ฆ่าส.ส.กอบกุล สู้คดีเกือบ10ปี
ศาลฎีกาสั่งประหารชีวิต “ส.ท.ต่าย” นายอนันต์ศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ ส่วนพวกอีก 2 คน ถูกจำคุกตลอดชีวิตหลังใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 ถล่มยิงนางกอบกุล นพอมรบดี อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย เสียชีวิต และลูกน้องได้รับบาดเจ็บ ขณะรถยนต์ติดไฟแดงที่บริเวณสี่แยกเขางู หมู่ 2 ต.เจดีย์หัก อ.เมืองราชบุรี เหตุเกิดเมื่อปี 49 สามี ส.ส.กอบกุล เผยขอบคุณตำรวจที่ทำงานหนัก ใช้เวลาสู้คดีมาเกือบ 10 ปี คนร้ายได้รับการลงโทษสูงสุดแล้ว
ศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิต ส.ท.ต่าย ฆ่า ส.ส.กอบกุล เปิดเผยขึ้นที่ห้องพิจารณา 915 ศาลอาญา เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ต.ค. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 และนายมานิต นพอมรบดี อดีต รมช.สาธารณสุข สามีนางกอบกุล นพอมรบดี อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย จ.ราชบุรี ผู้เสียชีวิต ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้องนายอนันตศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ หรือ ส.ท.ต่าย อายุ 50 ปี อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองราชบุรี นายวิญญู หรือเลิฟ รัตนวรรณี อายุ 38 ปี พ่อค้าขายผัก และนายอานนท์ หรือเอ็ม พันธ์รัตน์ อายุ 48 ปี คนดูแลโต๊ะสนุ้กเกอร์ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่า และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแล้วไตร่ตรองไว้ก่อน และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 นัดนี้นายมานิตสามีนางกอบกุลมาร่วมฟัง คำพิพากษา ขณะที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวนายอานนท์ จำเลยที่ 3 มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อฟังคำพิพากษา โดยก่อนหน้านี้นายอานนท์ ขอถอนฎีกาขอรับโทษตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ส่วนนายอนันตศักดิ์ หรือ ส.ท.ต่าย จำเลยที่ 1 ถูกคุมขังที่เรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่จะรายงานผลคำพิพากษาให้นายอนันตศักดิ์ทราบภายหลัง
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค.49 จำเลยทั้งสาม ร่วมกับนายสงัด หรือเปี๊ยก พุ่มเพ็ง ผู้ต้องหาที่เสียชีวิตไปแล้ว ใช้ปืนเล็กกลแบบเอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก ยิงนางกอบกุล นพอมรบดี อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคไทยรักไทย ถึงแก่ความตาย โดยถูกยิงที่ใบหน้า ศีรษะ หัวไหล่ซ้ายและขาขวา เหตุเกิด ขณะรถจอดรอสัญญาณไฟอยู่ที่บริเวณสี่แยกเขางู หมู่ 2 ต.เจดีย์หัก อ.เมืองราชบุรี ทำให้นายชาตรี ศุภรานันท์ คนขับรถของนางกอบกุลถูกยิงบาดเจ็บที่บ่าขวา ต้นแขนขวา และสะบักขวา และ จ.ส.ต.สายชล แก้วสายทอง ถูกเศษกระจกรถยนต์บาดเจ็บ
...
สาเหตุตามคำเบิกความของนายมานิตโจทก์ร่วมเกิดจากความขัดแย้งเรื่องโครงการก่อสร้างตลาด หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยึดปลอกกระสุนขนาด .223 ได้ 38 ปลอก ต่อมาวันที่ 1 มิ.ย.49 จับกุมนายอนันตศักดิ์ได้พร้อมของกลาง ปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. 14 ปลอก ปลอกกระสุนปืนลูกซอง วินเชสเตอร์ 1 ปลอก ปลอกกระสุนปืน .223 จำนวน 45 ปลอก ที่จำเลยทั้ง 3 มีไว้เพื่อซักซ้อมสังหาร ต่อมาวันที่ 3 มิ.ย.49 จับกุมนายวิญญูได้พร้อมของกลางรถกระบะโตโยต้าวีโก้ ทะเบียน บม 6149 นครศรีธรรมราช และวันที่ 4 มิ.ย.49 จับกุมนายอานนท์ได้ แต่นายอนันตศักดิ์ให้การปฏิเสธ ส่วนนายวิญญูและนายอานนท์ให้การรับสารภาพ
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 31 มี.ค.54 ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสาม แต่นายวิญญูและนายอานนท์จำเลยที่ 2-3 ให้การรับสารภาพลดโทษให้ 1 ใน 3 คงลงโทษจำคุกตลอดชีวิต และให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชดใช้เงิน 3 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.49 ซึ่งเป็นวันฟ้อง ให้กับนายชาตรีคนขับรถของนางกอบกุล ขณะที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.56 ที่พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ศาลฎีกาเห็นว่านายอนันตศักดิ์จำเลยที่ 1 ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 2-3 พิพากษายืนให้ประหารชีวิตนายอนันตศักดิ์ ส่วนนายอานนท์จำเลยที่ 3 ยื่นขอถอนฎีกานั้น ศาลฎีกาอนุญาต ให้นายอานนท์รับโทษ ตามจำคุกตลอดชีวิต ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ภายหลังนายมานิตกล่าวว่า คดีนี้ถึงที่สุดแล้วเมื่อศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาล อุทธรณ์ ให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 2-3 จำคุกตลอดชีวิต ใช้เวลาพิจารณาคดีมาเกือบสิบปี ถึงวันนี้ถือว่าจำเลยทั้งหมดได้รับการลงโทษสูงสุดแล้ว พยานหลักฐานสำคัญเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่ผ่านมาให้ชั้นสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำหน้าที่อย่างหนัก ใช้ความสามารถในการรวบรวมพยานหลักฐาน เก็บวัตถุพยานต่างๆกระทั่งสามารถเป็นหลักฐานให้ลงโทษจำเลยทั้งสามได้ ถือว่าได้รับความยุติธรรมคืนแล้ว