เมื่อวันที่ 20 ต.ค. เวลา 09.30 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจัดระเบียบและปรับภูมิทัศน์บริเวณคลองโอ่งอ่าง โดยมี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ผู้แทนสำนักงาน ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กรมศิลปากร ตำรวจ ทหาร เข้าร่วม โดย พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า ทาง กทม. เห็นใจผู้ค้าทุกราย และไม่สบายใจที่จะต้องรื้อถอนสิ่งรุกล้ำบริเวณดังกล่าว แต่ กทม.จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งนี้ การปรับภูมิทัศน์เพื่อจัดระเบียบพื้นที่สาธารณะซึ่งเป็นสมบัติของแผ่นดิน เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถใช้ร่วมกันได้อย่างเท่าเทียม ไม่ใช่พื้นที่ของคนใดคนหนึ่ง และยืนยันว่า ภายหลังปรับภูมิทัศน์พื้นที่ดังกล่าวแล้วจะไม่มีการค้าขายอีกแน่นอน
ด้าน พล.ต.ต.วิชัยกล่าวว่า จุดแรกที่ชุดปฏิบัติการทำการรื้อถอน คือบริเวณสะพานภานุพันธ์ ฝั่งสะพานหัน โดยจะทยอยรื้อถอนในส่วนที่มีผู้ค้าย้ายออกไปแล้วและเจ้าหน้าที่ก็ได้สำรวจทรัพย์สินเสร็จเรียบร้อย โดยขณะนี้ผู้ค้าได้ย้ายออกจากพื้นที่แล้วเกินกว่าครึ่ง ส่วนกรณีที่ผู้ค้าส่วนหนึ่งยื่นขอขยายเวลาในการรื้อถอน ตนจะนำเรื่องเข้าคณะกรรมการอีกครั้งหนึ่งว่าจะขยายเวลาหรือไม่อย่างไร
นายตุ๊ เจ้าของร้านเลี่ยมกรอบพระเครื่อง กล่าวว่า ตนเช่าบริเวณดังกล่าวจำนวน 4 ล็อก จ่ายค่าเช่าให้กับผู้ที่อยู่ก่อนเดือนละ 20,000 บาท เป็นเวลาประมาณ 2 ปีแล้ว ซึ่งเมื่อทราบคำสั่งที่ กทม.ได้มาปิดประกาศ ตนได้ขนของออกจากพื้นที่เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม หลังจากย้ายออกจากพื้นที่แล้ว ตนได้ไปติดต่อขอเช่าหน้าร้านตรงหัวมุมถนน ซึ่งห่างจากจุดเดิมประมาณ 100 เมตร ปรากฏว่าราคาสูงถึงเดือนละ 50,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการรื้อย้ายนั้น กลุ่มผู้ค้าจำนวนหนึ่งได้รวมกลุ่มกันตะโกนขอขยายเวลารื้อย้ายไปอีก 3 เดือน แต่ไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ และต่อมาบ่ายวันเดียวกัน ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล กลุ่มผู้ค้าย่านสะพานเหล็ก นำโดย น.ส.กัญจน์รัตน์ สุรวุฒินาค รวมตัวเข้าร้องเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ขอให้ชะลอการรื้อถอนในระหว่างการพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งกรุงเทพมหานคร ที่สั่งให้รื้อถอนร้านค้าบริเวณสะพานเหล็กและสะพานหัน โดยทางกลุ่มฯได้ยื่นอุทธรณ์ต่อกระทรวงมหาดไทย จึงขอให้นายกฯมีคำสั่งถึง กทม. ให้ระงับรื้อถอนไปก่อน เพื่อรอฟังผลอุทธรณ์.
...