ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ลงพื้นที่สั่งการ ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ เร่งรัดล่าตัวคนร้ายถล่มเอ็ม 16 รถเก๋งน้องชาย "องอาจ" ทำเจ็บ 3 ราย ใน 7 วัน เผยนำคดีตระกูลคล้ามไพบูลย์ ที่เคยเกิดในพื้นที่รวมเป็นประเด็นสืบค้นด้วย นอกจากนี้ ตร.พบปัญหาความขัดแย้งในการลงการเมืองท้องถิ่นที่มีการฟ้องร้องกัน

เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 58 ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี พล.ต.ต.วีระชัย วิสุทธิอุทัยกุล ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ณรัฐ รัตนจินดา ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ เร่งรัดหาตัวกรณีคนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มใส่รถเก๋งห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ทะเบียน ฌต 664 กรุงเทพฯ บริเวณถนนบ้านเกาะมะไฟ-บ้านทาม หมู่ 6 ต.บ้านทาม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ส่งผลให้ญาติ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ให้ได้เร็วที่สุด หลังจากเมื่อวาน พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา (ปป11) ได้ลงพื้นที่ประชุมติดตามและสั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ ให้ดำเนินการติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายให้เร็วที่สุด และลงพื้นที่จำลองเหตุการณ์จริงในวันเกิดเหตุ พร้อมคาดการณ์เร่งจับกุมคนร้ายให้ได้ใน 7 วัน

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ กำลังทำการสืบค้นหาพยานอื่นๆ และนำคดีของ ตระกูลคล้ามไพบูลย์ ที่มีในเขตพื้นที่ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ที่เคยเกิดขึ้น มาร่วมเป็นประเด็นในการสืบค้นครั้งนี้ด้วย นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะนำพยานหลักฐานต่างๆ สืบหาตัวคนร้ายและดำเนินการต่อเนื่องสืบหาผู้อยู่เบื้องหลังต่อไป

ค่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีประเด็นการสืบสวนใหม่เกิดขึ้นมา คือเรื่อความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่นของ นางจินตภาส์ ที่เคยร้องเรียนนายบุญลือ กรมระรวย และนายวชิระ กรมระรวย บุตรชาย ในการทุจริตการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 10 ตำบลบ้านหอย อำเภอประจันตคาม เมื่อปี 2555 ว่า มีการย้ายคนจากภูมิลำเนาอื่น เข้ามาอยู่ในบ้านก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งในขณะนั้น นายชาญชัย คล้ามไพบูลย์ เป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย ผลจากการเลือกตั้ง นายวชิระ กรมระรวย ได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งนางจินตภาส์ จึงได้ร้องเรียนไปยังจังหวัดปราจีนบุรี และผลการสอบสวนสรุปว่า ไม่มีการทุจริตการเลือกตั้งในครั้งดังกล่าว ต่อนางจินตภาส์ คล้ามไพบูลย์ ได้ร้องเรียนนายบุญลือ กรมระรวย และนายสายชล สนเจริญ และนายสมพงษ์ เศวตรัฐกุล ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิก อบต. หมู่ 10 ต.บ้านหอย อ.ประจันตคาม เรื่องย้ายคนจากภูมิลำเนาอื่นเข้ามาในบ้านก่อนการเลือกตั้งอีก การเลือกตั้งครั้งนี้ นางจินตภาส์ คล้ามไพบูลย์ ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย ผลการเลือกตั้ง นายบุญลือ นายสายชล นายสมพงษ์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิก อบต. และจากผลการร้องเรียน ทาง กกต.จังหวัด พิจารณาให้ใบแดงแก่ บุคคลทั้งสาม เมื่อเรื่องถึงศาล ได้ตัดสินให้นายบุญลือ ถูกใบแดงเพียงคนเดียว ส่วนนายสายชล และนายสมพงษ์ ไม่มีความผิดให้ดำรงตำแหน่ง สมาชิก อบต. หมู่ 10 ต.บ้านหอย ต่อไป

...

นอกจากนั้น นางจินตภาส์ ได้มีการร้องเรียนการทุจริตเงินกองทุนหมู่บ้าน โดยได้ร้องเรียน นายบุญลือ กรมระรวย ซึ่งเป็นประธานกองทุนหมู่บ้าน หมู่ที่ 10 ตั้งแต่ปี 2547 – 2552 มีการทุจริตเงินกองทุนหมู่บ้าน โดยนำเงินกองทุนหมู่บ้านในส่วนของเงินที่เป็นดอกผล เงินประกันความเสี่ยง เงินสัจจะ ไปใช้โดยไม่ผ่านขั้นตอนการประชุม และมีการอนุมัติโดยไม่มีหลักฐานการใช้จ่ายเงิน ไม่มีใบเสร็จ ไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งเรื่องร้องเรียนดังกล่าว สตง.ได้เข้าตรวจสอบปรากฏว่า พบการทุจริตตามร้องเรียนจริง นางจินตภาส์ พร้อมด้วยสมาชิกเงินกองทุนหมู่บ้าน จีงได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับ นายบุญลือ พร้อมกรรมการกองทุน 9 คน ว่าร่วมกันทุจริตเงินกองทุนหมู่บ้าน ที่ สภ.ประจันตคาม ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ในชั้นศาล

ต่อมา นางจินตภาส์ ยังได้มีการร้องเรียนการทุจริตโครงการน้ำดิบในหมู่บ้าน ซึ่งโครงการดังกล่าวใช้เงินงบประมาณในการก่อสร้าง ประมาณ 800,000 กว่าบาท เป็นโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนจาก SNL 400,000 กว่าบาท และเงินสนับสนุนจาก อบต.ประมาณ 400,000 บาท มีนายบุญลือ กรมระรวย พร้อมบุตรชาย ที่เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง เมื่อก่อสร้างเสร็จปรากฏว่าไม่สามารถใช้การได้ เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสอบสวนของจังหวัดปราจีนบุรี จากผลการสืบสวน ทำให้เจ้าหน้าที่ตั้ง ประเด็นการ