สระแก้วกวาดล้างจับกุมแรงงานเขมร ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายรวม 108 คน ส่งมอบให้กงสุลใหญ่กัมพูชารับตัวกลับประเทศ ตามหลักมนุษยธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในกรอบ AEC ที่ไทยและกัมพูชาจะต้องเข้าร่วมกันในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้...
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 ต.ค. ที่ว่าการอำเภออรัญประเทศ นายณัฐชัย นำพูลสุขสันต์ นายอำเภออรัญประเทศ และ พ.ท.สมเจตน์ ผลประเสริฐ รอง ผบ.ฉก.กรม.ทพ.12 พร้อมด้วยตัวแทนสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี (พื้นที่สระแก้ว) ทหารจากกองกำลังบูรพา, ตม.จว.สระแก้ว และ ตร.ภ.จว.สระแก้ว ได้ร่วมกันควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่ง จนท.ชุดปฏิบัติการร่วมฯ ได้ออกกวาดล้างจับกุมทั้งจังหวัดสระแก้ว เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา มารวบรวมไว้ที่บริเวณลานหน้าที่ว่าการอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว
จากนั้น นายณัฐชัย ได้เชิญ นายบุน ซกวิบอล (BON SOKVIBOL) กงสุลใหญ่กัมพูชา ประจำประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่บ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมคณะ จนท.ตม.ปอยเปต ของกัมพูชา เดินทางมารับมอบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาจำนวน 108 คน ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และทางการไทยจับกุมมาได้ เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อกัน และเป็นการยืนยันว่าประเทศไทยได้ใช้หลักการตามหลักมนุษยธรรมในการจับกุมแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และมีการดูแลและปฏิบัติอย่างดีตามหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นไปตามหลักการปฏิบัติตาม MOU ปี 2543 และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในกรอบ AEC ที่ไทยและกัมพูชา จะเข้าร่วมกันในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ และการกวาดล้างจับกุมแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายครั้งนี้ จนท.ด้านความมั่นคงต้องการกดดันให้ผู้ประกอบการชาวไทยดำเนินการนำแรงงานที่ถูกกฎหมายเข้ามาทำงานในประเทศไทย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการค้ามนุษย์
...
ส่วนทางด้าน นายบุน ซกวิบอล กงสุลใหญ่กัมพูชา ประจำประเทศไทย เผยว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยให้เกียรติ และดูแลแรงงานชาวกัมพูชาที่เข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมายในประเทศไทย ซึ่งทางกงสุลใหญ่กัมพูชา จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ชาวกัมพูชาที่ต้องการเดินทางมาทำงานในประเทศไทยต้องทำบัตรแรงงานหรือบอร์เดอร์พาสทำงานให้ถูกต้องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการหลอกลวงหรือลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมายในประเทศไทยอีก และย้ำว่าไทยและกัมพูชา เป็นมิตรประเทศที่ดีร่วมกันมาโดยตลอด ดังนั้นความร่วมมือนี้จะส่งผลให้การเข้าสู่ AEC ของทั้งสองประเทศจะสามารถร่วมกันพัฒนาให้ AEC เป็นปึกแผ่นและเข้มแข็งขึ้น เพื่อต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจโลกต่อไป
จากนั้น จนท.ตม.จว.สระแก้ว ได้นำตัวแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาทั้ง 108 คน ขึ้นรถนำไปผลักดันกลับประเทศที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อให้กงสุลใหญ่กัมพูชา และ จนท.ตม.ปอยเปต ของกัมพูชา นำตัวไปดำเนินการตามขั้นตอนของกัมพูชาต่อไป.