ช้างป่าไทรโยคเพศเมีย อายุ 30 ปี ล้มกลางป่าแม่น้ำน้อย เหตุติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรง - ป่วยหัวใจโต สัตวแพทย์ช่วยสุดความสามารถ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตได้...
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 2 พ.ย.58 นายประวัฒน์ พวงทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค หมู่ 7 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับเหตุมีช้างป่าไทรโยคล้มว่า เหตุที่ช้างป่าล้มในพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 31 ต.ค.2558 เจ้าหน้าที่สายตรวจป้องกันและปราบปรามอุทยานแห่งชาติไทรโยค (ส่วนกลาง) ได้ออกเดินลาดตระเวนเชิงคุณภาพในพื้นที่ป่าบ้านแม่น้ำน้อย หมู่ 5 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ ต่อมาเวลาประมาณ 21.00 น. ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่พบช้างป่าเพศเมีย อายุประมาณ 30 ปี มีสภาพผอม ขาหน้าข้างขวาได้รับบาดเจ็บและบวม เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจดูสภาพเบื้องต้นพบว่าช้างมีอาการป่วยมาก โดยต้องใช้ความระมัดระวังมากเพราะช้างอยู่ในสภาพบาดเจ็บ
นายประวัฒน์ กล่าวต่อว่า หลังจากทราบเรื่อง ทางอุทยานฯ ไทรโยคจึงรายงานให้ นายยรรยง เลขาวิจิตร ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) ทราบ ต่อจากนั้น รีบประสานไปยัง อ.ดร.น.สพ.มาโนชญ์ ยินดี ผอ.โรงพยาบาลปศุสัตว์ และสัตว์ป่า ปศุปาลัน คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี เพื่อขอการสนับสนุนสัตวแพทย์ เพื่อร่วมเดินทางมาช่วยเหลือรักษาช้างดังกล่าว ต่อจากนั้น น.สพ.มาโนชญ์ พร้อม น.สพ.วรพงศ์ โกษารักษ์ และคณะสัตวแพทย์ ได้เดินทางมาเฝ้ารักษาช้างดังกล่าว แต่เนื่องจากช้างมีอาการบาดเจ็บสาหัส คณะสัตวแพทย์ได้ระดมการรักษาอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือช้างตัวดังกล่าวได้ จนล้มลงในเวลาประมาณ 10.30 น. ของวันที่ 1 ต.ค.58 ที่ผ่านมา
นายประวัฒน์ เปิดเผยต่อว่า หลังจากช้างตัวดังกล่าวล้ม ทางอุทยานฯไทรโยค จึงต้องปฏิบัติตามระเบียบ โดยแจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมตรวจสอบสาเหตุการที่ช้างป่าล้มในครั้งนี้ ส่วนทางด้านคณะสัตวแพทย์ ก็ได้ผ่าซากเพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิต จึงทำให้ทราบว่าช้างตัวดังกล่าวมีอาการบาดเจ็บ โดยติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง นอกจากนั้นยังมีอาการป่วยเป็นโรคหัวใจโต ประกอบกับในขณะที่ป่วย สุขภาพของช้างค่อนข้างอ่อนแอเนื่องจากอายุมากแล้ว จึงเป็นสาเหตุทำให้ช้างล้มดังกล่าว.
...