จนท.คุมตัว 3 ผู้ต้องหา คดีหมิ่นสถาบัน ผิด ม.112 ถึงเรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี มณฑลทหารบกที่ 11 เพื่อคุมขัง เผยพฤติกรรม 'หมอหยอง-คนสนิท-สารวัตรเอี๊ยด' แอบอ้างให้ประชาชนและบุคคลทั่วไป เข้าใจผิดว่า ใกล้ชิดกับสถาบัน

วันที่ 21 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.30 น. พนักงานสอบสวนได้นำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนออกจากศาลทหารเพื่อนำไปฝากขังต่อที่ กองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) หรือเรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี

หลังจากนั้น พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.กล่าวย้ำกับผู้สื่อข่าวอีกครั้ง ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน รับสารภาพทุกข้อกล่าวหาในชั้นศาล พร้อมทั้งยินยอมให้ฝากขัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น พล.ต.ท.ศรีวราห์ ได้แจกเอกสารให้ผู้สื่อข่าว เรื่องจับกุมผู้ต้องหาแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง โดยมีเนื้อหาว่า ด้วยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตรวจพบว่า มีกลุ่มบุคคลร่วมกันกระทำความผิดโดยมีพฤติการณ์แอบอ้าง หรือแสดงออกในลักษณะต่างกรรม ต่างวาระกัน เพื่อให้ประชาชน หรือบุคคลโดยทั่วไปเข้าใจว่าตนเองมีความใกล้ชิดกับสถาบันเบื้องสูง และได้เรียกหรือรับผลประโยชน์กับการดำเนินการดังกล่าว รวมทั้งได้กระทำความผิดตามกฎหมายอื่นๆ อีกหลายฐานความผิด การกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันฯ และความเสียหายอื่นๆ ในวงกว้าง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหารได้ใช้อำนาจตามคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 เรียกตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องมาเพื่อสอบถามข้อมูลและควบคุมตัวไว้ ซึ่งจากการซักถามพบว่า มีมูลกระทำความผิดจริง จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดฐาน "หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์" ตาม ป.อาญามาตรา 112

...

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งที่ 578/2558 ลงวันที่ 16 ต.ค. 2558 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นหัวหน้า และ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. เป็นรองหัวหน้า กับพวก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหาร สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนเป็นที่แน่ชัด และเชื่อได้ว่า กลุ่มบุคคลที่ร่วมกระทำความผิด ประกอบด้วย

1. นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ อายุ 53 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 127/35 พหลโยธินปาร์ค ซ.พหลโยธิน 14 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ข้อหา ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ฯ

2. นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ อายุ 39 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 26/66 ถนนสังขวิทย์ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ข้อหา ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ฯ

3. พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา อายุ 44 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 1 ห้อง 1914 คอนโดลาเมซอง ซ.พหลโยธิน 24 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครอง, มีใช้ซึ่งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และตั้งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม, ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ฯ

โดยทั้ง 3 คน พนักงานสอบสวน ได้ขออนุมัติศาลทหารกรุงเทพ และศาลได้อนุมัติออกหมายจับบุคคลดังกล่าว ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาวันนี้ (21 ต.ค.58) ครบกำหนดควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหาร ได้ส่งตัวบุคคลดังกล่าวมอบให้พนักงานสอบสวน จึงได้แจ้งข้อหาและจับกุมตัวผู้ต้องหาดำเนินคดี

อย่างไรก็ดี จากการสอบสวนผู้ต้องหา นายสุริยัน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาที่เหลือให้การปฏิเสธ หลังจากการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วพนักงานสอบสวนจะยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลทหารกรุงเทพในวันเดียวกัน โดยหากปรากฏพยานหลักฐานการกระทำความผิดในคดีอื่นๆ จะได้สืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.