คนไทยทั่วทุกภาคตื่นลูกไฟปริศนาพุ่งวาบจากท้องฟ้าลงสู่พื้นเป็นแสงสว่างจ้า แชร์สนั่นโลกโซเชียล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ระบุเป็นลูกไฟ หรือไฟร์บอล เกิดจากเศษหินจากดาวเคราะห์น้อย หรือดาวหางหลุดเข้าบรรยากาศโลกแล้วเสียดสีเกิดลูกไฟขนาดใหญ่ระเบิดแตกก่อนถึงพื้นนับร้อยกิโลเมตร มีผู้เห็นการระเบิดหลายจังหวัด แต่ยังไม่รู้ว่าตกที่ในประเทศไทยหรือไม่ คล้ายเหตุการณ์เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

ลูกไฟปริศนาหล่นจากฟ้าเป็นลำแสงเปิดเผยขึ้น โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 2 พ.ย. ประชาชนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯปริมณฑล และหลายจังหวัดภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือ พบเห็นลูกไฟปริศนาพุ่งวาบจากท้องฟ้าเป็นลำแสงสีเขียว สีฟ้า และสีขาว ขนาดใหญ่สว่างจ้ามากใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็หายไป มีผู้พบเห็นจำนวนมาก จากนั้นผู้ถ่ายภาพไว้ได้นำลงเผยแพร่ผ่านทางโลกออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ มีผู้เข้าไปดู และพากันแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

นายสมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำจังหวัดปทุมธานี รายงานเรื่องเดียวกันว่าขณะขับรถมาตามถนนพิบูลย์สงคราม ใกล้วัดนครอินทร์ อ.เมืองนนทบุรี มุ่งหน้าไป จ.ปทุมธานี เห็นดวงไฟขนาดใหญ่ 1 ลูกพุ่งจากบนฟ้าจากฝั่งตะวันออกเป็นแนวยาวมายังเบื้องล่างด้านฝั่งตะวันตกลักษณะคล้ายผีพุ่งใต้ มีหลากสีคล้ายสีรุ้งทั้งแดง น้ำเงิน ขาว เขียว เพียงวูบเดียวกลับเป็นปกติ

ส่วนนายวัชรกร จันทร์แจ้ง ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุนั่งกินข้าวต้มกับเพื่อนๆหน้า รพ.ปทุมธานี ต.บ้านฉาง อ.เมืองปทุมธานี จู่ๆเห็นแสงสว่างจ้าบริเวณอาคารโรงพยาบาลและต้นไม้ พอมองไปยังต้นแสง เห็นลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งจากท้องฟ้าทิศทางมายังพื้นดินผ่านไป แต่ไม่รู้ว่าตกลงพื้นหรือไม่ ทำให้ลูกค้าในร้านกว่า 20 คน แตกตื่นวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา ส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นดาวตก

...

รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) อ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยถึงลูกไฟปริศนาว่า ที่เชียงใหม่และลำปางมองเห็นลูกไฟดังกล่าวเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. เท่าที่ดูจากคลิปน่าจะเป็นลูกไฟ หรือไฟร์บอล เกิดจากเศษหินดาวเคราะห์น้อย หรือดาวหางหลุดเข้ามาในบรรยากาศของโลก มีนํ้าหนักหลายตันแล้วเสียดสีเกิดลูกไฟขนาดใหญ่ แล้วระเบิดแตกก่อนถึงพื้น เท่าที่ดูเห็นการระเบิดหลายจังหวัด น่าจะสูงจากพื้นดินเป็นร้อยกิโลเมตร แต่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะไม่ได้รับรายงานความเสียหาย ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าตกที่ไหน ตกในประเทศไทยหรือไม่ ต้องดูลักษณะทิศทาง และเส้นทางการตกวิเคราะห์อย่างละเอียดอีกครั้ง

รศ.บุญรักษากล่าวต่อว่า เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเหมือนกับเหตุการณ์เมื่อเช้าวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา พบดาวตกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งทางสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ฯ ส่งทีมไปสำรวจแต่ไม่พบเศษชิ้นส่วนดาวตกแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันเฟซบุ๊กของสมาคมดาราศาสตร์ไทย โพสต์ข้อความหลังเกิดลูกไฟปริศนาว่า มีผู้ส่ง message สอบถามมากับ admin page หลายท่านว่ามีดาวตกเห็นในกรุงเทพมหานคร, สมุทรปราการ และนครนายกทาง Admin page ไม่เห็นเหตุการณ์ แต่คาดว่าเป็นดาวตกครับ เมื่อประมาณช่วง 20.35 น. ที่ผ่านมา ตัวอย่างข้อความจากแฟนเพจ “เห็นแสงสว่างวาบลงมาลักษณะคล้ายดาวตก จากบริเวณเส้นถนนพญาไทค่ะ อยากสอบถามว่านั่นคือดาวตกรึเปล่าคะ เป็นแสงสว่างสีเขียวดวงใหญ่ทีเดียว” เมื่อไม่กี่นาที ที่ผ่านมามี ดาวตกทางทิศเหนือ มีแสงสีเขียวเต็มท้องฟ้า “มีใครถ่ายรูปไว้ทันไหมครับ หรือเล่าเหตุการณ์ก็ได้ครับ ขอบคุณครับ”

พร้อมกันนี้ admin page ยังระบุด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลักษณะเหมือนดาวตกมากที่สุด เนื่องจากเห็นในระยะเวลาสั้น เป็นเส้นยาวบนท้องฟ้า มีลักษณะต่างจาก Iridium flare ตรงที่ดาวเทียมดังกล่าวจะมีเวลาปรากฏตามเวลาที่คำนวณไว้ ต่างจากดาวตก ซึ่งจากกรณีลูกไฟที่สามารถสังเกตได้จากหลายพื้นที่ สันนิษฐานจากความสว่างและการเคลื่อนที่ว่าน่าจะเป็นลูกไฟ หรือ fireball โดยสามารถดูคลิปที่มีผู้บันทึกได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=O-zsMckKP-s จะเห็นได้ว่าสว่างมากๆ นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วในรอบไม่กี่เดือนที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ครั้งที่แล้วเกิดในเวลากลางวัน ซึ่งก็สว่างไม่แพ้กัน

ด้าน น.ส.ประพีร์ วิราพร นายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย เปิดเผยว่า จากกรณีปรากฏการณ์ลูกไฟสว่างบนท้องฟ้าในช่วงค่ำมองเห็นได้จากหลายพื้นที่ สมาคมได้รวบรวมข้อมูลจากคลิปวีดิโอ ลักษณะที่ปรากฏโดยเห็นพุ่งเป็นทางยาวและมีความเร็วสูง เป็นไปได้ว่าเกิดจากดาวหางหรือดาวเคราะห์น้อย ถูกแรงดึงดูดของโลกดึงเข้ามาในชั้นบรรยากาศ เรียกปรากฏการณ์นี้ว่าเป็นลูกไฟ หรือไฟร์บอล (fireball) เป็นดาวตกชนิดหนึ่งซึ่งชิ้นส่วนที่ตกลงมามีขนาดใหญ่และมีความสว่างมาก ส่วนที่ลูกไฟมีแสงสีเขียว สีเหลืองนั้น เพราะเกิดจากชิ้นส่วนนั้นประกอบไปด้วยแร่ธาตุ เมื่อเกิดการเผาไหม้ด้วยความร้อนสูงจะเป็นสีต่างๆ ซึ่งหากพบว่ามีสีเหลือง จะมีธาตุเหล็ก หรือพบสีน้ำเงินเขียว จะมีธาตุแมกนีเซียม ทั้งนี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่คนไทยได้เห็นในอีกครั้งหลังเคยเกิดมาครั้งหนึ่งเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เพราะปกติโลกมีพื้นที่ของน้ำถึง 3 ใน 4 ทำให้ดาวตกที่สว่างมากอาจเกิดในบริเวณห่างไกลจากผู้คน