ทหาร มทบ.41 ทภ.4 สนธิกำลังตำรวจ และ จนท.ป่าไม้ บุกจับรถกระบะเร่ขายหัวซากสัตว์ป่าสงวน ทั้ง หัววัวแดง หัวกระทิง และหัวควายป่า เกือบ 50 หัว มูลค่าหลายแสนบาท แต่คนขับไหวตัวทันหลบหนีไปได้หวุดหวิด เผยทำกันเป็นขบวนการใหญ่...

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ต.ค. 58 ที่ มทบ.41 ค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ธีร์ณฉัฏฐ์ จินดาเงิน ผบ.มทบ.41 พ.อ.ธวัชชัย ทับทิมสงวน นายทหารฝ่ายสืบสวนสอบสวน ทภ.4 พ.ต.ท.พนม บุญช้าง สวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และ เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันแถลงข่าว ผลการตรวจยึดรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ตอนครึ่งสีน้ำเงิน ทะเบียน บท 1842 นครศรีธรรมราช ซึ่งมีรั้วด้านท้ายกระบะ และมีซากหัวสัตว์ป่าสงวนจำนวนมาก


ประกอบด้วย หัวซากกระทิงป่า ซากหัววัวแดง ซากหัวควายป่าและควายบ้าน นับได้จำนวน 50 หัว มูลค่าหลายแสนบาท โดยคนขับซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์กระบะ และเจ้าของซากสัตว์ป่าดังกล่าว ไหวตัวทันทิ้งรถหลบหนีไปหวุดหวิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนต่อมา ทราบชื่อ นายเมธาสิทธิ์ ปรางค์ปราสาท อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/4 หมู่ 6 ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

...


พล.ต.ธีร์ณฉัฏฐ์ กล่าวว่า เนื่องจากได้มีพลเมืองดีแจ้งมายัง พ.อ.ธวัชชัย ทับทิมสงวน นายทหารฝ่ายสืบสวน ทภ.4 ว่ามีรถยนต์กระบะคันดังกล่าว นำซากสัตว์ป่าสงวนจำนวนมาก ซึ่งประกอบด้วย ซากหัววัวกระทิง วัวแดง ควายป่าและควายบ้าน บรรทุกแขวนใส่ท้ายรถกระบะคันดังกล่าว มาเร่ขายให้กับชาวบ้านบริเวณ ถนนสายเบญจมฯ-พรหมคีรี บริเวณทางเข้าวัดยวนแหล หมู่ 6 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมืองนครศรีธรรมราช พ.อ.ธวัชชัย จึงนำกำลังทหารสนธิกำลังกับตำรวจ นำโดย พ.ต.ท.พนม บุญช้าง สวป. และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ไปทำการตรวจสอบบริเวณดังกล่าว

ปรากฏว่าเมื่อกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง นายเมธาสิทธิ์ คนขับรถที่เห็นกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ รีบกระโดดลงจากรถวิ่งหนีเข้าป่าละเมาะข้างทาง หลบหนีรอดไปได้หวุดหวิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจได้ร่วมกันทำการตรวจยึดของกลางซากหัวสัตว์ป่าสงวนทั้งหมด มาทำการตรวจสอบ และนำส่ง พงส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับผู้ต้องหาที่หลบหนี และผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการค้าซากสัตว์ป่าสงวนต่อไป โดยเชื่อว่าจะทำกันเป็นขบวนการ และมีผู้ร่วมขบวนการหลายคนแน่นอน.