเผยผู้ต้องหาเคยทำงานอยู่โรงฆ่าหมูมีหน้าที่คอยชำแหละจึงมีความชำนาญ

จากกรณีเจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนมนุษย์ในคลองพระโขนงรวมทั้งหมด 4 จุด ตรวจสอบจนพบเป็นร่างกายของ น.ส.มะลิ ไทยใหญ่ อายุ 27 ปี ชาวเมียนมา ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลติดตามจับกุมนายใจ เคนวันคำ อายุ 39 ปี ชาวลาว ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ น.ส.มะลิได้ โดยนายใจรับสารภาพเป็นผู้ลงมือฆ่าหั่นศพจริง สาเหตุเกิดจากผู้ตายปฏิเสธคำขอแต่งงานจึงใช้มีดชำแหละร่างออกเป็นชิ้นส่วน แล้วนำไปทิ้งลงคลอง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 พ.ย. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน สน.หัวหมาก นำตัว นายใจ เคนวันคำ ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ สวมเสื้อยืดสีแดง คลุมทับด้วยเกราะอ่อน สีหน้าเรียบเฉย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ห้องบี 107 หอพัก จินดาอพาร์ตเมนต์ เลขที่ 73/1 ซอยรามคำแหง 53 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จุดแรกบริเวณหน้าประตูทางเข้าหอพัก เป็นจุดที่นายใจลงมารับ น.ส.มะลิ ผู้ตาย ขึ้นไปยังห้องพัก และจุดที่สองภายในห้องบี 107 เป็นจุดที่ผู้ต้องหาชำแหละศพของ น.ส.มะลิ โดยนายใจรับว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงกับผู้ตาย เนื่องจากปฏิเสธคำขอแต่งงาน ทำให้เกิดบันดาลโทสะ รอจังหวะที่ น.ส.มะลิเข้าห้องน้ำแล้วตามเข้าไปประชิดตัวใช้มีดปลายแหลมสำหรับชำแหละเนื้อสัตว์ยาวประมาณ 15 เซนติเมตร กดลงบริเวณคอด้านซ้ายแล้วปาดยาวไปจนถึงด้านขวา จากนั้นได้ชำแหละร่างของ น.ส.มะลิออกเป็นชิ้นส่วน นำใส่กระสอบถุงปุ๋ย 3 ถุง ส่วนจุดที่สามเป็นจุดที่นำถุงปุ๋ยทั้งหมดไปทิ้งลงคลองแสนแสบห่างจากที่พักประมาณ 50 เมตร ใช้เวลาในการทำแผนทั้งหมดประมาณ 1 ชม. ท่ามกลางชาวบ้านที่สนใจมุงดูเกือบร้อยคน มีตำรวจสายตรวจ ตำรวจจราจรกว่า 30 นายคอยคุ้มกัน

...

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า นายใจให้การรับสารภาพ มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับผู้ตายมาเป็นเวลาประมาณ 1 ปี ช่วงที่คบกันได้ออกค่าใช้จ่ายเปิดห้องพักไว้สำหรับเป็นจุดนัดพบของทั้งคู่ นอกจากนี้ยังส่งเสียเงินให้เป็นประจำ ครั้งละประมาณ 1,000 บาท สำหรับการก่อเหตุครั้งนี้มีเจตนาให้ถึงแก่ชีวิต ส่วนแรงจูงใจนั้นเกิดจากเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.ของวันที่ 6 พ.ย. น.ส.มะลิมาพบที่ห้องตามปกติ ตนได้ขอแต่งงานด้วย แต่ถูกปฏิเสธ บ่ายเบี่ยง เนื่องจาก น.ส.มะลิแอบมีชายอื่นคบอยู่ ทำให้เกิดความโมโห รอจังหวะที่ น.ส.มะลิเข้าห้องน้ำจึงลงมือก่อเหตุ ขณะลงมือชำแหละต้องเปิดน้ำอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เลือดที่ไหลออกมาจากร่างหมดไป และรอจนชิ้นส่วนศพแห้ง จึงนำใส่กระสอบ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า กระทั่งเวลา 19.00 น. ถึงได้นำกระสอบที่บรรจุชิ้นส่วนศพมาโยนทิ้งบริเวณคลองแสนแสบ พร้อมกับนำสร้อยคอทองคำพร้อมจี้จำนวน 1 เส้น แหวนทองจำนวน 2 วง โทรศัพท์จำนวน 1 เครื่อง ของผู้ตายไปขายที่ร้านค้าทองย่านเดอะมอลล์รามคำแหง

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวต่อว่า นายใจเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยกว่า 10 ปีแล้ว ประกอบอาชีพเป็นพ่อครัวร้านอาหารแห่งหนึ่งหน้ารามคำแหง ก่อนหน้าจะมาเป็นพ่อครัว มีอาชีพชำแหละเนื้อสัตว์จึงมีความชำนาญในการชำแหละเป็นอย่างดี จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่พบชิ้นส่วนลำตัวส่วนบนชิ้นสุดท้ายของผู้ตาย อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีมั่นใจว่านายใจคือผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวแน่นอนทั้งภาพวงจรปิด ทรัพย์สินของคนตาย และคำรับสารภาพที่สอดคล้องกับเหตุการณ์หากไม่ทำจริง คำรับสารภาพจะไม่มีความสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันอย่างนี้ หลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาไปกักขังไว้ที่ สน.คลองตัน เพื่อรอฝากขังในช่วงเช้าของวันที่ 10 พ.ย. ต่อไป