ชาวบ้านพะเยาพากันไปดูและไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่าสิงสถิตย์อยู่ในต้นขี้เหล็กขนาดใหญ่ภายในวัดร้างโบราณ เผยอายุน่าจะถึงพันปี สุดอัศจรรย์เคยยืนต้นเหมือนจะตาย แต่มีต้นโพธิ์ที่อยู่ติดกันคอยโอบอุ้มช่วยเหลือ จนฟื้นกลับมาใหม่...
เมื่อวันที่ 9 พ.ย.58 ผู้สื่อข่าว ได้ติดตามกลุ่มชาวบ้าน ที่พากันเดินทางไปดูใบหน้าคล้ายพระพุทธรูป และหัวม้าสีขาว ปรากฏกลางลำต้นขี้เหล็กที่มีขนาดใหญ่ 5 คนโอบ สูงร่วม 10 เมตร อยู่กลางหมู่บ้านสันป่างิ้ว หมู่ 12 ต.ต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา
จากการสังเกต และสอบถามชาวบ้าน ทราบว่าต้นขี้เหล็กต้นนี้มีอายุอยู่มานานมาก น่าจะถึง 1,000 ปีด้วยซ้ำ เพราะเดิมที่สถานที่ต้นขี้เหล็กขึ้นอยู่ เคยเป็นวัดเก่ามาแต่ครั้งโบราณกาล ชื่อวัดทองแสนขัน จนเกิดการล่มสลายหายไป เหลือเพียงเศษหินเศษอิฐแท่งหิน ชาวบ้านนำมาเก็บไว้หน้าศาลพ่อเสี้ยว ใกล้กับต้นขี้เหล็กที่ขึ้นอยู่
นางวรรณแดง ดวงตา อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 12 บ้านสันป่างิ้ว อ.เมืองพะเยา ซึ่งมีบ้านติดกับต้นขี้เหล็ก เผยว่า เดิมที่สถานที่ต้นขี้เหล็กขึ้นอยู่เป็นวัดเก่า ตามคำบอกเล่าของปู่ย่าตายายที่เล่าสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนก็บอกว่าต้นขี้เหล็กนี้มีมาก่อนที่ทุกคนจะเกิดนานแล้ว เมื่อถึงวันพระใหญ่จะมีลูกแก้วลอยออกมา แล้วลอยกลับหายไปในต้นขี้เหล็ก
...
ต่อมา เมื่อหลายปีก่อน ชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำอาคารอเนกประสงค์ในหมู่บ้านใกล้กับต้นขี้เหล็กนี้ และได้เห็นใบหน้าคล้ายพระ ติดอยู่กับต้นขี้เหล็ก จนเป็นที่ฮือฮาและได้เลขนำไปเสี่ยงโชคซื้อหวย โชคดีไปตามๆ กัน
"ขี้เหล็กต้นนี้มีลักษณะเป็นต้นใหญ่ และเคยยืนต้นตายมาแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ตาย เพราะมีต้นโพธิ์ที่ติดกับต้นขี้เหล็กคอยโอบอุ้มค้ำจุนเอาไว้ ทำให้ต้นขี้เหล็กสามารถยืนต้นออกกิ่งก้านและใบได้อีก นอกจากนี้ บริเวณกลางลำต้นขี้เหล็กจะมีรูปใบหน้าพระ มีตา ใบหู จมูก มองเห็นอย่างชัดเจนอยู่ที่ลำต้นและด้านล่างใบหน้าพระ จะมองเห็นเป็นหัวของม้า ออกลักษณะสีขาวหม่น โผล่ออกมากลางลำต้นโดยหัวม้ามีขนาดเท่าลูกมะพร้าว ชาวบ้านเรียกว่า ม้าขาว เชื่อว่าเป็นม้าทรงของพ่อเสี้ยว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สิงสถิตย์ในต้นขี้เหล็ก ตามความเชื่อของชาวบ้าน" นางวรรณแดง กล่าว.