รถติด,ขยะล้น,พลังงานเปลือง,น้ำท่วมบ่อย
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ศาลาว่าการ กทม. นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับโครงการศึกษาการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งเเวดล้อม ภายหลังองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา มีการลงนามความร่วมมือของประเทศสมาชิกเมื่อปี พ.ศ.2552 ว่า กทม.ได้ร่วมกับองค์การฯจัดทำโครงการศึกษาการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของ กทม. โดย กทม.ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นที่ปรึกษาโครงการ และมีข้อเสนอแนะจากผลการศึกษาเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของ กทม.และปริมณฑล ประกอบด้วย 1.การใช้ที่ดินและการขนส่ง พบว่า ปัจจุบันมีการใช้ที่ดินไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของผังเมือง มีพื้นที่สีเขียวเพียง 5.49 ตารางเมตรต่อ 1 คน ซึ่งตามมาตรฐานโลกกำหนดไว้ที่ 30 ตารางเมตรต่อ 1 คน ทางแก้ไขต้องพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคนมีรายได้ต่ำ ส่วนการขนส่งพบว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมามีปริมาณรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุกปี ส่งผลถึงปัญหาการจราจรติดขัด การปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมีฝุ่นที่มีความเข้มข้นสูง ต้องส่งเสริมระบบขนส่งสาธารณะ
2.การจัดการสิ่งแวดล้อม ขยะและน้ำเสีย มีข้อเสนอแนะให้เพิ่มศักยภาพการจัดการขยะ คัดแยกขยะ ขยายโครงการการนำกลับมาใช้ใหม่ของชุมชน เร่งสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ นอกจากนี้ กทม.พบว่ามีปริมาณน้ำเสียเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่ง กทม.มีโรงบำบัดน้ำเสีย 7 แห่งสามารถบำบัดน้ำเสียได้เพียงร้อยละ 46 และน้ำที่ไม่ได้รับการบำบัดถูกปล่อยออกไปภายนอก การแก้ปัญหาจะต้องเพิ่มทุนพัฒนาระบบการบำบัดน้ำเสีย และเก็บค่าบริการบำบัดน้ำเสีย 3. การใช้พลังงาน ปัจจุบัน กทม.ใช้พลังงานถึงร้อยละ 30 ของประเทศ และอัตราการบริโภคกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากกว่าอัตราการเติบโตของประชากร ทางแก้ไขต้องสร้างระเบียบให้ใช้พลังงานอย่างเหมาะสม และ 4.การป้องกันและฟื้นฟูหลังจากน้ำท่วม จากปัญหาที่ กทม.มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินอย่างมาก พื้นที่เกษตรกรรมหายไป แต่พื้นที่อยู่อาศัย การค้าเพิ่มขึ้น ทำให้สูญเสียระบบกักเก็บน้ำธรรมชาติ ทางแก้ไขต้องเพิ่มพื้นที่แก้มลิง พัฒนาศูนย์ข้อมูลพยากรณ์อากาศ.
...