พบศพสาวใหญ่ ตายเปลือยในคลองบางแก้ว หลังวัดเกาะวังไทร นครปฐม ผัวโผล่ดูศพบอกเมื่อคืนเมียขี่จยย. ไปร้านยาดองกับกลุ่มเพื่อน ด้าน ตร. ตามสอบ พบขากลับผู้ตายซ้อน จยย. ไปกับหนุ่มรุ่นน้อง เร่งตามตัวสอบหาสาเหตุ ...
เมื่อเวลา 07.30 น. ของวันที่ 7 พ.ย.58 ร.ต.ท.หญิงกนกอร ซิ้มเจริญ ร้อยเวร สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบรถจักรยานยนต์ตกลงไปในคลองบางแก้ว ต.ห้วยจระเข้ อ.เมืองนครปฐม พบแต่รถไม่มีผู้เสียหาย หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย รุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบเพียงรถจักรยานยนต์สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ขจว-975 นฐ. จมอยู่ในน้ำ มีเพียงกระจกมองหลังด้านขวาโผล่ขึ้นมา จึงนำรถจักรยานยนต์ขึ้นมาตรวจสอบ พบว่าสภาพรถพัง เบาะเบี้ยวผิดรูป ขณะที่กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้น ได้รับแจ้งทางห้องวิทยุ สภ.เมืองนครปฐม ว่า พบศพหญิงเปลือยกายเสียชีวิตลอยอยู่ในคลองบางแก้ว ด้านหลังวัดเกาะวังไทร หมู่ 3 ต.ถนนขาด อ.เมืองนครปฐม ห่างจากจุดที่พบรถจักรยานยนต์ 2 กม. จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.ท.ปรีชา ทิมหอม รอง ผกก.กสส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.ท.คุรุพงษ์ แก้วสะอาด สวป.เมืองนครปฐม และชุดสืบสวน ภ.จว.นครปฐม เมืองนครปฐม นำเจ้าหน้าที่หน่วยประดาน้ำมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม แพทย์เวร รพ.ศูนย์นครปฐม เข้าตรวจสอบด้วย
จากการตรวจสอบ สภาพศพ พบลอยคว่ำหน้าอยู่ในน้ำ สวมยกทรงสีดำตัวเดียว ท่อนล่างเปลือย ผมยาวประบ่า แขนทั้ง 2 ข้างเกร็งยกงอศอกทั้ง 2 ข้าง สูงประมาณ 160 ซม. ไม่มีบาดแผลการต่อสู้หรือถูกทำร้ายแต่อย่างใด จึงนำขึ้นมาไว้บนฝั่ง แพทย์ลงความเห็นเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 6 ชม. ชาวบ้านที่ไปมุงดูศพจำได้ว่าผู้ตายคือ น.ส.วาณี บุญเอี่ยมศรี อายุ 39 ปี จากการตรวจสอบ บริเวณริมคลองพบร่องรอยเหมือนเป็นรอยลากเป็นทาง ห่างออกไปอีกเล็กน้อยพบเสื้อยืดสีเลือดหมูตกอยู่ 1 ตัว คาดว่าเป็นของผู้ตายจึงเก็บเป็นหลักฐาน
...
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตามตัว นายโพมี ศรีบุญเรือง อายุ 40 ปี สามีของผู้ตาย มาดูศพ ก่อนให้การกับตำรวจว่า เมื่อ 21.00 น. วานนี้ (6 พ.ย.) ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปกับเพื่อนอีก 4 คน เป็นหญิง 2 คน ชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ไปด้วยกัน 2 คัน โดยบอกว่าจะไปหาอะไรทานกับเพื่อนๆ ที่ร้านเหล้ายาดอง ถนนเจ็ดแยก ต.ห้วยจระเข้ อ.เมืองนครปฐม จำได้เพียงคนเดียวที่เป็นหญิงชื่อส้ม เป็นเพื่อนของผู้ตายบ้านอยู่ ต.ห้วยจระเข้ อ.เมืองนครปฐม จากนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่มาแจ้งว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว
ด้านพระธนภิรมโย หรือหลวงพี่รมย์พระลูกวัดเกาะวังไทร ที่พบศพเป็นคนแรก เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าได้เดินออกมาจากวัดเพื่อหาไฟแช็กจะไปจุดธูปบูชาพระพุทธ โดยเดินผ่านมาทางสระน้ำแล้วมองเห็นว่ามีอะไรอยู่กลางสระ ในตอนแรกคิดว่าเป็นสุนัขตายลอยในน้ำ แต่เมื่อเพ่งมองอีกทีปรากฏว่าเห็นเป็นศพหญิงสาวลอยอยู่ จึงรีบเรียกพระลูกวัดมาช่วยกันดูให้แน่ใจ ก่อนที่จะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
นอกจากนี้มีแม่ค้าขายผักที่มีบ้านอยู่ใกล้กับจุดที่พบรถจักรยานยนต์ เผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ของคืนที่ผ่านมานี้ ได้ยินเสียงชายหญิงทะเลาะกัน มีเสียงผู้หญิงร้องไห้ จากนั้นได้ยินเสียงดังโครมคล้ายกับมีของหนักตกลงไปในน้ำ แล้วก็เงียบเสียงไป แต่ด้วยความกลัวและบริเวณนั้นมืดมาก จึงไม่กล้าออกมาดูเพราะกลัวจะเกิดอันตราย กระทั่งเช้ามีชาวบ้านบอกว่า รถจักรยานยนต์ไม่ทราบว่าเป็นของใครจมอยู่ในน้ำ
จากนั้นชุดสืบสวนได้ออกติดตามตัว น.ส.ส้ม (ขอสงวนนามจริง) จนพบ นำตัวมาสอบสวน โดย น.ส.ส้ม เผยกับชุดสืบสวนว่า เมื่อคืนได้ออกไปชวนผู้ตายไปนั่งทานอาหารกันที่ร้านยาดอง เจ็ดแยก โดยไปกันทั้งหมด 5 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 3 คน รวมผู้ตายด้วย จนถึงเวลา 22.00 น. จากนั้นก็ย้ายร้านไปทานกันต่อที่ร้านยาดองแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครนครปฐม จนกระทั่งเวลา 23.00 น. ร้านปิดจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยที่ตนกับเพื่อนหญิงและชาย 3 คน นั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ไปด้วยกัน ส่วนผู้ตายนั่งรถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายนายเด็กรุ่นน้องชาย อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งบ้านอยู่แถว ต.ห้วยจระเข้ เมื่อแยกกันตรงจุดนี้แล้วก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย เจ้าหน้าที่จึงบันทึกปากคำไว้
ด้าน พ.ต.อ.อุดม เปี่ยมศักดิ์ ผกก.กสส.ภ.จว.นครปฐม ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย เผยว่าขณะนี้ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ปรีชา ทิมหอม รอง ผกก.กสส. ออกติดตามเพื่อน ที่ไปด้วยกับผู้ตายอีก 3 คน ตามที่ น.ส.ส้ม ให้การไว้ ตามรายงานพบแล้ว 2 คน คงเหลือแต่หนุ่มรุ่นน้อง คนที่ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงให้ผู้ตายนั่งซ้อนท้ายเพียงคนเดียว ซึ่งปรากฏว่าขณะนี้ยังไม่กลับมายังบ้านพัก ซึ่งหากพบตัวก็จะเชิญมาสอบถาม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าคนตาย เสียชีวิตด้วยสาเหตุใด ถูกข่มขืนหรือไม่ ตายก่อนจมน้ำหรือตายแล้วถูกนำมาทิ้งในน้ำ ซึ่งต้องรอผลพิสูจน์จากนิติเวชก่อน เพราะเท่าที่ตรวจสอบในเบื้องต้นไม่พบบาดแผลตามร่างกาย แต่ลักษณะที่พบริมคลอง พบว่ามีรอยลากเป็นทางลงน้ำ ส่วนรถจักรยานยนต์นั้นเป็นรถของผู้ตาย ซึ่งน่าจะทราบผลในวันพรุ่งนี้.