เป็นปลื้มของชาวไทยอีกครั้งเมื่อโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพสุดประทับใจ ของ “ชัช อุบลจินดา” ชาวประมงจังหวัดกระบี่ วัย 44 ปี ซึ่งถูกขนานนามให้เป็นฮีโร่ เข้าช่วย 2 นักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ที่ลงไปถ่ายรูปนกในหาดเลนบริเวณหน้าเขื่อนเจ้าฟ้า โดยใช้วิธีนอนคว่ำราบไปกับโคลน ให้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน ปีนขึ้นบนหลังจนสามารถหลุดจากโคลนขึ้นฝั่งได้สำเร็จ หลังจากช่วยเหลือเสร็จก็จากไปโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ เบื้องหลังวีรกรรมอันน่ายกย่องนี้ก็ตามมาด้วยคำถามว่า หากประสบเหตุเช่นนั้น จะมีวิธีการเอาตัวรอดอย่างไร…!?!? ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ อาสาไปหาคำตอบมาให้ผู้อ่านได้ติดตามกัน
ยืนท่าตรง ยังไงก็ไม่หลุด !
ทีมข่าวฯ ติดต่อไปยัง ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ ซึ่งเปิดเผยว่า โคลนจำพวกนี้จะมีลักษณะเป็นหาดเลน ซึ่งพบได้ทั่วประเทศไทย ถ้าอยู่ริมฝั่งอย่างมากจะจมแค่ตาตุ่มหรือครึ่งน่อง เพราะโดยปกติจะไม่มีชาวบ้านออกไปบริเวณกลางอ่าว หรือถ้าจะออกไป ชาวบ้านจะใช้วิธีนั่งบนไม้กระดาน แล้วถีบคล้ายการพายเรือ ซึ่งหากติดในขณะท่ายืนตรง จะไม่มีทางหลุดจากโคลนได้ เพราะน้ำหนักตัวจะทิ้งลงที่ปลายเท้า
...
เฉลี่ยน้ำหนัก ขนานตัวกับพื้น โอกาสรอดสูง
โดย ผศ.ดร.ธรณ์ แนะนำว่าหากติดโคลนในระดับหัวเข่า ให้พยายามเฉลี่ยน้ำหนักไม่ให้ลงไปที่ปลายเท้าทั้งหมด และพยายามก้มนอนตัวไปด้านหน้า หรือหงายตัวด้านหลัง ให้ราบไปกับพื้น ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการหลุดออกจากโคลนได้
“หากติดโคลนในระดับที่ลึกลงไปถึงหน้าอก โอกาสที่จะช่วยเหลือตัวเองจะยากมาก อาจทำได้โดยร้องขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง แต่ถึงอย่างไรส่วนใหญ่จะไม่มีการจมลึกลงไปกว่านั้น เนื่องจากด้านล่างของเลนเป็นดินดาน ซึ่งเป็นดินที่มีความหนาแน่นพอที่จะไม่จมต่อลงไปถึงคอหรือท่วมหัว” สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ทะเลไทย กล่าว
ผศ.ดร.ธรณ์ ยังกล่าวอีกว่า หากมีความจำเป็นที่จะต้องลงเลนสามารถสอบถามชาวบ้านในละแวกนั้น เนื่องจากชาวบ้านจะใช้กระดานถีบอยู่เสมอ เพื่อเฉลี่ยน้ำหนัก จากนั้นจะค่อยๆ เลื่อนกระดานไปเรื่อยๆ เพราะยิ่งเฉลี่ยน้ำหนักให้แบนราบกับพื้นได้เท่าไหร่ โอกาสที่จะถูกโคลนดูดจะน้อยลงไปเท่านั้น
“ติดโคลน” สตินั้นสำคัญไฉน !?
ด้าน นสพ.ภัทรพล มณีอ่อน หรือที่รู้จักกันในนาม “หมอล็อต” นายสัตวแพทย์สัตว์ป่า ประจำกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระบุว่า อันตรายจากการติดโคลนอาจไม่ถึงชีวิต แต่อันตรายอาจเกิดต่อเมื่อขึ้นจากโคลนมีความลึกหรือสูงกว่าตัวเราเอง ประกอบกับเมื่อทุกคนตกโคลน จะเกิดอาการตกใจแล้วพยายามดิ้น เพื่อเอาตัวรอด อาจจะทำให้หมดแรง หรือเกิดตะคริว ซึ่งเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นสิ่งสำคัญคือการตั้งสติ
ทั้งนี้ พื้นที่ที่เป็นโคลน หล่ม หรือเลน ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ในช่วงหน้าน้ำ เป็นแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์มาก่อน เมื่อน้ำแห้งก็จะเป็นโคลนเป็นเลน ซึ่งโคลนในป่าส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ท้ายน้ำ เมื่อน้ำไหลมาจะพัดเอาโคลนเอาเลนมาอยู่ที่ท้ายน้ำ แล้วเกิดการแห้งตัว ซึ่งจะแห้งแต่ผิวภายนอก ภายในจะยังมีน้ำและดินเหลวอยู่ ซึ่งสังเกตได้โดยพื้นที่เหล่านี้จะไม่ค่อยมีหญ้าขึ้น เมื่อเหยียบลงไปพื้นดินจะมีความแฉะ ขณะที่บางพื้นที่จะมีพืชน้ำบางชนิดขึ้นอยู่ จึงควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าว และโคลนจะมีระดับที่แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่จะไม่เกินเอว
...
นอกจากนี้ กรณีการติดโคลนจะไม่ค่อยพบเจอในคน แต่จะเจอในกรณีของช้างป่า ซึ่งตกโคลนแล้วเสียชีวิต เนื่องจากน้ำหนักตัวที่มาก ประกอบกับโคลนมีความลื่น การจะถีบตัวเองขึ้นมาจึงเป็นเรื่องยาก
ขยับตัวให้เป็นประโยชน์ แหงนหน้ารับอากาศ…!?
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดกรณีอย่างที่ปรากฏในข่าว หมอล็อตได้แนะนำวิธีการช่วยเหลือตัวเองหากต้องตกอยู่ในสถานการณ์ติดโคลนว่า “การอยู่ติดโคลนอยู่คนเดียวแล้วไม่มีอะไรยึดเลย ให้พยายามขยับตัวให้มีประโยชน์มากที่สุด โดยที่ต้องรู้ตัวเองว่าเราสามารถเดินผ่านมันไปได้หรือไม่ อย่าเคลื่อนไหวตัวโดยที่ไม่เกิดประโยชน์ เช่น การดิ้น เพราะการพยายามออกแรง จะทำให้โคลนหรือเลน จากเดิมที่มีความอัดแน่น และแข็งตัวอยู่แล้ว การขยับตัวมาก จะเกิดการอ่อนตัว น้ำที่อยู่ในโคลนก็จะออกมาเพิ่มมากขึ้น เมื่อโคลนมีความเหลว การขยับหรือการเพิ่มแรงเสียดทานระหว่างตัวเรากับโคลนก็จะน้อยลง อาจจะยิ่งเพิ่มความลำบาก นอกจากนี้ต้องทำตัวให้ขนานกับดินโคลน แหงนหน้าแล้วกางแขนและขา เพราะการแหงนหน้าจะสามารถทำให้หายใจได้ การกางแขนและขาจะช่วยเพิ่มผิวสัมผัสของร่างกายกับพื้นดินโคลน ทำให้ไม่จม”
...
ข้อควรรู้...ก่อนเดินป่าควรเตรียมตัวอย่างไร ?
สำหรับการเตรียมตัวก่อนไปเดินป่าทำได้โดยการศึกษาเส้นทาง ซึ่งฤดูกาลมีผลต่อการประเมินเส้นทางที่ต้องเดิน และการประสานกับเจ้าหน้าที่ในการนำทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสามารถบอกได้ว่าควรจะต้องเตรียมตัวอย่างไร
หมอล็อต ผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินป่า ให้คำแนะนำว่า หลักการของการเดินป่า จะต้องมีการเรียนรู้ข้อมูลพื้นฐานของพื้นที่ดังกล่าว เวลาเดินจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยนำทาง และผู้เดินป่าต้องปฏิบัติตามระเบียบในการเดินป่า ศึกษาธรรมชาติอย่างเคร่งครัด สิ่งสำคัญคือการเตรียมอุปกรณ์จำพวกไม้ หรือกิ่งไม้ไว้คอยค้ำยัน ซึ่งจะช่วยในการทรงตัว เมื่อเจอโคลนก็สามารถวัดระดับความลึกได้ หรือแม้กระทั่งตอนเหนื่อย ไม้เท้าก็จะสามารถเป็นตัวค้ำยันได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น ถ้าเราเดินตามเทรลที่กำหนดให้ และปฏิบัติตามระเบียบที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
...
ส่วนความพร้อมของร่างกายนั้น ส่วนหนึ่งคนเดินป่าต้องเตรียมร่างกายและใจให้มีความพร้อม นอกจากนี้ด้านอุปกรณ์เสริม เช่น ไม้เท้า เชือก ต้องเตรียมไปในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น เพราะหากเข้าไปในป่าแล้วเกิดตกโคลน ก็จะต้องสละบ้างสิ่งเผื่อเอาตัวรอด
“อุบัติเหตุที่เกิดจากโคลนนั้นไม่เท่าไหร่ แต่อุบัติเหตุที่เกิดจากสัตว์ป่าทำร้ายหรือภัยธรรมชาติน่ากลัวว่าโคลนเยอะแยะ…” หมอล็อต กล่าวทิ้งท้าย.