ตำรวจพัทยา ร่วมกับทหารค่ายนวมินทราชินี บุกรวบ4ชายฉกรรจ์ เปิดห้องโรงแรมใช้เป็นเซฟเฮาส์ อ้างตัวเป็นตำรวจชุด ปส.และฉก.ทหาร จับเหยื่อที่มีพฤติกรรมเสพยาเสพติดมากักขังรีดเอาเงิน พยานยืนยันเห็นพาคนแปลกหน้าเข้ามาประจำ...     

เมื่อวันที่ 2 พ.ย.58 ที่ห้องปฏิบัติการสายตรวจ สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ปวัชร์ชัย สุดสคร รอง ผกก. ปป. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย ร.ต.ท.ไชยณรงค์ ไชยอินทร์ รอง สวป. ร.ต.ท.อาณกร ถานอาจนา รอง สวป. และกำลังเจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบกที่ 14 ค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งคนร้ายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ข่มขู่กักขังหน่วงเหนี่ยวกรรโชกทรัพย์ผู้เสพยาเสพติด

ทั้งนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ประกอบด้วย นายสมพร คลังนาค อายุ 29 ปี นายมานพ ธงชัย อายุ 33 ปี นายรัชตะ อาบครบุรี อายุ 20 ปี และนางกรุณา พราหมณ์ลอย อายุ 31 ปี พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนปลอมจำนวน 3 กระบอก กุญแจมือ 2 คู่ วิทยุสื่อสาร 2 เครื่อง ซองใส่บัตรตำรวจ ปปส. โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ยาไอซ์จำนวนหนึ่ง เงินสด 2,750 บาท และแหวนทองหนักครึ่งสลึง โดยจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านพัทยาใต้

สำหรับคดีนี้ เริ่มจากเจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบกที่ 14 ค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี รับแจ้งจากแม่ของผู้เสียหายรายหนึ่งว่า ลูกสาวถูกแก๊งผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย และข่มขู่กรรโชกทรัพย์ นำตัวไปกักขังไว้ในโรงแรมเกิดเหตุ หลังจากลูกสาวแอบส่งข้อความมาขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันวางแผนก่อนเข้าจับกุมแก๊งผู้ต้องหาไว้ได้ทั้งหมด และสามารถยึดของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ รวมถึงทรัพย์สินของผู้เสียหายรวม 5 คนได้จำนวนหนึ่ง

ส่วนพฤติกรรมของผู้ต้องหา จะทำตัววางมาดคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามสืบสวนผู้ที่พัวพันเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เมื่อรู้ที่พักของเหยื่อก็จะบุกเข้าจับกุม โดยอ้างตัวเป็นตำรวจปรามปราบยาเสพติดและทหารชุดเฉพาะกิจ นำตัวไปกักขังไว้ในโรงแรมห้องพักรายวันซึ่งเปิดไว้เป็นเซฟเฮาส์ ใช้น้ำยาและเครื่องมือสำหรับตรวจสารเสพติดในร่างกาย ทำการตรวจปัสสาวะ เมื่อพบสารเสพติดจะข่มขู่รีดเอาทรัพย์สิน ใครไม่มีเงินจ่ายก็จะทำร้ายร่างกายแล้วกักขังเอาไว้ โดยมีหัวหน้าแก๊งชื่อ นายสรายุทธ เจ๊ะหมัด ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี

...

ด้าน พ.ต.ท.ปวัชร์ชัย เปิดเผยว่า จากการสอบสวน ทราบว่าผู้ต้องหา ก่อเหตุมานานกว่า 1 เดือน เนื่องจากมีพยานแวดล้อมเห็นว่าแก๊งดังกล่าว พาบุคคลแปลกหน้าเข้ามาที่โรงแรมอยู่ประจำ และมักจะใช้วิทยุสื่อสารดักฟังความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยาอีกด้วย หากใครเคยตกเป็นเหยื่อ ก็สามารถมาแจ้งความเอาผิดได้ ในส่วนผู้เสียหายทั้ง 5 คน มีความผิดในเรื่องมีสารเสพติดในร่างกาย ทางเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินคดีด้วย ส่วนผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง มีวิทยุโทรคมนาคมไว้ในครอบครอบ และแอบอ้างเป็นเจ้าพนักงาน.